ใต้ร่มอโศก
ปลุกเสกพระแท้ๆของพุทธ'๔๘ ครั้งที่ ๒๙

สังคมสับสน
ไร้แก่น....ไร้ทิศทาง....ไร้ตัวอย่างนำพา
พ่อท่านประกาศ "บุญนิยม"
ในระบบบูรณาการ
ทุกจุด ทุกระดับ ทุกชนชั้น
พุ่งตรงสู่เป้าหมาย "บุญนิยม"
สร้างเผ่าพันธุ์มนุษยชาติ "คนจนพันธุ์แท้"
เป็นคนจนที่อยากจน
จนด้วยความสุข...เต็มใจ
ควบคุมของกิน-ของใช้
มักน้อยสันโดษในเครื่องอุปโภค-บริโภค
มีศีล ๕ ประจำชีวิต
เป็นคนจนพันธุ์ใหม่ในยุคโลกาภิวัตน์
ที่อยู่อย่างมีศักดิ์ศรี...มีคุณค่า
นี้แล "คนจนคนมหัศจรรย์!"

ชุมชนเพื่อมวลมนุษยชาติ
ความปรารถนาของพ่อท่าน ถ้าเป็นไปได้ก็คือ การมีชุมชนชาวอโศกกระจายไปทั่วประเทศ มีศูนย์ฝึกอบรม หลายๆแห่ง ที่แม้จะฝึกอบรมได้จริง แต่ก็ยังไม่ใช่ "ชุมชน" ความจริงแล้ว การสร้าง"ชุมชน" ง่ายกว่าการสร้าง ศูนย์ฝึกอบรม หลายเท่า ใครเห็นอนาคต โปรดอย่ารีรอ จุ๊ย์ๆๆ



อนุโมทนา
ชมชื่นญาติธรรม วาสนา โกพลรัตน์ เล่าเรื่องชีวิตตัวเองมาสม่ำเสมอ ชมชื่นญาติธรรม จินตนา เลิศไพบูลย์ (อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา) รายงานผลการอ่านสารอโศกมาสม่ำเสมอเช่นกัน
เธอมีวิธีเขียนง่ายๆ ก็คือ อ่านคอลัมน์นี้รู้สึกอย่างไร วิธีนี้ทำให้มีเรื่องขบคิดตลอด
หลายๆคนเขียนไม่ได้ เพราะมัวคิดจะเรียบเรียงถ้อยคำ
อ่านแล้วคิดถึงอะไร อ่านแล้วคิดอย่างไร
คำถามแบบนี้ ทำให้มีเรื่องเขียนเยอะ
และเป็น ธรรมวิจัย ไปในตัว จุ๊ย์ๆๆ



บุญสำเร็จด้วยการอนุโมทนา

"ข้าพเจ้าได้เข้ารับการอบรมหลักสูตรสัจจธรรมชีวิต รุ่นที่ ๑๗/๒๕๔๖ เมื่อวันที่ ๘-๑๒ ม.ค. ๒๕๔๖ ที่ดอยรายปรายฟ้า (ชร.อโศก) หลังจากนั้นก็ขอให้ภรรยาเข้าอบรมรุ่นที่ ๑๙ และส่งลูกสาวเข้าอบรม ยุวพุทธ ในปี'๔๖-๔๗ และกระผมได้มีโอกาสได้อ่านสารอโศก หลายฉบับ (ท่านสมณะแจกให้) ได้แนวคิด และ แนวปฏิบัติ ดีๆหลายอย่าง โดยเฉพาะการใช้ชีวิตแบบพอเพียง ไม่ประมาท จนทำให้ ชีวิตครอบครัวดีขึ้น เพราะลดค่าใช้จ่าย ได้มาก เพราะหลังจากอบรมแล้วกระผมเลิกเหล้า-การพนัน-เลิกกินผงชูรส-เลิกใช้ สารเคมี และกินข้าวกล้องตลอด"
- สุพัฒน์ จินดาคำ (อ.เทิง จ.เชียงราย)
ญาติธรรมที่ไปช่วยงานอบรมกสิกรของคกร.ทุกแห่งหน โปรดรับทราบ เพื่อร่วมอนุโมทนา...สาธุ จุ๊ย์ๆๆ



