- พุดจีบ -

ผัดเบญจมงคล เสริมเสน่ห์
อาหารเมนูเด็ด เคล็ดความสุขปีใหม่

อาหารนับเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ และเป็นปัจจัยแรกที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อการดำรงชีวิตของคนเรา ซึ่งในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถานได้ให้ความหมายของ"อาหาร" ว่า คือของกิน เครื่องค้ำจุน ชีวิต หรือเครื่องหล่อเลี้ยงชีวิต ดังนั้น การที่มนุษย์เราไม่ว่ายุคใดสมัยใด ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงชีพ ส่วนหนึ่งก็เพื่อหาอาหารมา เลี้ยงปาก เลี้ยงท้อง นั่นเอง ซึ่งโดยทั่วไป อาหารจะทำหน้าที่ ๓ อย่างคือ ให้พลังงานแก่ชีวิต ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และเป็นยารักษาโรค ซึ่งอาหารบางชนิด ก็สามารถ ทำหน้าที่ได้ ทั้งสามอย่าง บางชนิดก็ทำหน้าที่ได้เพียงบางส่วน ด้วยเหตุนี้ เราจึงต้อง กินอาหาร ให้ครบหลายหมู่เพื่อให้เกิดสมดุลในร่างกาย อันจะทำให้ร่างกาย ของมนุษย์เรา มีความแข็งแรง ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย ซึ่งจะเป็นสาเหตุของปัญหาอื่นๆ ตามมาได้อีกมาก

อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าปัจจุบันคนไทยเรามีความตื่นตัวเกี่ยวกับการดูแลรักษาสุขภาพ กันมาก ทำให้คนไทย จำนวนมาก หันมาหา"อาหารสุขภาพ"กันมากขึ้น ทำให้มีการค้นคว้า วิจัย และค้นพบ สูตรอาหารต่างๆ เพื่อสุขภาพให้เลือกมากมาย เช่น อาหารชีวจิต อาหาร แมคโครไบโอติก อาหารตามธาตุ หรืออาหารตามหมู่เลือด เป็นต้น

แต่ไม่ว่าจะเป็นอาหารประเภทใด ความสำคัญก็อยู่ตรงที่อาหารนั้น เมื่อกินแล้ว ต้องทำให้เรา มีสุขภาพ แข็งแรง สมบูรณ์ ทั้งร่างกายและจิตใจ ดังนั้นโอกาสปีใหม่ ที่กำลังจะมาถึงนี้ ทางกลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงาน คณะกรรมการ วัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) ในสังกัด กระทรวงวัฒนธรรม(วธ) จึงได้แนะนำ อาหาร ตำรับดั้งเดิม ที่น่าจะเหมาะกับ คนไทยในปัจจุบัน โดยมีชื่อว่า "ผัดเบญจมงคลเสริมเสน่ห์" อันถือว่าเป็น "เมนูเด็ด เคล็ดแห่งความสุขปีใหม่" เพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้นำไปปรุงรส ปรุงชีวิต ให้มีความสุข สดชื่นและสมหวัง ตลอดปีใหม่ ที่จะถึงนี้

เมนูเด็ดดังกล่าว มีส่วนผสม หรือเครื่องปรุงที่ต้องตระเตรียมและจัดหามาด้วยความพิถีพิถัน ประกอบด้วย

- มนุษยสัมพันธ์ ๓ ช้อนโต๊ะ
- ปิยวาจา แกะเอาแต่เนื้อที่ประกอบด้วยพูดดี พูดเพราะ พูดเป็นประโยชน์ ๑/๒ ถ้วยตวง
- ความหยิ่งยโสหั่นฝอยจนกลายเป็นความอ่อนน้อมถ่อมตน ๔ ช้อนโต๊ะ
- ความเห็นแก่ตัว โขลกให้ละเอียดจนเหลือเพียงความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีน้ำใจ ๓ ถ้วย และ
- ความซื่อสัตย์สุจริต หั่นเป็นรูปหัวใจ ๑๐ ใบ

สำหรับวิธีปรุงก็ไม่ยุ่งยากอะไรเลย เพียงแค่วางกระทะและติดไฟแห่งความตั้งใจให้พร้อมจากนั้นใส่มนุษยสัมพันธ์อันเป็นมงคลแรก ลงใน กระทะก่อน เจียวให้หอม จากนั้นใส่ปิยวาจา ความเอื้อเฟื้อและน้ำใจอันเป็นมงคลที่สอง และ สาม ตามลงไป แล้วจึงผัดให้ทั่ว ตักใส่จาน แล้วโรยหน้าด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน อันเป็นมงคลที่สี่ เมื่อถึงเวลาเสิร์ฟ ก็ให้ตกแต่ง ด้วยใบแห่ง ความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งเป็นมงคล สุดท้าย เข้ามาเป็น เครื่องเคียง ซึ่งสูตรนี้จะขาดไม่ได้เลย ไม่เช่นนั้นแล้ว "ผัดเบญจมงคล เสริมเสน่ห์" ที่เสิร์ฟออกไป จะไร้ผล เพราะจะกลายเป็นแค่เสน่ห์ จอมปลอม ซึ่งนอกจาก จะไม่มีผลดี ต่อตนเองแล้ว ยังสร้างไขมัน แห่งความเลี่ยนให้แก่ผู้อื่นด้วย

