กายที่เจ็บปวด - อัตถ์ พึ่งประยูร - ปลาช่อนในกระชัง ถูกจับออกมา
ตัวหนึ่งถูกไม้เหลี่ยมตีแสกหน้าล้มลง มีดปลายแหลมยาวเสียบตรงหน้าอกอย่างแม่นยำ ร้องครั้งสุดท้ายท่ามกลางเลือดพุ่งลงสู่ถังใบเก่าๆอีกห้าหกตัวหนีสุดชีวิต ก็เพียงเบียดกันอยู่ในมุมหนึ่ง มันรู้ตัวต่อไปต้องเป็นมัน เสียงของมันหากแปลเป็นภาษามนุษย์ คงได้ความว่า "อย่า....อย่าฆ่าเรา....เลย" เสียงที่เป็นภาษามนุษย์ตะคอกมาว่า เจ้าคืออาหารเลี้ยงชีวิตพวกข้า....เจ้าเกิดมาเพื่อช่วยให้ข้ามีชีวิต ขออภัยวิบากกรรมชาติหน้ามีหรือไม่ข้าไม่รู้ ไม่เห็น ขออิ่ม อร่อยก่อนเถิด การปลิดชีวิตสัตว์เพื่อนร่วมโลก นำเนื้อ ตับ ไต ไส้ พุง มาเป็นอาหาร พิธีกรรมการฆ่าต่างกัน แต่...ดวงวิญญาณลอยออกจากร่างเหมือนกัน หากมีทิพยญาณมองเห็น แต่ละวัน ดวงวิญญาณนับล้านๆดวงพากันลอยสู่สุคติ รอเกิด รอดับ ในภพต่อไป และต่อไป เมื่อสิ้นกรรม ก็จะเกิดเป็นมนุษย์ ที่รู้ที่เข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างว่า สัตว์โลกทุกรูปรักและรักษ์ชีวิต ต้องการดำรงชีวิตอยู่ในโลกนานๆนานที่สุดบรรดานก หรือสัตว์ปีกทั้งหลาย ไม่ยอมให้มนุษย์จับง่ายๆ เพียงเดินเข้าใกล้ก็จะบินหนี มันรู้เพชฌฆาตมาแล้ว (สำนึกของมันถูกต้องไหมครับ) จิ้งจก ตุ๊กแก เพียงเอื้อมมือมันก็ยักเอวสุดชีวิต งูเห่าถึงจิ้งหรีดอยู่รูที่ไร้พิษ จับมันยาก มันหนีสุดรู เมื่อจวนตัว งูเห่าจะหันมากัดฝังเขี้ยว ปล่อยพิษออกมาเป็นการต่อสู้อย่างจนตรอก มันต่อสู้เพื่อปกป้องชีวิตจากการกระทำของมนุษย์ (ใช่หรือเปล่า) กุ้งฝอยตัวจิ๋วกระโดดเหยงๆอยู่บนกระด้ง มนุษย์ยังนำมาใส่ถ้วย บีบมะนาวลงไปเคี้ยวกรอบๆ อร่อยลิ้น เอ้อ มนุษย์กินทุกอย่าง กินแบบสร้างทุกข์ กินจนตัวเองตาย บางคนไม่ตายง่าย ทรมานอยู่นาน ที่กล่าวมาเป็นความเจ็บปวดของสัตว์โลก ที่เป็นสัตว์เดรัจฉาน ไม่มีจิตสำนึก ใครใหญ่ใครอยู่ ฯลฯ ขอกล่าวถึงความเจ็บปวดที่ "มนุษย์" ได้รับบ้าง มนุษย์ตัวน้อยๆ คอยวันกำเนิดมาดูโลกอันผ่องพรรณ มาดูโลกทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว มนุษย์น้อยๆ เหล่านี้เรียกว่า "ทารก" ยังไม่รับรู้สิ่งใดๆเลย หิวก็ร้อง ปัสสาวะ อุจจาระทุกเมื่อที่ต้องการ ภาษาของหนูขณะนั้นคือหัวเราะกับร้องไห้ ยังไม่ทันได้หิว ได้ปัสสาวะ อุจจาระ หัวเราะ หรือร้องไห้ และยังไม่ได้โผล่ออกมาเห็นโลก มาแสดงความเป็นทารกที่น่ารัก น่าถนอมให้พ่อแม่ญาติพี่น้องแลเห็น ด้วยสาเหตุนานาประการ ของสาวผู้แม่(ผู้เขียนไม่ขอกล่าวถึง) กล่าวถึงห้องน้อยอันอบอุ่น ที่กลายเป็น "ห้องประหาร"ดับชีวิตหนูน้อย จิ้มลงตรง "กายที่เจ็บปวด" ก่อนออกมาชมโลกอันสดใสเพราะความประสงค์อันขัดศีลธรรม แต่ไม่ขัดใจผู้เป็นแม่ ก่อขึ้นมาแล้วทำลายไม่กลัวบาป แพทย์ทั่วโลกบางคน (KILLER) เรียกว่า "ทำแท้ง" ความจริงไม่ใช่ "ทำลาย"ต่างหาก ดร.