เพิ่มรูปแบบการประชุม
ต่อนี้ไปการประชุมทุกครั้ง พ่อท่านจะให้บันทึกเพิ่มเติมลงไปอีก ๒ เรื่องคือ
เมื่อถึงเวลาประชุม ตามนัดหมาย ให้บันทึกลงไปในรายงานการประชุมว่า มีผู้เข้าประชุมกี่คน และเมื่อเปิดประชุมเริ่มกี่โมง คนกี่คน
ทั้งนี้เพื่อจัดระบบการประชุมให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
นี้แหละคือ "ศีลของเธอประการหนึ่ง!" จุ๊ย์ๆๆ



วิธีคิดเป็นเรื่องสำคัญ (สัมมาทิฐิ)
จากญาติธรรม อรวรรณ แข็งแรง (อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร)
"ดิฉันนั้นเป็นคนจิตใจค่อนข้างจะอ่อนแอ ทำอะไรก็จะทุ่มเทอย่างมาก แต่ถ้าผลออกมาไม่เป็นอย่างที่คาดหวัง ก็จะเหมือนคนเป็นไข้ หนังสือจึงมีส่วนได้มากทีเดียว"

โรคกิเลสตัวนี้ใครๆก็เป็นกันทั้งนั้น จะต่างกันก็เป"นมากเป็นน้อย
การมีเรื่อง "ขัดใจ" "ไม่สมใจ" "ไม่ประสบสิ่งที่รัก" หากเรียนรู้นั่นคือการ "เข้าถึงไตรลักษณ์" และนั่นก็คือการ "เข้าถึงธรรม"

เห็นทุกข์ก็จะเห็นธรรม ถ้าคิดจะปฏิบัติธรรม
เห็นทุกข์เป็นเรื่องเลวร้าย นี้คือมนุษย์ปุถุชน
ชีวิตนี้เราจะปล่อยวาง เราจะไม่ยึดมั่น เราจะเข้าสุญญตามิใช่หรือ?
ตบะทั้งหลายข้อปฏิบัติลดละทั้งมวล ล้วนเป็นไปเพื่อจุดนี้
หากไม่เข้าใจว่าทำไปทำไม ก็เหมือนเรือไม่มีหางเสือ พุ่งเร็วแต่วนไปวนมาไม่ได้มรรคผล! จุ๊ย์ๆๆ



ปฏิบัติธรรมคือการไม่หยุดอยู่กับที่

จากญาติธรรม อ้ายผัดวัน (อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่)
"ส่วนการปฏิบัติตามแนวทางอโศกตามที่พ่อท่านสอน ตอนนี้ผมกินมื้อเดียวตั้งแต่เข้าพรรษามาได้ ๗ เดือนแล้ว กินมังสวิรัติร้อยเปอร์เซ็นต์ เมื่อเดือนมกราคมผมได้ไปตรวจร่างกาย หมอบอกว่าร่างกายสมบูรณ์ดี ทั้งน้ำหนักตัว ความดันโลหิต ปกติดีทุกอย่าง ทั้งโรคเบาหวานก็ไม่มี ผมเลยตกลงกับภรรยาว่า ผมจะกิน มื้อเดียว ตลอดไป และจะไม่กลับไปกินเนื้ออีก ภรรยาก็ไม่ว่าอะไร เขาก็อนุโมทนาด้วย ส่วนภรรยา จะขอ กินมังฯ เฉพาะวันพระ และวันเกิดของเขาเท่านั้น และก้าวต่อไปของผม คือจะพยายาม เข้ามาสัมผัส หมู่กลุ่ม ให้ได้ครับ"

การตื่นตัวเป็นเรื่องสำคัญ ปฏิบัติธรรมถ้าเริ่มตื้อๆ ต้องเคลื่อนไหวตัวเอง พยายามมีกิจกรรมอย่าหยุด อยู่กับที่ เช่น การตั้งตบะ, การสัมพันธ์กับคนอื่น ฯลฯ แล้วเราก็จะสดอยู่ตลอด ดั่งเช่นญาติธรรมอ้าย ผัดวัน จุ๊ย์ๆๆ