อย่างไรก็ตาม เมนูเด็ดจานนี้ เราสามารถเสริมเพิ่มเติมส่วนผสมให้เหมาะกับคนได้ทุกเพศทุกวัย และ ทุกสถานภาพ ดังนั้น หากผู้ใดเป็นผู้ที่มีธาตุดินเป็นเจ้าเรือน ซึ่งมีอารมณ์มั่นคง ไม่แปรปรวน แต่เคลื่อนไหว ค่อนข้างช้า รวมทั้งผู้ใด ที่มีธาตุน้ำเป็นธาตุเจ้าเรือน ซึ่งมีรูปร่างค่อนข้างท้วม อารมณ์เย็น และทนร้อนทนหนาวได้ดี ซึ่งบุคคลทั้ง ๒ ประเภทดังกล่าวอาจจะต้องบีบ ความกระตือ รือร้น ใส่เพิ่มเข้าไปอีกสัก ๑/๒ ถ้วยตวง แต่ถ้าผู้ใด เป็นคนธาตุลม ซึ่งมีรูปร่างโปร่ง ทำอะไรเร็ว ช่างพูด และหวั่นไหวง่าย ก็คงต้องเติมความหนักแน่น ไม่หูเบา ลงไปสัก ๓ ช้อนโต๊ะ และ สำหรับคนธาตุไฟ ที่มักมีรูปร่างผอม ขี้ร้อน เคลื่อนไหวเร็ว และอารมณ์ร้อน คงต้องหยอด ขันติ ลงไปอีก ๑/๒ ถ้วยตวงเช่นกัน เพื่อสร้างสมดุลในการคบหากับผู้อื่น

และสำรับท่านที่คิดจะเสิร์ฟเมนูจานนี้ให้แก่ พ่อแม่หรือบุพการี ขอแนะนำให้ใส่ความกตัญญ ูกตเวที ลงไปด้วย ๒ ถ้วยตวง แต่ถ้าหากจะเสิร์ฟให้แก่ลูกหลาน ก็อาจจะใส่ ใบแห่งความรัก ความเข้าใจ ๑ ถ้วยตวง แทนความอ่อนน้อม ถ่อมตน หรือหากจะเสิร์ฟให้เพื่อนฝูง ก็ควรเพิ่ม สัดส่วน ความมีน้ำใจ ไมตรี และปิยวาจา ให้มากขึ้น แต่ถ้าหากท่านเป็น ผู้บังคับบัญชา ท่านก็ควรเสริมความอร่อย ของอาหารจานนี้ ด้วยการใส่ ความเมตตา และความเห็นอกเห็นใจ เติมเข้าไปด้วย ส่วนผู้ที่เป็น ลูกน้อง หากจะเสิร์ฟอาหารจานนี้ ให้เจ้านาย นอกจากจะต้อง หยอดความอ่อนน้อมถ่อมตนให้มากขึ้นแล้ว ก็ควรเหยาะความขยันหมั่นเพียร เป็นชูรส เข้าไปอีกด้วย ก็จะทำให้ รสชาติอาหารจานนี้ กลมกล่อม ยิ่งขึ้น

จะเห็นได้ว่า เมนู"ผักเบญจมงคลเสริมเสน่ห์" นี้เป็นอาหารที่ประกอบง่าย ส่วนผสมไม่ยุ่งยาก และ ก็สะดวกหา อีกทั้งยังน่ารับประทานยิ่ง เพราะขึ้นชื่อว่า "เสน่ห์" แล้ว เชื่อว่าทุกคน ก็อยากมีอยากเป็น กันทั้งนั้น ข้อสำคัญเมนูนี้ยังสามารถพลิกแพลง ปรับเปลี่ยนสูตรได้ ตามความเหมาะสม จะทำกันเอง หรือเสิร์ฟให้แก่ผู้อื่น ก็ล้วนแล้วแต่จะสร้างความประทับใจ ให้แก่ผู้ที่ได้ลิ้มรสทั้งสิ้น กินแล้วก็สร้าง ความสุขกายสบายใจ ทั้งแก่ตนเองและคนรอบข้าง ถือเป็นเมนูเด็ดอันเป็นเคล็ดลับแห่งความสุขปีใหม่ ที่มอบให้แก่ทุกท่าน ปี ๒๕๔๘ นี้<

- อมรรัตน์ เทพกำปนาท -
(จาก น.ส.พ.เดลินิวส์ ๒๙ ธ.ค. ๒๕๔๗)

- สารอโศก อันดับที่ ๒๗๘ เดือน ธันวาคม ๒๕๔๗ -