กรรมตามสนอง - ล.พุทธิธาร -

รอยบุญรอยบาป


การรณรงค์หยุดเหล้าเข้าพรรษา เป็นสิ่งที่น่าอนุโมทนาทุกฝ่ายทุกคนที่มีส่วนร่วม และควร จะมีตลอดไป เมืองไทยเป็นเมืองพุทธศาสนา แต่จะเห็นว่า งานบุญงานกุศลงานมงคลต่างๆ จะมีการส่งเสริมหรือฆ่าสัตว์มาทำอาหารเลี้ยงกันกิน และขาดไม่ได้ คือ จะมีการเลี้ยงสุรา เหล้ายาของมึนเมาทุกอย่างแบบไม่อั้น ไม่มีเงินทองก็ต้องไปหยิบยืมกู้หนี้มา จะขาดเหล้า สุรา ถือว่างานนั้นเป็นกระจอกไปเลย กลายเป็นค่านิยมผิดๆไปแล้ว

งานที่อ้างว่าเป็นงานบุญกลายเป็นงานทำบาปทำกรรม งานกุศลก็กลายเป็นงานอกุศล งานมงคล ก็เป็นงานอัปมงคล เพราะไปเบียดเบียนส่งเสริมการฆ่าสัตว์มาเป็นอาหาร รอยบุญ มีนิดเดียว รอยบาปมากมาย

การดื่มเหล้า ถ้าดื่มบ่อยๆจุดเมาที่เคยอยู่ที่แก้วแรกหรือแก้วที่สอง จุดเมาก็จะขยับขึ้นไป เรื่อยๆ โดยไม่รู้ตัว เลยต้องดื่มมากขึ้น เช่นจากเดิมแค่แก้วสองก็เริ่มเมา ก็ขยับกลายเป็น แก้วสามแก้วสี่จึงเมา เป็นการประมาท เบียดเบียนตนเองและครอบครัว เสียทรัพย์ และเกิดโรคภัยไข้เจ็บ ดื่มแล้วเมาขาดสติเกิดการทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายและ ฆ่ากัน พ่อลูกพี่น้องเพื่อนสนิทฆ่ากันเอง ยิ่งไปขับขี่รถ เมาครองสติไม่ได้ ทำให้เกิดอุบัติเหตุมาก สถิติ ในช่วงสงกรานต์ต้นปี อุบัติเหตุคนบาดเจ็บ ตาย เกี่ยวเนื่องจาก เกิดจากเมาแล้วขับ ร้อยละเก้าสิบ หมายความว่า คนไม่ได้ดื่มเหล้าเลย แต่บังเอิญไปใช้รถใช้ถนนในขณะนั้น ไปถูกพวกที่เมาแล้วขับ โดยมากขับเร็วมาก ไม่ใช้ตีนคนขับ (ตีนผี) ขับชนอย่างแรง ทำให้คน บาดเจ็บล้มตาย ตามโรงพยาบาล ปกติคนไข้ก็มากอยู่แล้ว ระยะเวลาดังกล่าว อุบัติเหตุ ทำให้คนบาดเจ็บมากมาย ต้องนอนรอการรักษาอยู่เต็มนอกห้อง จะเห็นว่าคนเจ็บเหล่านี้ เหมือนมาแซงคิว ซึ่งปกติคนไข้เขามีคิวรักษาโรค ต้องรอคิวรอเวลาตามนัดมาก่อนมาหลัง แต่กรณีอุบัติเหตุที่เกิดจากความประมาทเหล่านี้ ต้องรีบส่งโรงพยาบาล เพราะส่วนใหญ่ อาการหนักจะเข้าทำการรักษาเลย กรณีนี้ถ้าผู้บาดเจ็บไม่ได้เมาแล้วขับก็น่าเห็นใจมากๆอยู่ และ พวกเราน่ามาคิดว่าพวกที่เมาแล้วขับกับพวกที่เมาสร้างความเดือดร้อน จะทำอย่างไรดี กับพวกเหล่านี้ ที่จริงผู้ผลิตเหล้าสุราเบียร์ต่างๆ ควรจะมีส่วนเกี่ยวข้อง และมีส่วน รับผิดชอบด้วย เพราะจากการสัมภาษณ์พวกที่เมาแล้วขับ และเจ็บจากอุบัติเหตุ นอนรักษาตัว ที่โรงพยาบาล ส่วนมากเกินครึ่ง รับว่าดื่มเบียร์ ยี่ห้อที่โฆษณามาแรง ทางทีวีตอนนี้

