# วิถีชุมชนชาวอโศกคือ สัมมาสิกขาลัยวังชีวิต! ผู้ฝึกฝนตนอยู่ในชุมชนชาวอโศกในทุกวันนี้ คล้ายเข้าสมรภูมิดังคุณพรรษาว่าจริงๆ ด้วยว่ากิเลส ที่มีในตนถูกกระแทก-ถูกดูดดึงให้ออกมาแสดงตัวตน อย่างไม่รักหน้า เจ้าของซะเลย เหตุเพราะปัจจัยแวดล้อม อุดมไปด้วยเหยื่อของโลกธรรม อันมากมาย จากทุกทิศทาง ผู้กล้าฉีกหน้ากากตัวตน อันจอมปลอมของตน ออกเท่านั้น ที่จะได้ประโยชน์ ชำระกิเลส สร้างบารมีกับหมู่กลุ่ม มวลมิตร ผู้ตั้งใจมาลด มาล้างกิเลสกัน ถึงวันนี้ เราต่างก็รู้กันว่า เราต้องโตขึ้นเราต้องแข็งแรง เราจึงตั้งใจและเต็มใจฝึกตนกันเต็มที่ โดยมีท่านสมณะ และสิกขมาตุ เป็นพี่เลี้ยง ช่วยตัด-ต่อ-เติมเต็มให้ สังคมอย่างนี้ หาได้ที่ไหนในโลกนี้? ละอบายมุข-ถือศีลห้า ให้เกิดความเชื่อมั่น ขยับมาถือศีลแปดดู แล้วลองมาอยู่ด้วยกัน อาจจะสุข-เย็นกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้นะ - บ.ก.
ปัญหาอุปสรรคทำให้ผลผลิตต่ำ หากได้ลงมือทำเองก็จะชัดเจนในอุปสรรคและปัญหา เราควรบำรุงดินให้ดีก่อน ในวิถีธรรมชาติ ไร้สารเคมี เช่น หว่านพืชตระกูลถั่วคลุมดินแล้วคราดกลบดิน หรือใช้หมัก ทำปุ๋ยพืชสด หรือหากท่านใด ที่เคยแก้ปัญหา เช่นนี้ได้ มีข้อแนะนำอื่นๆ ก็ช่วยชี้แนะ กันด้วยนะ เราสนับสนุนผู้มีใจรักในกสิกรรมไร้สารพิษทุกๆท่านเสมอ และยินดี เป็นสื่อกลาง ให้ทำสิ่งดีๆกันด้วย - บ.ก.
ส่วนข้าพเจ้าเองก็พยายามพัฒนาตนเองมาเรื่อยๆ เมื่อก่อนเป็นคนหงุดหงิด โมโหง่าย แต่ตอนนี้ เบาลงไปเยอะ ในเรื่องความเครียด กลัว โมโห หงุดหงิด และกลับกลายเป็นคน มีจิตเมตตาแทน คือไม่เบียดเบียน ทั้งเพื่อนมนุษย์ และสัตว์ แมลงตัวเล็กตัวน้อย ก็ไม่กล้า ที่จะฆ่า แม้แต่มดยุง ก็ยังไม่กล้าที่จะเอาชีวิต ของมันเหมือนก่อน บางครั้ง เข้าห้องน้ำ เห็นแมลงตกลงหัวส้วม ก็ช่วยชีวิตมันขึ้นมา เพราะว่านึกถึงตนเอง ที่ถูกคุมขัง ก็เหมือนแมลง ที่ตกลงหัวส้วม เพราะมันไม่สามารถช่วยเหลือตัวเอง มันก็คงมีความทุกข์ทรมาน เหมือนมนุษย์ เราที่ถูกขัง เพราะการกระทำผิดของตน เมื่อก่อนข้าพเจ้าได้สร้างบาปกรรมไว้เยอะมาก โดยเฉพาะปลา แต่ที่ทำลงไป ก็เพราะความไม่รู้ ไม่เข้าใจ ในบาปบุญ คุณโทษ ไม่เข้าใจถึงหลักธรรมคำสอน ของพระพุทธองค์อย่างแท้จริง