# # # ชื่นชมชาวดอยศิวิไลซ์ ต่อจากนี้ไป ดิฉันคงจะได้ไปช่วยงานที่ ชมร.เชียงใหม่ แต่คงจะไปได้อาทิตย์ละ
๑ วัน เพราะต้องไป ช่วยงานที่หน่วยงานเดิมอีก อย่างไรก็ตามจะพยายามปฏิบัติให้ได้อย่างสมาชิกของชุมชนภูผาฟ้าน้ำ
ติดตรงที่ว่า ดิฉันมีครอบครัวที่ต้องดูแล ยังปลีกตัวไปเต็มตัวไม่ได้ เพราะลูกยังอยู่ในวัยรุ่นเริ่มต้น
ต้องคอยดูแล อย่างใกล้ชิด - ศึกษาประพฤติธรรม ก็มีลำดับขั้นตอนการเรียนรู้ เมื่ออยู่บ้านก็เป็นคุณแม่ที่ดีของลูก อยู่ที่ทำงาน ก็เป็นพนักงานที่ดี เมื่อถึงกาละอันควรจะเป็นชาวดอยศิวิไลซ์ ก็คงจะเป็นชาวดอยที่ดี มีคุณธรรม ตามที่ได้สั่งสมไว้เช่นกันนะ - บ.ก.
ดิฉันคงจะทำบาปในชาติปางก่อนมามาก ชาตินี้จึงได้มารับกรรม ตอนเด็กก็แข็งแรงดี ไม่มีโรคภัยอะไร แต่พอประมาณอายุ ๑๕ ปี ดิฉันก็เริ่มมีโรคนอนไม่หลับ คิดมากจากหลายเรื่อง หลายสาเหตุ ปวดศีรษะ จึงได้ไปหาหมอ ปัจจุบันนี้ต้องไปรับยาและเช็คทางระบบประสาททุกเดือน ค่าใช้จ่าย ตกเดือนเกือบ ๓,๐๐๐ บาท ดิฉันไม่อยากฆ่าสัตว์ จึงหันมากินอาหารมังสวิรัติแทน ก็ดีนะคะ เพราะมีประโยชน์กับสุขภาพ และยังไม่ต้องไปเบียดเบียนสัตว์ทั้งหลายอีก แม่ของดิฉันเคยกินเนื้อปลาเป็นประจำ พอดิฉัน หันมากินมังสวิรัติ แม่ของดิฉันก็กินด้วย แต่แบบไม่เต็มใจนัก พอแกเอาปลามาดิฉันก็ต้องทำให้กิน มันก็เลยยุ่งๆ กินทั้งเนื้อกินทั้งผัก แม่ของดิฉันอายุ ๗๕ ปี แกเคยกินปลา เราก็จะค่อยๆ อธิบาย ให้แกเข้าใจ ในการกินผักกินมังสวิรัติ แกก็เข้าใจมากขึ้น บางวันก็จะกินมังสวิรัติด้วยกัน ถ้าจะให้คนอื่น กินเหมือนเรา มันก็ยากเหลือเกิน ทั้งหมู่บ้านก็มีดิฉันคนเดียว ส่วนกลุ่มเพื่อนที่อยู่จังหวัดมหาสารคาม ก็ดีหน่อย พูดในเรื่องเดียวกันทำให้เข้าใจมากขึ้น และเรื่องที่ทำให้เข้าใจกันคือเรื่องอโศก พ่อท่านทำงานหนักมากเลย สมณะด้วย หากโลกนี้เป็นเหมือนคนอโศกคงจะดีนะ รักษาศีลห้า คงจะมีความสุข เดี๋ยวนี้ไปไหนก็พบแต่คนดื่มเหล้าสูบบุหรี่ ดีหน่อยที่แฟนของดิฉัน เป็นคนไม่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ก็เลยสบายใจ แต่มองไปเห็นครอบครัวของคนอื่น เขาดื่มเหล้าสูบบุหรี่ก็อ่อนใจ คนแบบนี้มีมาก เหลือเกิน สารพิษมากมาย เราจะสู้เขาไหวไหม? ที่ ธ.