เคยมีนายทหารใหญ่ไปถามพระเถระรูปหนึ่งว่า ถ้าผมดื่มเหล้าอย่างมีสติ จะผิดไหม พระเถระ ท่านตอบแบบเมตตาว่า "ถ้ามีสติจริงๆ จะไม่ดื่มหรอกโยม"

มีคนอยู่พวกหนึ่ง เวลาซื้อรถใหม่ ต้องเอารถไปให้พระเจิมหน้ารถ พระท่านน่าจะสอน ธรรมะเลยว่า ไม่ต้องไปเจิมมันหรอก มันไม่มีชีวิต จะเจิมต้องเจิมหน้าคนขับพร้อมสอนว่า ๑.ก่อนหรือเวลาจะขับรถ ต้องไม่ดื่มเหล้าของมึนเมาทุกอย่าง ๒.ตรวจดูสภาพรถ ให้ดี ก่อนขับ หรือขี่ ๓.ต้องรู้กฎจราจร ๔.ไม่ประมาทเวลาใช้รถใช้ถนน แล้วดูว่า เจิมรถกับ เจิมคนขับ อย่างไหนจะขลังกว่ากัน?

การดื่มเหล้าของมึนเมาทุกชนิด เกือบทุกศาสนาเป็นข้อบัญญัติห้าม ศาสนาพุทธ ก็อยู่ในศีล ข้อที่ห้า ให้ละเว้นการดื่มสุราของมึนเมาทุกชนิด แม้เป็นศีลข้อสุดท้าย แต่ถ้าผิดศีลข้อนี้ ทำให้ละเมิดศีล ทุกข้อได้ จะยกตัวอย่างนิทานของชาติตะวันตกเรื่องหนึ่ง ที่สะท้อน ให้เห็นความจริงข้อนี้