โดยเฉพาะศีล ๕ ข้อแรก คิดแต่ว่าการปฏิบัติ หรือถือศีล เป็นเรื่องของพระ ของนักบวช ฆราวาสที่ต้องทำมาหาเลี้ยงชีวิต คงไม่เป็นบาปกรรมอะไร จึงได้ทำไป ตามอำนาจกิเลส ของตนเองพาไป เข้าหนักก็กลายเป็นคนเลี้ยงชีพ ด้วยการ เอาเปรียบสังคม เห็นแก่ตัว พอได้มาเรียนรู้และอ่านจากหนังสือของพ่อท่านสมณะโพธิรักษ์ จึงไม่กล้าทำบาปกรรม อีกต่อไป และได้เข้าใจ ในวันนี้ว่า เนื้อสัตว์ทุกชนิดไม่ใช่อาหารมนุษย์ ตามที่ตนเองเข้าใจ ตามความคิดเก่าๆ ของคนเก่าๆ ที่ถือตามๆกันมา สัตว์ที่ถูกกักขัง หรือเลี้ยงมาเพื่อ ที่จะฆ่า เป็นอาหารให้แก่มนุษย์ ต้องมีความทุกข์ทรมานใจ เช่นเดียวกับมนุษย์ ที่มีความทุกข์ ทรมาน อยู่ในกรงขัง แต่มนุษย์ถูกคุมขังเพราะผลแห่งการกระทำของตนเอง ยังมีจิตเป็นทุกข์ ไม่อยากอยู่รับใช้กรรม ตามที่ตนเองได้กระทำมาเลย สัตว์ถูกมนุษย์เบียดเบียน มันจะรู้สึก ทรมานขนาดไหน เมื่อข้าพเจ้ารู้สึกสำนึกได้และพบกับคำสอนดีๆจากชาวอโศก จากพ่อท่าน จึงไม่คิดหวน กลับคืน ไปเป็นเช่นอดีต ที่ผ่านมา จึงเกิดความเพียรพยายามตามชาวอโศก และเป็น ความโชคดีอย่างยิ่ง ที่ได้รู้จักชาวอโศก แม้จะเป็นเพียงแค่ รู้จักทางสื่อ ก็รู้สึกมี ความอบอุ่นใจเหมือนได้อยู่ใกล้ๆหมู่กลุ่ม เพราะว่าการที่ได้รับ หนังสือ สารอโศก ดอกหญ้า ทุกเดือน ทำให้มีความรู้สึกเป็นเช่นนั้น เพราะกำลังใจ ที่ได้รับจากชาวอโศกนั้น มันแสนอบอุ่นมากจริงๆครับ จากการที่ได้รับฟังคำสอนของพ่อท่าน ทำให้มีความรู้สึกสำนึกดี
รับใช้กรรม ด้วยความไม่ทุกข์ ไม่ทรมาน เหมือนที่ผ่านมา เมื่อหลงมายาหลงโลกียสุขมากก็ทุกข์มาก
ข้าพเจ้ากราบขอบพระคุณพ่อท่าน และชาวอโศก อย่างยิ่ง ที่ทำให้ข้าพเจ้า
ได้รู้จักความทุกข์ และปฏิบัติตนอยู่กับความทุกข์อย่างสุขสงบได้ในทุกวันนี้
เหมือนมี แสงเทียนเล็กๆ ที่กำลังไล่ความมืดในใจให้แก่ข้าพเจ้าแล้วก็คือแสงธรรมจากชาวอโศก....ครับ แม้จะถูกจำกัดอิสรภาพ ด้วยอกุศลวิบากในอดีต แต่ปัจจุบันหากเรียนรู้หมั่นฝึกตรวจตน ด้วยศีลห้า เว้นจาก อบายมุขให้จริง จะเข้าใจตนเองเข้าใจผู้อื่นมากขึ้น จะพึ่งกรรม ของตนเองได้ อดีตเป็นบทเรียนที่ดี ของปัจจุบัน ตั้งใจทำให้จริง ไม่มีใครทำให้เราดีขึ้นได้ เท่ากับตัวเราเอง - บ.ก.