โทมัส เวอนี่ (Dr.THOMAS VERNY) เขียนเรื่องแปลเป็นภาษาไทยว่า "ชีวิตลับของทารกก่อนกำเนิด" ทารกมีประสาทรับรู้ รับความเจ็บปวดที่จี้มายังผิวหนังได้เพียงอายุ ๒๘ วัน ดร.โทมัส เวอนี่บอกต่อไปว่า ช่วง ๑๕๐ วันนี้ หนูมีอาการตอบรับมาก รดน้ำเย็นไปที่ท้องแม่ หนูน้อยดิ้นแรงขึ้น ใช้นิ้ว เขี่ยท้ายทอย แม่หนูหันคอรับ แม้พ่อแม่ทะเลาะกันก็รับรู้ แพทย์บางท่านว่า ความรุนแรง ที่เกิดขึ้น เป็นพิษภัยด้านจิตใจของหนูน้อย ลองให้อาหารที่มีรสหวาน หนูน้อย จะดูด อาหารเร็วขึ้น ถ้าให้อาหารรสแปลก หรือค่อนข้างเผ็ด จะดูดช้าลง หน้าเหยเก ไม่ถูกใจ ๑๘๐ วัน หนูน้อยชอบดนตรีที่มีจังหวะจะโคนพอควร สวิง ร๊อค หนูไม่ชอบ หัวใจของ หนูน้อย จะเต้นแรงขึ้นตามจังหวะ หนูน้อยคงเหนื่อย แม้จะอยู่ในสภาพไร้น้ำหนัก เคลื่อนไหวได้ ไม่ว่าจะไปข้างหน้า ถอยหลัง หรือหมุนตัวได้อย่างรวดเร็ว ทารกโตเพียง ๓ นิ้ว นั้นเล็กมาก เมื่อเทียบกับถุงของเหลวที่หนูอาศัยอยู่ มันกว้างขวางพอดูทีเดียว อย่างที่กล่าวมา แม้หนูน้อยจะมีศีรษะโตกว่าส่วนอื่นของร่างกาย ก็มีความเป็นมนุษย์ อย่างสมบูรณ์ มีมันสมองรับรู้ราวกับออกมาอยู่ในอ้อมกอดแม่ ๒๔๐ วัน ดวงตาเปิด กะพริบรับรู้ความมืดความสว่าง พ่อจ๋า แม่จ๋า ลูกน้อยของท่านที่ท่านไม่ต้องการเขานั้น เขามี "วิญญาณ" แล้วตั้งแต่อายุ ของหนูได้ ๒๘ วัน หรืออาจก่อนนั้นเล็กน้อย นักธรณีวิทยา วัดอายุของสรรพสิ่งมีชีวิต และไม่มีชีวิต ปรากฏว่า "มนุษย์" เกิดมาในโลกนี้หลังที่สุด ของการเกิดใดๆในโลก แต่มนุษย์กลับมีอำนาจบันดาลให้เป็นเจ้านายของทุกสรรพสิ่งในโลก เป็นสิ่งมีชีวิต มหัศจรรย์ที่ธรรมชาติประทานมา เด็กสาวบางคนฉลาดจะทำแท้ง โดยไม่ยอมให้เด็กในท้องมีอายุเกิน ๒ เดือน หากเกิน กว่านั้น การทำแท้งยากขึ้น อาจเกิดอันตราย ต่อตนเองและราคาการทำก็สูงขึ้น ตามอายุ ของเด็ก หัวใจของหัวข้อเรื่อง "กายที่เจ็บปวด" อยู่ที่เรื่องราวต่อไปนี้ ดร.เบอร์นาร์ด นาธานซัน เคยเป็นแพทย์ ทำแท้งมาก่อน แล้วกลับใจมาสู่ "ชมรมเพื่อสิทธิ การดำรงชีวิตแห่งชาติ" ดร.เบอร์นาร์ด ทำการถ่ายภาพยนตร์จากเครื่องอัลตร้าซาวด์ บันทึกเหตุการณ์ทั้งหมด
