แถลง

เมื่อตัวตน (อัตตา) ลดน้อยลงไป
จึงสามารถช่วยผู้อื่นได้มากมายขึ้น

ในทิศทางของการพัฒนามนุษยชาติ พ่อท่านพาทำระบบบุญนิยมในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การศึกษาบุญนิยม เศรษฐกิจบุญนิยม ชุมชนบุญนิยม หรือแม้แต่ศาสนา บุญนิยมก็ตาม ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้สังคม สามารถมีตัวเลือกเพิ่มขึ้น ดูเหมือน ระบบบุญนิยมต่างๆ เหล่านี้ จะไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาลบ มากกว่าบวก เท่ากับการเมืองบุญนิยม

เพราะที่ผ่านๆมาการเมืองเป็นเรื่องของการแสวงหาอำนาจและผลประโยชน์ มีทั้งกลโกง และกลไกลที่สกปรก จนต้องกันศาสนาไม่ให้เข้ามาแปดเปื้อน ในวงจรน้ำเน่า ที่เต็มไปด้วย มลพิษชนิดรุนแรง แต่งานนี้พ่อท่านกลับมีความตั้งใจว่า ตัวท่านเองอายุมากแล้ว เจ็ดสิบปีเข้าไปแล้วต่อไปนี้ก็เดินทางไปสู่หลุมฝังศพเท่านั้นเอง ดังนั้น ในช่วงสุดท้าย ของชีวิตเรื่องสำคัญที่ท่านตั้งใจจะกระทำทิ้งเอาไว้ในโลกนี้ก็คือ การทำการเมือง ให้มีคุณธรรม ระดับโลกุตระ แม้ว่าตัวท่านเองจะแปดเปื้อนถูกเขาเหยียดหยามย่ำยี เป็นหมูเป็นหมา เป็นอรหันต์จี้กง บ้าๆบอๆอะไรก็แล้วแต่ เพราะท่านแน่ใจมั่นใจ ถึงสิ่งที่ท่านกระทำ ๒ ประการด้วยกัน คือ

๑. ได้พิจารณาอย่างชัดเจนว่า เราทำงานให้กับสังคมนี้เราทำเพื่อเห็นแก่ตัวเพื่อกอบโกย เอาผลประโยชน์ มาเข้าตัวหรือไม่? หรือเรากำลังทำสิ่งเลวร้าย ไม่ดีไม่งาม ให้กับสังคม หรือไม่? และก็ไม่ได้ทำงาน เพื่อที่จะได้รับคำยกย่องเชิดชู จนใครจะมาลบหลู่ ดูแคลน หรือด่าทอไม่ได้ ใครจะลบหลู่ดูถูกก็ไม่ว่ากัน สำหรับ ผู้ที่เขายังไม่เข้าใจ แต่ตัวท่านเอง มั่นใจและแน่ใจว่า สิ่งที่กำลังทำอยู่นี้ เป็นสิ่งดีเป็นสัจธรรม ที่จะทำให้แก่มนุษยชาติ แม้จะมีใครว่า หลงตัวหลงตนอะไรก็ตามใจ ไม่มีปัญหา

๒. ท่านมั่นใจในความจริงที่ยืนหยัดยืนยันมาสามสิบกว่าปี ก็มีผู้รู้ที่เข้าใจได้มาบ้างแล้ว ส่วนหนึ่ง ดังนั้น เมื่อเนื้อหาของสัจจะ ที่ทำให้คนในสังคมมีคุณธรรม คุณภาพในด้านต่างๆ ของชีวิตดีขึ้น ท่านก็เห็นว่า น่าจะสร้างเนื้อหา ของสัจจะให้เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ แม้ว่าปริมาณ คนที่รู้และเข้าใจ จะมีเป็นปริมาณน้อย จากกี่ต่อก็แล้วแต่ อาจจะเข้าใจได้แค่ ๑ ใน ๑๐ ส่วนก็เอา แม้คนส่วนใหญ่จะเข้าใจผิด แต่ท่านคิดว่า ท่านไม่มีอัตตามาก ขนาดจะยอมเสีย ยอมเปลืองตัว ให้กับสังคมไม่ได้

พวกเราบางคนประทับใจในวิถีการทำงานของพ่อท่านว่า คนที่ไม่มีกิเลสอัตตามานะแล้ว จะทำอะไรก็ตาม ใครจะด่าว่า เสียดสีนินทา หรือชมเชยอย่างไร ก็มีความสบายใจได้ ในทุกสถานการณ์ และเมื่ออัตตาน้อยลงไป จนถึงไม่มีได้ ชีวิตนี้ จึงมีแต่การช่วย มวลมนุษยชาติเท่านั้นเอง โดยไม่มีอะไรเอาวนกลับเข้ามาให้กับตน ซึ่งพ่อท่านเอง ก็เคยให้ โศลกแห่งความสุข เอาไว้ว่า "ผู้มีความสุขที่สุด ก็คือผู้ที่รู้จักตัวเองดีว่า เป็นผู้ให้ อย่างจริงที่สุด"

- คณะผู้จัดทำ -

-สารอโศก อันดับที่ ๒๗๔ สิงหาคม ๒๕๔๗-