ทำไมเรียก "เนื้อนาบุญ"
"ที่บ้านจะมีห้องหนังสือจะจัดหนังสืออโศกไว้บนชั้นเลยค่ะ แบ่งปันกันยืมอ่าน
ดิฉันได้นำเรื่องต่างๆ จากหนังสือดอกหญ้าไปพิมพ์ใหม่ แล้วนำไปสอนนักเรียนในคาบ อบรม ชั้น ม.๔ โรงเรียน พร้าววิทยาคม เช่น เรื่องกินให้หมดจาน และเรื่องทำอย่างไรให้ชีวิตเป็นสุข และใคร่ขออนุญาต ทางสมาคมฯ มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ผลของการอบรมเมื่อวันนั้นนักเรียนให้ความสนใจ ไม่คุยไม่เล่นกัน ตั้งใจรับฟัง เป็นอย่างดีค่ะ และนักเรียนบางคนก็มาคุยกับดิฉันหลังจากเลิกอบรมแล้วเขาบอกว่า ต่อไป เขาจะกิน ให้หมดจาน และจะตักแค่กินอิ่มท้อง เท่านั้น ทำให้ดิฉันมีความสุขใจ ที่ได้ให้นักเรียน ได้คิด ในเรื่องของ ทรัพยากรที่มีคุณค่า การประหยัดและการรู้คุณค่าของข้าวที่เรากินทุกๆวัน และคาบอบรม ครั้งต่อไป ดิฉันก็จะนำเรื่องดีๆ จากหนังสือดอกหญ้าและสารอโศก ไปเล่าให้นักเรียนฟังอีก หวังว่า ทางสมาคม คงจะอนุญาตอีกนะคะ ขอขอบพระคุณอย่างยิ่งค่ะ"

อ่านจ.ม.ของญาติธรรม จำลอง วาธุกา (อ.พร้าว จ.เชียงใหม่) ก็จะเห็นประโยชน์จากสิ่งพิมพ์ของเรา และความเป"นเนื้อนาบุญของผู้หวังดีทุกคน (ให้ไปเขาก็ไปทำประโยชน์ต่อ) จุ๊ย์ๆๆ



สิ่งที่นักปฏิบัติธรรมต้องเจอ
"เข้าใจอาริยสัจจะ ปาฏิหาริย์ของพุทธมากขึ้นค่ะ ได้แนวทางในการดำเนินชีวิตที่แท้จริงและเชื่อมั่น มากขึ้นว่า หากทำตามแนวทางนี้ชีวิตก็จะไปรอดค่ะ เพราะที่ผ่านๆมา ก็ได้ทดลองฝึกทำ ในสิ่งที่ตนเอง มีบารมี พอฝึกทำได้ เช่น การกินน้อย ใช้น้อย พยายามไม่สะสม และเผื่อแผ่ ไปยังคนอื่นๆ แม้ขณะนี้ ยังอยู่ในวงแคบๆ แต่ต่อไปจะพยายามขยายออกไป ยังวงกว้างขึ้น ไปสู่สังคมส่วนรวมให้มากๆ กว่านี้ค่ะ และจากการ ฝึกปฏิบัติ แม้ยังน้อยนิด ก็ยังได้รับอานิสงส์ ของการฝึกปฏิบัติเลยค่ะ จึงค่อนข้าง เชื่อมั่น ในแนวทาง ที่พ่อท่านพาทำค่ะ แม้จะดูแปลกๆในสายตาคนอื่นๆ ที่อยู่รอบข้าง พร้อมคำกล่าวทักท้วง แต่ก็จะไม่หวั่นไหวค่ะ"

จ.ม.ของญาติธรรม ชญานุตม์ ไตรรัตน์ผลาดล (เขตคลองสาน กทม.) ทำให้จิ้งจกสรุปได้ดังนี้
๑. อยู่ในสังคมรอด ปลอดพิษเศรษฐกิจ ปลอดพิษอารมณ์
๒. มีจิตใจเอื้อเฟื้อสังคม
๓. ต้องเผชิญกับสายตาที่มองมาไม่ปกติ
๔. ต้องต่อสู้กับคนที่มีความเห็นขัดแย้ง
ทั้งหมดนี้คือ สิ่งที่เราต้องเจอะเจอ ใครไม่เจอถือว่าขาดรสชาติของชีวิต! จุ๊ย์ๆๆ



ประวัติศาสตร์แห่งการเข็นกงล้อธรรมจักร

อาทิตย์ที่ ๒๓ ม.ค. ๒๕๔๘ เปลี่ยนการประชุมจากสาธารณโภคีมาเป็นการประชุมชุมชนสันติอโศกแทน โดยมีตัวแทน จากทุกหน่วยงาน เข้าประชุม

ต่อไปนี้เราจะใช้การประชุมชุมชน เป็นตัวขับเคลื่อน เพื่อความเป็นเอกภาพแห่งการทำงาน จุ๊ย์ๆๆ