ก.ส. ก็พากันไปอบรม พอกลับมาถึงบ้าน ก็มีบ้านดิฉัน ไม่กี่คนที่ทำสบู่ ยาสระผม ปุ๋ย สมุนไพร คนไม่เอาใจใส่รวมกลุ่มกันไม่ได้ เสียดาย เงินหลวง เราคิดดีทำดีคงจะพบสิ่งดีนะคะ ตอนเช้าดิฉันดื่มน้ำอุ่น ไม่ค่อยดื่มน้ำเย็น ไปไหนก็จะพกน้ำอุ่นไปดื่มด้วย อาการดีขึ้นกว่าแต่ก่อน เดี๋ยวนี้ไม่มีเสมหะ อาการดีขึ้นมาก ดิฉันเลิกกินเนื้อสัตว์มาเป็นเวลา ๒-๓ ปีแล้ว หันมากินมังสวิรัติแทน ปัจจุบันดิฉันกินอาหารวันละ ๒ มื้อ ตอนเย็นก็ดื่มนมถั่วเหลือง ก่อนนอนก็จะสวดมนต์ นั่งสมาธิทุกวัน ถ้าแม่ของดิฉันเป็นอะไรไป ดิฉันคงจะหันมากินมังสวิรัติอย่างจริงๆจังๆ มากขึ้นกว่านี้ สิ่งที่ได้จากการอ่านสารอโศก จดหมายฉบับนี้ลูกเป็นคนเขียนให้ เพราะดิฉันลายมือไม่สวยและจบแค่ ป.๔ ต่อไปดิฉันจะพยายาม
หัดเขียนเองค่ะ - อนุโมทนากับความพยายามจะไม่เบียดเบียนชีวิตเพื่อนสัตว์ทั้งหลาย ขวนขวายลด-เลิกอบายมุข ปลูกผักไร้สารพิษไว้กินเองดูบ้าง จะทำให้สุขภาพกายดี สุขภาพจิตก็ดีด้วย - บ.ก.
ข้าพเจ้าขอรับหนังสือเพื่อเป็นกำลังใจ เพื่อสักวันหนึ่งข้าพเจ้าอาจมีความกล้าขึ้นมา
กล้าที่จะตัดสินใจ กล้าที่ปฏิบัติ กล้าที่จะลดละเหมือนชาวอโศก และกล้าที่จะพบพระอาจารย์
ข้าพเจ้าทำงาน และใช้ชีวิตทางโลก อยู่กับน้องสาว เรามีความคิดเดียวกัน คือว่าไม่กล้าเข้าวัด
เหมือนกับว่า เพราะเรา มีความผิดมาก และรอการอภัยจากหมู่กลุ่ม - ชาวอโศกได้รับการปลูกฝังเรื่องความสำนึกในกุศล สังวรในศีล ๕ อันเป็นพื้นฐานปกติ ทั้งผู้อยู่บ้าน และอยู่วัด ผู้ขวนขวายพัฒนาตนก็จะฝึกตนให้ยิ่งๆขึ้น จนเมื่อมั่นใจ จึงจะเลื่อนฐานะตน จากบ้าน มาสู่วัด ซึ่งมีรายละเอียดในการชำระล้างกิเลสมากขึ้น ดังนั้นหากทำได้มั่นคงแล้ว ก็จะมั่นใจ - บ.ก.
