ค่ายยุวพุทธทายาท ครั้งที่ ๔ ที่สันติอโศก วันเวลานาที มีราคามากยิ่งกว่าสิ่งใดใด ใครจะรู้ได้ว่า เวลาที่ล่วงไปนั้นจะเรียกคืนด้วยวิธีใด คำตอบไม่ได้อยู่ที่อดีตหรืออนาคต แต่อยู่ที่ปัจจุบันขณะ ที่เราทำอยู่นี่เอง หากเราสั่งสมกรรมดี ระวังกรรม ๓ สังวรในศีล เวลาจะผ่านเลยไปอย่างไร สิ่งที่เรา ได้ทำเอาไว้ก็คือทุนของราคาที่มีค่ายิ่งกว่าสิ่งใดๆ นั่นเอง สาระของการสร้างกรรมดี มาจากสิ่งที่เราฝึกฝน แล้วเราจะฝึกอะไร แบบไหนกันดี ลองมาดู ชาวยุวพุทธทายาทกันหน่อยปะไร งานยุวพุทธทายาทปี ๒๕๔๘ นี้ เป็นครั้งที่ ๔ วันที่ ๑๙-๒๓ เมษายน พ.ศ.๒๕๔๘ ที่พุทธสถานสันติอโศก พ่อแม่ พี่น้อง ลุงป้า น้าอาจูงลูกชวนหลาน มาร่วมงาน รวมเด็กได้ ประมาณ ๑๖๖ คน เป็นชาย ๗๐ คน หญิง ๙๖ คน โดยสถิติแล้ว ดูจะเป็นจำนวนที่เหมาะมือ กับทีมงานมากๆ ดูแลกันได้ทั่วถึงดี ปีนี้จัดให้มีที่พักบนอาคาร ฝ่ายหญิงพักที่ตึกนวล ตึกขาว ฝ่ายชายพักที่ตึกสัมมาสิกขา จัดให้มีการ สร้างบ้าน เพื่อทำกิจกรรมกลุ่ม สำหรับหุงข้าวต้มแกง และรวมตัวที่ลานทราย หน้าตึกแดง กิจกรรมค่ายยุวพุทธฯ เริ่มลงทะเบียนเวลา ๐๘.๓๐ น. ร่วมรับประทานอาหารกลางวันจน ๑๒.๐๐ น. เริ่มปฐมนิเทศโดย สมณะกล้าตาย ปพโล และ ครูตุ๊ก รอยทราย ๑๓.๐๐ น. เข้าสู่ดินแดนมหัศจรรย์ สร้างบ้านแปลงเมือง ณ ลานทรายหน้าตึกแดง ๑๗.๓๐ น. เพลงประจำค่ายดังขึ้นแล้ว ชาวค่าย มารวมตัว กันที่ศาลาฟังธรรม เป็นรายการ "ให้ดี" เด็กแต่ละกลุ่ม จะได้รับแผนที่นำทางไปพบสมณะ และสิกขมาตุ ประจำกลุ่ม เพื่อร่วมกัน ตั้งชื่ออาณาจักรและรับคติประจำกลุ่ม ซึ่งเป็นสิ่งที่เด็กๆจะต้องจดจำให้ได้ ถามเมื่อไร ตอบได้เมื่อนั้นกันทุกคน จากนั้นให้กลับสู่ที่พักของกลุ่ม สวดมนต์ไหว้พระ และจบด้วย คติธรรม ประจำกลุ่มก่อนลงสู่นิทรา ๒๐ เม.ย. เช้าวันที่สอง เริ่มต้นลุกจากที่นอนกันตอน ๐๔.๓๐ น. เสียงเพลงประจำค่าย ส่งมา ตามลำโพง เป็นสัญญาณบอกเตือนว่า มาเจอกันได้แล้วที่ศาลาเวลา ๐๕.๐๐ น. เพื่อสวดมนต์ ทำวัตรเช้าร่วมกัน โดยแต่ละกลุ่มจะแบ่งเพื่อนๆไว้ ๓ คน เพื่อก่อฟืน หุงข้าวทำอาหารใส่บาตร รวมถึงมื้อเช้าของกลุ่มด้วย ได้เวลา ๐๗.๐๐ น. สมณะและสิกขมาตุ จะมาบิณฑบาต ตามกลุ่ม ต่างๆ และก็ถึงช่วงเวลาบรรเลง มื้อเช้ากัน ๐๗.๓๐ น. อย่านิ่งดูดาย มาเข้าฐานงาน เช้ากันเร็ว ใครทำได้มากก็เก็บบุญได้มาก ไม่ว่าจะเป็นที่ บจ.พลังบุญ บจ.แด่ชีวิต บจ.ขอบคุณ ชมร. ตึกสัปปายะ รวมทั้งขนหินและกวาดใบไม้ ล้วนฝึก ความอดทน ให้ความสามัคคี กับชาวค่ายทั้งสิ้น ๐๘.๑๕ น. ช่วงเวลาการฝึกวิทยายุทธพุทธธรรม มารู้จักเจโตสมถะกันบนวิหารพันปี โดย สมณะธัมมาวุโธ ๐๙.