ฉบับนี้มีข้อมูลจากหนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ ๑ ก.ค. ๒๕๔๖ หน้า ๑๘ มานำเสนอ ขอเชิญติดตาม ได้เลยค่ะ

แพทย์ชี้ 'จีน-อินเดีย' ฮิตกินฉี่
ทางเลือกผู้ป่วยหมดทางรักษา

เมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ที่กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข จัดการประชุมวิชาการเรื่อง "น้ำปัสสาวะรักษาโรคได้จริงหรือ"

น.พ.บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ทางเลือกกล่าวว่า น้ำปัสสาวะ ประกอบด้วยน้ำ ร้อยละ ๙๕ ยูเรียร้อยละ ๒.๕ และสารอื่นๆ ร้อยละ ๒.๕ ซึ่งสารยูเรีย ในปัสสาวะให้ความชื้น ในเครื่องสำอางแพง มีสารยูโรคีเนส ซึ่งทางการแพทย์ จะฉีดให้ผู้ป่วยที่เป็นอัมพาต เพื่อละลาย ลิ่มเลือดและรักษาเส้นเลือดอุดตัน

ซึ่งมีบริษัทในประเทศสหรัฐได้นำเครื่องกรองปัสสาวะ เพื่อกรองเอาสารตัวนี้ออกมาใช้ ในวงการแพทย์ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๓๒ โรคที่ทำการรักษามีตั้งแต่ อาการปวดเรื้อรัง ได้แก่ปวดหลัง ปวดข้อ ไมเกรน ป่วยเมื่อย ไม่มีสาเหตุ

โรคที่เกี่ยวกับภูมิต้านทาน เช่น โรคภูมิแพ้ ผื่นคัน สะเก็ดเงิน รูมาตอยด์ SLE

ประเภทแผลต่างๆ เช่น แผลเบาหวาน แผลไฟไหม้

ส่วนโรคในระบบในร่างกายคือ เบาหวาน มะเร็งลำไส้อักเสบเรื้อรัง ตกขาวจากเชื้อรา กลิ่นปาก กลิ่นตัว รวมทั้งยังดูแลผิวพรรณและเส้นผม โดยการรับประทานมีหลายวิธี เช่น นำปัสสาวะ ๑ หยด ใส่ลง ในน้ำ ๑ ช้อนชา เขย่าประมาณ ๕๐ ครั้ง หรือในวันแรก จะหยดปัสสาวะ ๑-๕ หยดในปาก วันต่อมา อาจจะหยด ๖-๑๐ และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าเคยชิน

"ที่ผ่านมามีคุณยายป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ซึ่งแพทย์แผนปัจจุบันวินิจฉัยว่า จะอยู่ได้ไม่เกิน ๓ เดือน ปรากฏว่ายายได้กินน้ำปัสสาวะ รวมถึงกินผักพื้นบ้าน ขณะนี้ก็มีชีวิตอยู่"

น.พ.บรรจบกล่าวและว่า ถ้ามีร่างกายปกติก็ไม่จำเป็นต้องดื่มปัสสาวะ เพียงแต่ ถ้าหมดหนทาง ในการรักษา ก็สามารถทดลองได้

ส่วนกลุ่มประเทศที่นิยมดื่มคืออินเดีย ที่ดื่มเป็นวัฒนธรรม ส่วนจีนก็มีดื่ม จำนวนหลายล้านคน ส่วนไทยน่าจะมีมาก อย่างไรก็ตามคิดว่า ประเทศไทย ควรจะมี การวิจัยว่า เรื่องนี้มีผลเสียหรือไม่ ถ้าไม่มีผลเสียก็ควรจะวิจัยผลดี เพราะอย่างสหรัฐ ก็มีการสร้างมูลค่าของปัสสาวะปีละ ๕๐๐ ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ

ด้านพระดุษฎีจากสำนักสงฆ์วัดทุ่งไผ่ จ.ชุมพร กล่าวว่า พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้ใน นิสัย ๔ แนวปฏิบัติ สำหรับการยังชีพของพระสงฆ์ว่า ต้องนุ่งห่มด้วยผ้า ๓ ผืน นำมาจากผ้าห่อศพ ผ้าบังสุกุล ต้องฉัน อาหารอยู่โคนต้นไม้ ฉันอาหารที่ได้จากการบิณฑบาต และ ประการสุดท้ายคือ เมื่อเจ็บป่วย รักษา ตนเองตามธรรมชาติ ฝึกสมาธิ ดื่มน้ำปัสสาวะ

ซึ่งบัญญัติไว้ในนิสัย ๔ กำหนดไว้ในพระไตรปิฎกว่า การดื่มน้ำปัสสาวะรักษาโรค จะช่วยให้คนคนนั้น ระมัดระวัง ด้านการบริโภคอาหาร เพราะหากกินโปรตีนเนื้อสัตว์ ชา กาแฟ เบียร์ จะมีผลคือรสชาติ แต่การดื่ม น้ำปัสสาวะไม่ใช่เรื่องเสียหาย