ขณะนี้กำลังปฏิบัติธรรมตามแบบของพระพาหิยทารุจีริยะ รับจากพระพุทธเจ้า ว่าในเวลาใด พยายามตั้งสติรู้ตัวทั่วพร้อม ในการได้เห็น ได้ฟัง ได้ทราบ ได้รู้ว่าทุกอย่างให้ผ่านๆไป
ไม่นำมาคิด ปรุงแต่ง ให้เกิดกิเลสตามกระแสนั้น แต่ก็ทำได้ยากยิ่ง ขาดสติตามไม่ทันก็ทำให้คิดปรุงแต่ง
ตามไปด้วยเสมอ จึงเกิดทุกข์ทับถมตัวเอง - แต่ละคนมีที่มาที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะมาจากพื้นฐานอย่างไร ก็มาฝึกตนด้วยศีลพื้นฐาน ๕ ข้อ เป็นเบื้องต้นทั้งสิ้น เพื่อเรียนรู้ ทำความเข้าใจตนเองให้ชัดเจนถูกตรงยิ่งขึ้น พฤติกรรม-คำพูด-ความคิด จะได้รับการดูแลกำกับด้วยสติเจ้าของ เราจะแววไวขึ้นเรื่อยๆ ฝึกพิจารณาเลือกไม่ทำสิ่งไม่ดี ตามข้อศีล แต่ละข้อให้ได้เสมอๆ ความสงสัยจะลดลง เราจะเชื่อมั่นในกรรมของตน ที่จะมุ่งปรับไปสู่กุศลยิ่งขึ้นๆ ด้วยวิธีการอย่างนี้ เราจะเข้าใจคนอื่นมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็จะมีกำลังใจก้าวไปเรื่อยๆ ตราบที่ยัง มีชีวิต... เรายังมีโอกาสเลือกไม่ทำอกุศลได้ตลอดเวลา - บ.ก.
ข้อปฏิบัติตอนนี้ ของดิฉันก็ยังมั่นคงดีค่ะ - ขอบพระคุณสำหรับข้อติติงและข้อเสนอแนะ "วันอโศกรำลึก" เกิดกรณีเช่นที่ว่านั้น เหตุหนึ่งจากข้อจำกัดเรื่องสถานที่คับแคบนั่นด้วย เราจะนำไปปรับปรุงในโอกาสต่อไปนะ..... การที่เรามีรายการบันเทิงบ้าง รสชาติก็คงไม่จี๋จ๋าแบบโลกย์ๆใช่ไหม มีไว้ให้ได้ตรวจตนเองแต่ละคนว่า ยังมีอยู่มากน้อยแค่ไหนอย่างไร ผลักมาก-ดูดมาก ถูกใจมาก-ไม่ถูกใจเลย ฯลฯ ผู้ที่นำมาเป็นบทฝึกตน ก็ได้รับประโยชน์ ผู้นำไปเสพก็จะสะสมไปตามเหตุปัจจัยให้มีพฤติกรรมหยาบออกทางกายกรรม-คำพูด-ความคิดวนเวียนเสพให้ได้เห็น ให้ได้ติงเตือนกันไป อยู่วัดเราก็มีวิถีชีวิต เรียนรู้-ปรับปรุงตัวเอง โดยมีหมู่ ช่วยชี้บอกกันอย่างนี้ นี่ไงล่ะ... - บ.ก.