๐๐ น. พร้อมกันที่ศาลาพบกับรายการวรยุทธพุทธธรรม ก่อนจะพบกับ มื้อกลาง วันที่รอคอย จากแม่ครัว ชมร. ฝีมือเด็ด หลังอาหารเด็กๆได้รู้จักการล้างจานที่ถูกวิธี จากพี่ๆทีมงาน สัมมาสิกขา ม.๔ และพี่ๆ กลุ่มศูนย์ ลงมือตรวจจานน้องๆ งานนี้พี่ไม่พลาด ข้าวซักเม็ด ก็ไม่ให้เหลือ น้องๆคนไหนเหลือ พี่ให้น้อง จัดการให้เรียบ ก่อนสู่ขั้นตอน การล้างจาน ที่สะอาดและประหยัดน้ำ แน่นอนว่ากินแล้วต้องย่อย ให้มาช่วยกันย่อยโดยทำความสะอาดพื้นที่ กวาด เช็ด เก็บ ล้าง ....เรียบ ต่อด้วย กิจกรรมซักสะอาดเอี่ยม ให้น้องๆนำเสื้อผ้ามาซักรวมกัน โดยใช้ขั้นตอน การประหยัดน้ำ คือ น้ำ ๑ น้ำ ๒ ผสมน้ำยา น้ำสะอาด ๓ และ ๔ ตามลำดับ ฝ่ายชายน้ำดำปี๋ แต่ก็ซักกัน จนหมด ฝ่ายหญิง รักสะอาดหน่อย จึงเปลี่ยนน้ำบ่อย เพราะกลัวไม่สะอาด...เอี่ยม แต่ก็ยังอยู่ในข่ายของ การประหยัดน้ำ ๑๒.๐๐ น. ถึงคราว ของ WORK RALLY... ๑๓.๐๐ น. เข้าสู่ฐานต่างๆในการทำมัดย้อม ทำกระเป๋าใบเล็ก ฝึกทำอาหารลาบ น้ำตก บัวลอย ถั่วกวน ปาท่องโก๋ ประดามี มื้อเย็นนี้ไม่อดตาย แถมมีของอร่อยๆฝีมือกลุ่มที่ไปฝึกฐานอาหารงานมาด้วย กลับบ้าน คราวนี้ คุณพ่อคุณแม่ จะได้ลิ้ม ฝีมือลูกๆบ้าง อย่าลืมเป็นกำลังใจให้เจ้าตัวน้อย ที่สู้อุตส่าห์เก็บวิชาครัว มาฝาก ทางบ้าน ให้ได้ชื่นใจกัน ๑๔.๓๐ น. ได้เวลาอาบน้ำ ทำอาหาร และรับประทานอาหาร มื้อเย็น แต่ดูจะเป็น เวลาได้เล่นน้ำตก ซะมากกว่า เด็กๆจะชอบมากเป็นช่วงเวลาของการผ่อนคลายจริงๆ ๑๖.๓๐ น. เพลงประจำค่ายดังขึ้น เพื่อบอกว่ามารวมตัวทบทวนกระบวนยุทธกัน มีการแสดง จากพี่ๆ และปัญหาถามตอบ เพื่อทดสอบน้องๆในค่าย สนุกสนานครื้นเครง เด็กๆ รวมตัวกัน เป็นกลุ่มก้อนดีมาก ไม่มีกลุ่มเล็ก แตกแถวออกนอกกิจกรรมเลย เป็นค่ายที่มีเด็กว่าง่าย และ ช่วยให้พี่ๆกับทีมงานทำงาน ได้ง่ายขึ้น เป็นอย่างมาก ๒๑ เม.ย. เริ่มรายการด้วยธรรมะรับอรุณ โดย สมณะ ถักบุญ ต่อด้วยรายการใส่บาตร และมื้อเช้า ที่กลุ่ม เสร็จแล้วร่วมกันเข้าฐานงานเช้าที่กำหนดไว้ให้ รายการฝึกวิทยายุทธ พุทธธรรมวันนี้ เด็กๆจะได้พบกับ ถ้วยอัดทรายปักธูป ให้เด็กๆฝึกเพ่งสมาธิ จนกว่าธูป จะหมดดอก เป็นช่วงเวลาให้เด็ก ได้รู้จักความสงบนิ่ง อีกรูปแบบหนึ่ง จากนั้นเข้าสู่รายการวรยุทธพุทธธรรม โดย สมณะดงเย็น ก่อนจะพบกับช่วงอาหารดี มีประโยชน์ ช่วงนี้ จะมีการฉายวิดีโอ กิจกรรม ๕ ส. ของแต่ละกลุ่ม โดยการสำรวจ ของทีมงาน ที่ตามเก็บภาพ มาให้ได้ดูกัน ทำให้ได้เห็นของจริง ผสมครื้นเครงกันเล็กๆ แต่ก็แฝงไว้ ซึ่งความสังวรของเด็กๆ... พรุ่งนี้หนูจะเก็บพื้นที่ ให้สวยกว่านี้.....แฮ่ๆ ภาคค่ำเป็นเวทียุวพุทธ "เวทีนี้...