ก่อนนี้ผมนอนหงายไม่ได้มาเป็นเวลานาน เพราะอึดอัดต้องเปลี่ยนท่านอนบ่อย
เวลานอน แม่บ้าน เอามือมาผลัก ผมบ่อยๆ บอกรำคาญเสียงกรน บางครั้งคิดว่า ผมยังไม่ได้หลับ
ด้วยซ้ำ เขาบอกกรนอีกแล้ว เขาอยากเอาอย่างอื่น ผลักแทนมือ เหลือเกิน แต่ทุกวันนี้
เขาไม่ได้ผลักผมอีกเลย หนังสือของอโศก ที่ผมอ่านประจำคือ เราคิดอะไร สารอโศก
ดอกหญ้า ดอกบัวน้อย ซาบซึ้งและบูชาในคำสอนของพระพุทธองค์ที่พ่อท่าน นำมาถ่ายทอด
รวมทั้งสาระ เรื่องราว ที่สำคัญ ตลอดจนแง่คิดต่างๆที่เหล่าสมณะและคณะผู้จัดทำนำเสนอ
ประทับใจมาก กับการใช้คำ และความ ในการเขียนกลอน ของอิสรา ประทับใจ ในคุณค่าของ
หนังสือที่ได้รับ ขอกราบขอบพระคุณอีกครั้ง กับกลุ่มอโศก ที่ให้แนวทางเดิน
กับชีวิต ถึงแม้จะปฏิบัติได้ไม่ถึงขั้นดี แต่ก็กล้าพูดได้ว่า "
เกิดมาไม่เสียชาติเกิด" อนุโมทนากับการกล้าเปลี่ยนแปลง" ทำ" ในสิ่งที่" ดีกว่าเดิม" ทำให้ชีวิตผาสุกขึ้น ทั้งโดยส่วนตัว และครอบครัว ผู้อยู่ใกล้ชิด - บ.ก.
ไม่ใช่ใครอื่นก็พ่อแม่ ดิฉันไม่ได้เอาเป็นเอาตายมีเรื่องกับท่านทุกวันหรอก
อย่าเพิ่งตกใจ นานๆ ถึงจะมี การฉะกันบ้าง แต่ดิฉันก็พยายาม เลี่ยงเสมอ เพราะไม่ว่าจะกี่ครั้งกี่เรื่อง
ก็จบลงแบบไม่เข้าใจ ไม่รู้เรื่อง ทำได้ดีในปัจจุบัน คือพูดกับท่าน ให้น้อยที่สุด
มีเรื่องอะไร ปัญหาอะไรให้คนอื่นแนะนำ ดิฉันอย่าเป็นอันขาด ดิฉันเชื่อ ในเรื่องบารมี
เรื่องกรรมเรื่องบุญ มันเกี่ยวเนื่องกันจนปัจจุบัน ดิฉันเข้าใจว่าตบะบารมีดิฉันไม่มี
พูดอะไรไป จะถูกค้านแย้ง ตลอด ทั้งๆที่พูด เหมือนๆกับคนอื่น แต่จะไร้น้ำหนัก
ดิฉันจึงต้องล้างกิเลสตัณหาต่อไป เพื่อเพิ่มบารมี สง่าราศีแก่ตัว บ่อยครั้งที่เวลา
ต่อปากต่อคำ กับท่านทำให้จิตดิฉัน ตกต่ำมากๆ มีความรู้สึกเสียดายเวลา ขึ้นมาทุกที
สิ่งนี้แหละ ทำให้ดิฉันพยายาม ไม่เข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องหรือปัญหาของคนในครอบครัว
เรียกว่า อย่างไหนควรแยก อย่างไหนควรยุ่ง(เกี่ยว) โดยแท้โดยจริงๆแล้วปัญหาก็ไม่ใช่ปัญหา
มันเหมือนกับซาตาน อะไรแว๊บๆเข้ามา ให้จิตใจตกต่ำ ตามมันไม่ทันอะไรปานนั้น
สุดท้ายก็ไม่เห็นจะมีอะไร เสียสุขภาพจิต ก็เท่านั้น แถมบาปเพิ่มให้อีก ศีล
๕ ช่วงนี้ไม่ผ่าน ช่วงนี้ก็แก้ไขตนเองไป ไหนว่าเชื่อเรื่อง" กรรม" ไงล่ะ ทำไมไม่รีบปรับ-แก้ไขกรรมปัจจุบันให้ดีให้เหมาะ โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง พ่อ-แม่ บุพการี ผู้มีพระคุณ ของเราด้วยแล้ว ยิ่งต้องยอมยกให้ในหลายๆ กรณีทีเดียว ลองหัดทำเป็นยอมดูซิ! ไม่ต้องคิดอะไรมาก คิดอยู่อย่างเดียว " เพื่อทดแทน พระคุณ" ลองทำดู แม้แรกๆจะต้องฝืนมาก จะต้องลำบากใจ อย่างมากก็ตาม ลองขยัน ทำการทำงานขึ้นกว่าเดิมสักนิด ลองปรนนิบัติพัดวี เอาใจใส่ดูแลท่านบ้าง เล็กๆน้อยๆ หัดกราบขออภัย ในสิ่งที่แล้วๆมาดูบ้าง ทั้งหมดนี้หากยังทำจริงๆไม่ได้ ก็ลองคิดจะทำ ทุกๆคืน ก่อนนอน เพราะใครจะรู้ว่า หากเราต้องตายจากกัน ทั้งที่จิตใจยังผูกพยาบาท กันอยู่อย่างนี้ ทุคติเป็นอันหวังได้แน่ๆ ถ้ามัวแต่เกี่ยง ให้ผู้อื่นปรับเปลี่ยนก่อน ชีวิตคุณสรญา คงจะเดือนร้อนใจไปเรื่อยๆแน่นอน เพราะไม่มีใคร พ้นจากทุกข์ได้ เพราะผู้อื่น นอกจาก เราจะทำตัวเราเองนะ - บ.ก.