ถ้าจะดูอีกมุมหนึ่ง มันเหมือนอย่างที่ผมเขียนเรียนถึงที่ผ่านๆมา คือดูว่าท่านยังติดอัตตามานะมาก ดูเป็นเหมือนท่านมีตัณหาอยากใหญ่ อยากโต อยากได้ อยากมี ผมเห็นว่าท่านควรจะบอก เป็นแนวทางว่า การเมืองที่ดีควรเป็นอย่างไร และทุกคนควรมีจิตสำนึกต่อชาติบ้านเมืองอย่างไร การไปใช้สิทธิเลือกตั้งนั้นควรไปเพราะด้วยความรักและรับผิดชอบต่อบ้านเมือง ไม่ใช่ไปเพื่อเงินทอง หรือสิ่งของที่เขานำมาจ้าง อโศกน่าจะทำตรงนี้จะสวยกว่า แต่ถ้าให้คนอโศกมาทำการเมือง อย่างที่ผ่านมา มันมีแต่เสียกับเสีย เพราะอะไร ก็เพราะว่าทุกคนไม่ใช่พระอรหันต์ ทุกคนมีมานะอัตตา ทั้งนั้น หมู่เดียวกันยังทะเลาะกัน มันน่าอาย ดังเช่นพรรคพลังธรรม ที่เขาเรียกว่าคนสายวัด ที่ว่าเป็น แกนนำ ของพรรคยังทะเลาะกันเอง แล้วท่านตั้งพรรคเพื่อฟ้าดินมา ขอถามว่ากี่คน ที่บริสุทธิ์จริงๆ ผมขอเรียนตรงๆ ว่าขอให้ท่านทำอะไรที่สูงส่งกว่านี้จะดีกว่า จะได้ไม่เสียชื่อ ไม่มัวหมองนะครับ หากว่าท่านยังมีกำลังทรัพย์ มีกำลังคนมากอยู่ ก็ขอให้นำมาช่วยสังคมโดยตรงจะดีกว่า เช่น อบรมจริยธรรม กับเด็กและเยาวชนที่ขณะนี้แย่มากแล้ว หรืออบรมพวกข้าราชการ ให้เป็นคนดี มีศีลธรรมขึ้น หรืออบรมให้ความรู้กับเกษตรกรให้เต็มที่อย่างนี้ ผู้คนทั้งประเทศจะกราบไหว้ และแซ่ซ้อง สรรเสริญมากกว่ามาเล่นการเมืองและมาตั้งชื่อกันบ้าๆบอๆ สิ่งที่ผมอยากจะเห็นท่านทำมากๆตอนนี้ก็คือ ให้หาสถานที่เหมาะๆ แล้วนำเด็กและเยาวชน
เข้าค่ายอบรม ๓ วัน ๕ วัน พยายามดึงเด็กเหล่านี้ให้ออกจากอบายมุขและสิ่งมอมเมาต่างๆ
พ่อแม่ของเด็กเหล่านี้จะดีใจมากนะครับ เพราะงานของชาวอโศกเท่าที่ได้พิจารณาดีๆ
ก็จะทำเพื่อ สังคม และมวลมนุษยชาติอยู่แล้ว ดังนั้นเด็กคือผ้าสีขาว ถ้าได้ให้เขาได้ซึมซับ
ธรรมะ แต่เด็กๆ โตมา เขาเหล่านั้น ก็คงเป็นคนดี ไม่ทำร้ายสังคมไม่โกง ไม่ทุจริต
อย่างที่เห็นๆ ทุกวันนี้ - ขอขอบพระคุณในความห่วงใยและความปรารถนาดีต่อเราชาวอโศก และคิดว่ามีหลายๆท่าน ก็เห็นเช่นเดียวกับคุณสัมพันธ์ จึงอยากจะขอเชิญชวนให้มาเรียนรู้ "การเมืองบุญนิยม" ไปพร้อมๆ กันกับเราชาวอโศกด้วย จะดีมั้ยเอ่ย? ที่สำคัญอยากบอกว่า เราชาวพุทธเชื่อมั่นใน "กรรมและวิบาก" ทั้งบุญและบาปล้วนเป็นของเจ้าของทั้งสิ้น ยังมีชีวิตอยู่ มีโอกาสทำสิ่งที่เป็น "บุญ" ไว้ไม่ขาดทุนเลย และหากจะเริ่มต้น ต้องเริ่มที่ตัวเองก่อน เราจึงฝึกตนให้แข็งแรงด้วยศีล ๕ ละเลิกอบายมุขให้ได้ก่อน เพราะ "บุญ" ของเราคือการชำระกิเลสของเรา ไม่ใช่ของคนอื่น ด้วยแนวคิดเช่นนี้ การเมืองบุญนิยม จึงจะไม่เหมือนการเมืองทั่วๆไปที่เขาเป็นกันอยู่ น่าสนใจและเป็นจริงเป็นจังกว่ากันเยอะเลยใช่ไหม? - บ.ก. - สารอโศก
อันดับที่ ๒๗๗ พฤศจิกายน ๒๕๔๗ -
|