หนูขอ" กิจกรรมนี้มอบให้เด็กๆแสดงละครกลุ่ม สะท้อน ถึงคุณธรรม ตามหัวข้อ ที่ได้ เช่น ในเรื่องประหยัด ขยัน ซื่อสัตย์ มารยาทงาม ความดีมีน้ำใจ เสียสละ เมตตา สะอาด และ สามัคคี เด็กๆแสดงกันได้ดี แสดงถึงศักยภาพกลุ่ม และตัวบุคคลออกมา ๒๒ เม.ย. ตื่นมาทำวัตรเช้า ตามด้วยการฉายวีซีดี รายการ "ชีวิตที่ร่ำไห้" บรรยากาศสลดสังเวช ของการสูญเสียชีวิต ของสัตว์แต่ละตัวที่เด็กๆได้พบ สัตว์ถูกฆ่าน่าเวทนา จนบางคน ต้องก้มหน้า ร้องไห้ เมื่อได้รู้ความจริงว่า ก่อนจะได้มาเป็นอาหารจานโปรด ที่ทำจากเนื้อสัตว์ มีขั้นตอน ที่สัตว์ ต้องทุกข์ทรมานอย่างไร หลังจากนั้นมีรายการ "หลับตาสร้างจินตนาการภาพ" โดย พี่ดาว ศศิธร ช่วยคลายภาพเก่า เปิดสู่ภาพใหม่ เด็กๆรู้สึกจิตใจดี หลังกิจกรรมผ่อนคลาย ได้เวลาใส่บาตร รับประทาน อาหารเช้า ที่อาณาจักรของแต่ละกลุ่ม เช้านี้ งดเข้าฐานงานเช้า เพื่อคืนพื้นที่ คืนอุปกรณ์ครัว กิจกรรมวิทยายุทธพุทธธรรมวันนี้ เด็กๆมีโอกาสได้ฝึก "เจโตสมถะ" อีกรูปแบบหนึ่ง ด้วยการ นั่งสมาธิ โดยมีถ้วยน้ำ ตั้งอยู่บนศีรษะ ดูเหมือนไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยากเกินเด็ก เพราะแม้แต่ น้องตัวเล็กๆก็ยังทำได้ดี แต่บางคน อาจทำไม่สำเร็จ น้ำหกลงมาบ้าง ก็ไม่ละความพยายาม เทินน้ำ ขึ้นศีรษะฝึกใหม่ จนเวลาหมดลง พร้อมกับรอยยิ้ม แห่งความภาคภูมิใจ...ฉันทำได้.. คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายของค่ายแล้ว เรามีกิจกรรม "รอบกองไฟ" ที่ลานทรายหน้าตึกแดง เริ่มด้วยการแข่ง กีฬาวิ่งเปี้ยว เฮกันสนั่น จากนั้นรองประธานชุมชนสันติอโศก อาน้อย (ร้อยแจ้ง จนดีจริง) มากล่าวเปิดงาน รอบกองไฟ รายการนี้นอกจากความสมานฉันท์กับทุกกิจกรรมที่ร่วมกันทำมาตลอดค่ายแล้ว จุดสำคัญ ของงาน คืนนี้ ก็คือ "การทิ้งกิเลส" ซึ่งเด็กๆได้ตั้งจิตตั้งใจบรรจงเขียนกิเลส ข้อที่ต้องการ ละทิ้งใส่กระดาษ และนำไปติด ที่ต้นกิเลส เพื่อนำไปเผาที่กองไฟของงาน โดย "พี่อ๋อย เคียงฟ้า" เป็นผู้กล่าวนำ ...และแล้วงานรื่นเริงย่อมมีวันเลิกรา กลับสู่ที่พักของแต่ละกลุ่ม เพื่อพบกับกิจกรรม ของวันรุ่งขึ้น ๒๓ เม.ย. เช้านี้ให้พักในช่วงเวลาทำวัตรเช้า เพื่อกตัญญูต่อสถานที่ จัดเก็บกวาด ทำความสะอาด และ คืนอุปกรณ์ ก่อนได้เวลาใส่บาตรที่ลานทราย แล้วรับประทาน อาหารเช้า ร่วมกัน "โดยแม่ครัว ชมร." เพลงประจำค่าย ดังขึ้นคราวนี้ เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนรวมตัวกัน เพื่อทำพิธีอำลา สัญญาใจ รับพรก่อนจาก และ ของที่ระลึกจากสมณะ สิกขมาตุ มีหนังสือ ธรรมะนำกลับไปอ่านเตือนความทรงจำ พิธีจบลงด้วยน้ำตา และ สัญญาใจ ที่จะไม่ลืมกัน และเราจะกลับมาพบกันอีกในปีหน้า... เจริญธรรม สำนึกดี -- สารอโศก อันดับที่ ๒๘๒ เมษายน ๒๕๔๘ - |