ชมร.ไร้สารพิษ!
"ลูกค้าหรือคนข้างนอกเขาเข้าใจว่าเราใช้ผักไร้สารพิษทุกวัน ความจริงเราใช้ผักไร้สารพิษ ในวันแจกอาหาร เท่านั้น ส่วนวันอื่นๆเราเน้นผักไร้สารพิษไม่ต่ำกว่า ๙๐% ต่อไปเราต้องพัฒนา แม่ครัวก็ต้องพัฒนาฝีมือขึ้น พัฒนาคน เช่นแม่ปราณี ที่สามารถจะให้ความเข้าใจ ให้ความรู้ในสิ่งที่ดี ถูกที่สุดกับลูกค้า แม้เราเอง ก็ต้องพัฒนาตัวเอง ให้เกิดความงามที่สุด และต้องทนได้ ต้องหนักแน่น"

โอวาทท่านบินบน ถิรจิตโต เมื่อวันที่ ๑๙ ต.ค. ป• พ.ศ.๒๕๔๕ ให้กับชมร.เชียงใหม่

มา ณ พ.ศ. นี้ คือ ปีพ.ศ.๒๕๔๘ ชมร.แต่ละแห่ง เริ่มขยับเป็นไร้สารพิษ ๑๐๐% ได้แล้ว เป็นสิ่งที่น่า อนุโมทนา จุ๊ย์ๆๆ



ทุกข์นี่แหละดี
"จะอดทนจนกว่าจะหมดแรง....."
ญาติธรรม อุทัย แออัด (อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก) ปฏิญาณมาจากสนามรบ
จิ้งจกคิดถึงคำสอนของท่านมหาตมคานธี ที่บอกว่า "งานที่ปราศจากแรงบันดาลใจ ย่อมไร้ค่า"
แท้จริงแล้ว การปฏิบัติธรรมคือดังนี้
๑. ฝึกถือศีล
๒. ฝึกอยู่กับทุกข์
สู้อย่างนี้จะได้ไม่เบื่อทุกข์ จุ๊ย์ๆๆๆ



สิ่งที่ต้องฝึกฝนจนกว่าจะตาย!
"ส่วนผมก็กำลังรบกับกิเลสสู้กับผัสสะมากมาย อยู่ร่วมกับมิตรที่ไม่ค่อยสนใจในธรรมที่เป็นสัจจะ ส่วนมาก จะถือเทวนิยม กิเลสที่ว่าคือการนอนจะนอนกลางวัน(ลดละอยู่) การกินจุบจิบ(ลดมื้อลง) เห็นความสวยงาม ของสิ่งของและอยากได้(รวมสตรีที่ชื่นชอบ แต่ก็พิจารณาให้เห็นความจริงว่า ตายไป ก็เป็นผีเหมือนกัน ดังเช่นอริยสัจ ๔ ทุกคนมีเกิด แก่ เจ็บ ตาย) บางครั้งก็อยากแต่ก็ระงับได้ (อยากได้ทรัพย์ ได้ลาภ ยศ สรรเสริญ) รวมถึงอยากมีความสุขแบบทางโลก แต่เมื่อเห็นรู้ความจริงแล้วมันเป็นสุขที่ปนทุกข์ก็ถอนใจ ปัจจุบัน ผมกำลังปฏิบัติ กินมังสวิรัติตลอดชีวิต เพื่อถวายแด่พระพุทธเจ้า ศาสนา และปลดปล่อย สรรพสัตว์ทั้งปวง นอนน้อย ทำงานมาก กินน้อยลง ไม่โกรธผูกพยาบาท แต่ผมจะพยายาม ทำได้สูง ยิ่งๆขึ้นไป และจะไม่อวดอ้างใคร ไม่ถือดี ไม่หลงตน เพื่อหลุดพ้นจริงๆ"
- ผองพุทธ พวงจันทร์ (อ.เมือง จ.ตาก)

"ในการปฏิบัติของข้าพเจ้ายังลุ่มๆดอนๆ พยายามแล้วพยายามอีก เพราะเจอสิ่งที่มากระทบเยอะ ยิ่งไม่ได้ อยู่ในวัด (นอกวัด) ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ บางครั้ง ลืมตัวก็มี อารมณ์โกรธก็มี อารมณ์หลงก็มี แต่ก็พยายาม ให้มันน้อยลง โกรธปุ๊บดับปั๊บ ต้องทำให้ได้ จะไม่โกรธเลย....."