เรื่องมีอยู่ว่า มีบาทหลวงประจำอยู่โบสถ์เล็กๆแห่งหนึ่ง ประกอบพิธีทางศาสนา ให้ชาวบ้าน สั่งสอนชาวบ้าน อยู่มาหลายปี วันหนึ่งมีคหบดีผู้มั่งคั่งจากการผลิตไวน์รัฐหนึ่ง กำลังจะเปิด โรงงานไวน์อีกแห่ง จึงให้คนมาเชิญบาทหลวงไปเป็นประธานเปิดงาน วันนั้นบาทหลวง พร้อมคณะ เดินทางด้วยรถม้าหลายคัน ไปร่วมพิธีเปิดโรงงานไวน์ วันกลับก็ได้รับเงินบริจาค ก้อนใหญ่ พร้อมไวน์รุ่นดีกรีแรงกว่าเดิม มาหลายสิบถัง เพื่อไปแจกชาวบ้านเป็นการโฆษณา ไปในตัว (อากาศหนาวมีหิมะตก การดื่มไวน์เป็นข้อแก้ต่างได้มั้ง?) การเดินทางต้องผ่าน ป่าใหญ่ ต้องใช้เวลา ๒-๓ วัน ในคืนที่ ๒ โจรได้ข่าวขบวนเกวียนนี้ มีทั้งเงินและเหล้า ที่พวกมันชอบ จึงมาดักปล้น พวกโจรอำมหิตได้ปล้นฆ่าผู้คนเกือบหมด เหลือผู้ติดตาม ใกล้ชิดบาทหลวง ลูกสาวผู้ใกล้ชิด และบาทหลวง เหลือสามคนเท่านั้น ถูกพวกโจรจับมัดมือ ไขว้หลังไว้ในกระโจม พวกโจรมีการเลี้ยงฉลอง เอาไวน์มาดื่มอย่างเมามัน หัวหน้าโจร เดินส่ายไป ส่ายมาพร้อมลูกสมุน หลังดื่มหลายแก้ว พยายามเดินมาที่กระโจม ที่จับบาทหลวงไว้ หัวหน้าโจรเมาเกิดคิดพิเรนทร์ ให้ลูกสมุนแก้เชือกมัดมือ ของบาทหลวง และบังคับ ให้บาทหลวง มาดื่มไวน์ชนิดแรงเป็นพิเศษกับตน บาทหลวงปฏิเสธ หัวหน้าโจร เมามากเริ่มโกรธ ตะโกนบังคับให้บาทหลวงเลือกทำหนึ่งอย่างในสามอย่างคือ ๑. ให้ดื่มไวน์ ให้หมดถังขนาดกลาง ๒.ให้ฆ่าคนที่ติดตาม หรือ ข้อ ๓.ให้ข่มขืนลูกสาวคนติดตาม แรกๆ บาทหลวงปฏิเสธ ทั้งสามข้อ หัวหน้าโจรประกาศ ถ้าทำตามข้อใดข้อหนึ่ง ก็จะปล่อยทั้งสาม เป็นอิสระ หรือไม่ทำตามก็จะทำเองทั้งสามข้อรวมข้อสี่ คือ ฆ่าบาทหลวง บาทหลวงมานึก ถ้าดื่มไวน์ คนอื่นก็ไม่เดือดร้อน จึงจำใจดื่มไวน์ ดื่มจนหมด แม้คนใกล้ชิดและลูกสาว ของคนใกล้ชิด จะพยายามพูดห้ามหรือพยายามแสดงทุกสื่อ เช่น ทางสายตา ทางใบหน้า เพื่อห้าม บาทหลวง เริ่มเมา ขณะที่พวกโจรก็ไม่ได้อยู่ในกระโจม บาทหลวงเริ่มชายตา มาที่ลูกสาวของคนใกล้ชิด และตรงเข้าลวนลาม สุดท้ายก็ข่มขืน ในขณะที่ผู้หญิง ถูกเชือก มัดมืออยู่ คนใกล้ชิดตะโกนห้ามก็ไม่สนใจ หลังจากนั้นก็บันดาลโทสะ ฆ่าคนใกล้ชิดที่ห้าม และด่าในสิ่งที่ตนกระทำ

เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า เมื่อดื่มสุราหรือของมึนเมาทุกชนิดจนครองสติไม่อยู่ สามารถทำผิด ได้ทุกอย่าง เคยถามผู้ปฏิบัติธรรมว่า ถ้าเรื่องนี้เป็นท่าน ท่านจะเลือกทำข้อใด ท่านตอบ ได้กินใจมากว่า ไม่เลือกสักข้อ แม้ต้องถูกพวกโจรฆ่าตายก็ยอม เรารักษาศีล ศีลก็รักษาเรา ไม่ยอมละเมิดศีล ข้อใดเป็นอันขาด กลัวเกิดมากกว่ากลัวตาย และด้วยไหวพริบ และ ปฏิภาณ ของผู้รักษาศีลท่านนั้น ท่านพูดด้วยเมตตาว่า ผลเกิดจากเหตุ ไม่รับไปเปิด หรือ ไปร่วมเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ผิดศีลและธรรม ก็หมดเรื่อง

- สารอโศก อันดับที่ ๒๗๒ มิถุนายน ๒๕๔๗ -
ISSN 0857-7585