ในการทำแท้ง นาทีละ ๑๒๐ ครั้ง คือการเต้นของหัวใจ น่าอนาถ เมื่อเครื่องมือทำแท้งแตะมดลูกแม่เพียงเบาๆ หัวใจของหนูน้อยเต้นแรงขึ้น ถอยหนี รู้โดยสัญชาตญาณว่าต้องมีสิ่งใดรุกล้ำเข้ามา ขอหลบเอาตัวรอด ภาพต่อไปนี้ ไม่ควรมีขึ้นในโลกมนุษย์(สัตว์ประเสริฐ)ที่มีสมองฉลาดล้ำกว่าสัตว์อื่น ใช้ความฉลาดนั้น "ฆ่า" หนูน้อยไร้เดียงสา (ลูก) ฆ่าทารกไร้ผิดด้วยจิตโลภ เพียงต้องการเงิน (ยกเว้นบ้างตามกฎหมายตราไว้) เครื่องมืออันเกิดจากสมองมนุษย์ เป็นเสมือนมือมาร... ลากตัวหนูน้อย ออกมาจาก สถานที่ อันแสนอบอุ่น ปลอดภัย นำมาหั่นเป็น ชิ้นๆ แน่นอน หนูน้อยผู้อาภัพเจ็บสุดหัวใจ ดิ้นสุดฤทธิ์ ดิ้นให้ตัวเองพ้นจากเครื่องมือเพชฌฆาต (ผู้เขียนไม่ขอกล่าวโดยละเอียด เพราะอนาถใจ) ที่อยู่หลับนอนกว้างยาวไม่เท่าไหร่ เป็นรั้วกั้น ให้หนูน้อยถูกพิชิตเร็วขึ้น ฝ่ายหนึ่งค้นหา(ควานหา) ฝ่ายหนึ่งหลบ ฝ่ายหลบหัวใจเต้นกว่า ๒๐๐ ครั้งต่อนาทีแล้ว อวสานเกิดขึ้น เมื่อฝ่ายค้น ค้นพบแล้ว ใช้คีบเหล็ก "บี้ศีรษะ" จนบี้แบน ฯลฯ นำออกมาสู่ถาดอะลูมิเนียมภายนอก เวลาในการพิฆาต ทำลายหนูน้อยไร้ความผิดผู้น่ารัก เพียง ๑๕ นาทีเศษ ดร.เบอร์นาร์ด มองภาพจากฟิล์ม ตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการจนจบด้วยความระทึกใจ จิตสำนึกเกิดขึ้น สำนึกถึงบาปที่เขาสร้าง จะมากเท่าใด เขาน้อมรับ และลาออกจาก คลินิก นั้นทันที การทำแท้งทุกครั้ง หมายถึงฆ่าเด็กทารก ในสภาพที่ไม่อาจเปล่งเสียง ฟ้องผู้รักษา กฎหมาย ได้ อย่าลืมว่าทารกที่มีความเจ็บปวดดำรงไว้ซึ่งชีวิตแล้ว ความเจ็บปวดในการถูกหั่นอวัยวะ เป็น การสร้าง หรือทำบาป ที่ป่าเถื่อนที่สุด ผู้มีมโนธรรม ไม่ยอมรับว่าชอบธรรม ทารกเกิดขึ้นแล้ว มีชีวิตมีวิญญาณแล้ว เพียงรอคอยให้มีความสมบูรณ์ครบถ้วน ที่ธรรมชาติ กำหนดไว้เท่านั้น ก็จะมีมนุษย์อีกคนหนึ่งเกิดมาประดับโลก สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์ป่า ไม่ประหารลูกของมัน ถึงมีบ้างก็น้อยนิด มนุษย์ผู้ประเสริฐ ผู้เจริญอ้างว่ามีคุณธรรม ไฉนยินยอมให้เขาฆ่าลูก ลูกที่ยังไร้สำเนียง เปล่งเสียงก็ไม่ได้ยิน ฆ่าเขา ไม่ยอมให้เขาเกิดเพียงผลของการชิงสุกก่อนห่าม อายสังคม ไม่ต้องการให้สังคมรับรู้ ยอมร่วมเป็นเพชฌฆาตฆ่าลูกตนเองอย่างไม่ละอายต่อบาป หรือคิดว่าบาปไม่มีตัว บาปไม่มีอำนาจ ไม่ส่งกรรมให้เห็นทันตา ทันทีทันใด แน่นอน ชาติต่อไปต้องชดใช้ ชดเชยกี่ร้อยกี่พันเท่า รู้ไม่ได้ มองไม่เห็น บอกไม่ถูก นอกจาก ยมบาลลงบัญชีไว้บนหนังหมา.... พร้อมที่จะสำแดงฤทธิ์ เมื่อถึงวันนั้น วันที่กรรม ตามมาสนอง - สารอโศก อันดับที่ ๒๗๕ กันยายน ๒๕๔๗ - |