จ.ม.ของญาติธรรมที่เล่าการประพฤติปฏิบัติ สรุปได้ดังนี้ก็คือ ๑. จัดการกับวัตถุ (โลภะ) ๒. จัดการกับ อารมณ์ (ถูกรุกราน-ถูกละเลย-ถูกละลาบละล้วง)

หรือทั้งหมดนี้ก็คือ จัดการกับ ตัวกู-ของกู นั่นเอง "ของกู" เป็นจำเลยคนแรก ที่ต้องให้ความสำคัญ

แต่อย่างไรก็ตาม ทฤษฎีสวยงามถ้าไม่เจอโจทย์(ผัสสะ) ก็ไม่มีทางประสบความสำเร็จ จุ๊ย์ๆๆ



หน้าที่ญาติธรรม
"อีกทั้งตอนนี้ผมได้ปลูกผักไร้สารพิษ เพื่อที่จะนำมาทำเป็นอาหารในร้านอาหารมังสวิรัติอาหารเจ ซึ่งผม กำลัง ทำอาหารจำหน่ายอยู่ แต่เป็นสวนครัวขนาดเล็กครับ ลองดูก่อน ผมคิดว่า ผมน่าจะทำ ครบวงจร โดยการทำอาหาร จำหน่ายราคาถูก และต้องมีผักที่ไร้สารพิษเป็นส่วนประกอบ ในการทำ อาหารด้วย ผู้ที่กิน จะได้กิน อย่างสบายใจและปลอดภัย

ผมจะพยายามลดละกิเสล ถือศีลให้เป็นปกติ และจะติดตามหนังสือดีๆมีสาระของชาวอโศก จะพยายาม เดินตาม พ่อท่าน ญาติๆ ของชาวอโศก และถ้ามีโอกาสก็จะไปร่วมงานบุญเช่นกัน....."

การเล่าสู่กันฟังของญาติธรรม บางทีก็ทำให้การปฏิบัติธรรมของเรา "ชัดเจน" ขึ้น เห็นทางเดินต่อ เห็นเทคนิค รวมทั้ง เกิดพลัง เกิดแรงบันดาลใจ

จดหมายของพวกเราที่ส่งมาจึงเป็น "ธรรมทาน" ได้อย่างดี
หน้าที่หลักของพวกเราวันนี้ จึงคือ
๑. ปฏิบัติธรรม ลดละ ฝึกกินน้อยใช้น้อย ทำงานให้มาก
๒. หัดเข้าร่วมกิจกรรมของหมู่กลุ่มในโอกาสต่างๆ
๓. พยายามปลูกผักไร้สารกินเอง

ข้อสุดท้ายนี้หากทำกันทุกคน อโศกจะมีผักพอเพียงด้วยพลังมดนี่เอง จุ๊ย์ๆๆ



แหล่งพำนักในอนาคต
"ดิฉันเป็นคนมีพี่น้องมาก (๑๐ คน) มีหลานมาก (๒๐ กว่าคน) ส่งเสียน้องๆหลานๆมาจนเบื่อหน่ายภาระ ไม่อยาก แต่งงาน เห็นโทษภัยของการมีภาระ โทษภัยของการเกิด พร้อมจะอยู่เป็นโสด เพื่อลดภาระส่วนตัว ลงบ้าง พอมารู้จักอโศกก็ดีใจ รู้สึกมีกองสนับสนุนความคิดเรื่องเป"นโสด รู้สึกมีที่พึ่ง เพราะดิฉันไม่อยาก เป็นสมาชิก ในครอบครัวใคร เบื่อปัญหา เบื่อเรื่องราวของผู้ครองเรือนค่ะ ก็คิดหวังว่า จะอยู่กับชาววัด พอมารู้จักอโศก ความคิดหวังนี้ ก็มั่นคงเป็นจริงเป็นจังมากขึ้น รู้สึกมีที่พึ่ง หมดห่วงอนาคต"

เป็นความฝันของญาติธรรม นภาภรณ์ เจริญพันธุวงศ์ ชีวิตของบางคนโชคดี มีเทวทูตมาเตือน สม่ำเสมอ ถือเป็น บุญเก่า แต่อันที่จริง เทวทูตมาเตือนทุกคนแหละ เพียงแต่ถ้าช่างสังเกตหน่อยก็จะเห็น

การที่พ่อท่านพาฝึกอธิษฐานช่วงทำวัตรเช้าก็ถือเป็นการ "สัญญาจากใจ" เหมือนกัน

คนทุกคนย่อมได้ในสิ่งที่อยากเป็น ยกเว้นปากกับใจที่ไม่ตรงกัน! จุ๊ย์ๆๆ

จิ้งจกส์.


ผู้ใดรู้ว่างานนี้ดี งานนี้ประเสริฐ
ยังจะชักช้าอะไรอยู่ ไยไม่รีบทำ

- สารอโศก อันดับที่ ๒๘๑ มีนาคม ๒๕๔๘ -