สำหรับตัวผมไม่เดือดร้อนอะไรมากนัก เนื่องจากบ้านอยู่ที่สูง ทำเลบ้านดี
พยายามสำรวจ ตัวเอง อยู่เสมอว่า ในแต่ละวัน เราขาดศีลขาดธรรมไปบ้างหรือไม่
การอ่านหนังสือดอกหญ้า สารอโศก ทบทวนอยู่เสมอ เพราะอยู่ ในท่ามกลาง ท้องถิ่นที่ยังเต็มไปด้วยอบายมุขมากมาย
คิดว่าเป็นบุญของตัวเองแล้ว และชีวิตได้เดินถูกทาง จึงทำให้จิตใจ เข้มแข็ง
ทำให้ชีวิต ห่างไกล จากอบายมุข การดำรงชีวิตอยู่ให้ได้ในท่ามกลางกระแสโลกย์อย่างรอดปลอดภัย ต้องมีความมั่นคง-มั่นใจ ในศีลแห่งตน พุทธธรรมสอน ให้ลดความเห็นแก่ตัว เป็นภาระน้อย เอาภาระมาก จึงจะเป็นอยู่ ผาสุก สังคมทุกข์ -เดือดร้อน แม้ธรรมชาติ ก็ถูกนำออกใช้ อย่างทดแทนกัน ไม่ทัน ทำให้เสียสมดุลจนเกิดปัญหาเดือดร้อนรุนแรงกันปานนี้ ปัญหาอันยิ่งใหญ่นี้ ตั้งต้นแก้ไข ต้องเริ่ม นับหนึ่ง ที่เราแต่ละคน ต้องฝึกประหยัด ตั้งแต่น้ำ-ไฟฟ้า-เชื้อเพลิง ทุกรูปแบบ ฯลฯ และการนำ กลับมาใช้ใหม่ ของกระดาษ ถุงพลาสติก หรือการใช้ปิ่นโตหรือถุงผ้า แทนการ ใช้พลาสติก เหล่านี้จะช่วยลดการใช้ทรัพยากรจากธรรมชาติลงได้มาก หากเราช่วยกันคนละไม้คนละมือ คงจะช่วยยืดเวลา การใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ออกไปได้บ้างกระมัง? - บ.ก.
ตอนนี้ผมได้ตกลงกับภรรยาว่าในช่วงวันเข้าพรรษาปี'๔๗ นี้ ในวันพระจะกินมื้อเดียว
ภรรยา ก็ตกลงแล้ว และก็เข้าใจด้วย เพราะตอนนี้ภรรยาก็รักษาศีล ๕ ด้วยเหมือนกัน
แต่ภรรยา ยังกินสามมื้ออยู่ ผมก็จะพยายาม ให้ปฏิบัติ ได้เหมือนผมครับ กะปิ น้ำปลา แม้จะเป็นชีวิตสัตว์เล็กสัตว์น้อยก็เป็นชีวิตนะ หากเข้าพรรษาปีนี้จะลอง ใช้ซีอิ๊ว แทนน้ำปลา กะปิหมัก จากถั่ว แทนกะปิเคย ก็จะน่าอนุโมทนายิ่งนัก หากงดเนื้อสัตว์ ได้บริสุทธิ์ การลดมื้ออาหาร จะทำได้ดีขึ้นด้วย - บ.ก. - สารอโศก อันดับที่ ๒๗๒
มิถุนายน ๒๕๔๗ - |