- แม่น้ำ ลักขิตะ - อย่าปล่อยเวลาให้ล่วงเลยโดยเปล่าประโยชน์ "เวลาไม่เคยคอยใคร เราคงจะวางใจไปว่า อายุคนเฉลี่ยแล้วยืนยาวถึง ๖๐ ปี ในแต่ละปีมีตั้ง ๓๖๕ วัน ในแต่ละวัน มีเวลาเหลือเฟือตั้ง ๒๔ ชั่วโมง ด้วยเหตุนี้กระมัง จึงใช้ชีวิตอย่างผัดวัน ประกันพรุ่ง ไม่ให้ความสำคัญต่อปัจจุบัน โดยสัจจะแล้วพรุ่งนี้เป็นเพียงมายา เป็นความว่างเปล่าที่เอาแน่ไม่ได้ เราสร้างบ้าน ในอากาศ ไม่ได้ฉันใด คิดทำสิ่งใดในอนาคตก็ไม่ได้ฉันนั้น ชีวิตเรามีอยู่แค่ปัจจุบัน ณ จุด แห่งวินาทีนั้นเรายังมีลมหายใจ เวลาเกิดกับเวลาตายก็คือเสี้ยววินาทีเดียวกัน จะต่างเพียง ระยะห่างของการมีชีวิตเท่านั้น ชีวิตนี้น้อยนักสั้นนัก คิดทำสิ่งใดให้รีบลงมือ อย่าผัดวันประกันพรุ่ง ใครเล่าประกันว่า เราจะอยู่ได้ถึงวันพรุ่ง การผัดวันประกันพรุ่ง ทำให้เราสูญเสียอะไรหลายอย่างในชีวิต... สูญเสียเวลาไปเปล่าดาย... เวลาก็เหมือนกับสายน้ำ หลั่งไหลลงจากยอดดอยอย่างไม่เคยผ่อนพัก ผ่านกรวดหินก้อนแล้วก้อนเล่า กระทั่งออกสู่ทะเล เปรียบดังชีวิตคนคนหนึ่ง เดินทางผ่านวันวัยไปสู่ความตาย ไม่มีการผ่อนพัก หรือว่ายั้งหยุดแม้แต่น้อย ณ เสี้ยวเวลานั้นๆ หากเราไม่ลงมือกระทำกรรมอันใดลงไป ห้วงเวลานั้นก็ว่างเปล่า และเราจะไม่มีวันเอากลับคืนมาได้อีก กรรมกับกาละเป็นของคู่กัน หากกรรมไม่ก่อเกิด กาละ ก็ว่างเปล่า ปราชญ์รู้จักใช้กรรมกับกาละให้เกิดผล... เมื่อสายน้ำไม่ไหลย้อนทวน กระแส อายุขัยที่ล่วงไปไม่หวนคืนสู่ชีวิตคนเช่นกัน ผ่านแล้วผ่านเลย สูญเสียนิสัยที่ดี... เป็นการสั่งสมความขี้เกียจ ไม่เอาจริง ไม่ขยัน เฉื่อยเนือย ขาดความกระตือรือร้น การผัดวัน ประกันพรุ่ง จึงทำให้เราเสียนิสัยที่ดีๆไป เด็กเสียนิสัย ผู้ใหญ่ไม่รักเอ็นดู ส่วนผู้ใหญ่เสียนิสัย สังคมไม่ยอมรับ คนเสียนิสัยยากจะประสบความสำเร็จในชีวิต ล้มเหลวไปเสียทุกอย่าง เหมือนสินค้า ผลิตไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีใครเขาต้องการ ราคาต่ำ...คนเสียนิสัยก็เฉกนั้น ค่าของชีวิตตกต่ำ ไร้คนคบค้า สูญเสียความเชื่อมั่น... คนชอบผัดวันประกันพรุ่งจนเป็นนิสัย นับวันจะขาดความมั่นใจ ตัดสินใจช้า ไม่กล้าเสี่ยง ขาดความเชื่อมั่นในตน คนประเภทนี้เป็นผู้นำไม่ได้ ทำงานใหญ่มีแต่ชะงักกับพังครืน เท่านั้น น้อยนักหรือแทบไม่เลยจะประสบผลสำเร็จ ผู้นำที่ดีต้องแววไว รอบคอบ เฉียบขาด รวดเร็ว จึงนำคนทั้งหลายไปถึงเป้าหมายได้ ในกระบวนศึกสงคราม แม่ทัพหากขาดความเชื่อมั่น ตัดสินใจรุกหรือถอยช้า ก็อาจปราชัย-สูญเสีย กำลังพลอย่างย่อยยับ ฉะนั้น เราจะไม่ปล่อยเวลาให้ล่วงเลยโดยเปล่าประโยชน์ เพราะเท่ากับว่า เราปล่อย ความสำเร็จให้สูญเปล่าไป แล้วชีวิตเรายังต้องตายอย่างไร้ค่า ตายอยู่เรื่อยๆทุกเสี้ยวเวลา - สารอโศก อันดับที่ ๒๗๒
มิถุนายน ๒๕๔๗ - |