หันหลังให้เหล้า
จาก น.ส.พ.ไทยรัฐ ๒๒ ก.ค.'๔๘ คอลัมน์ "เหะหะพาที"


ผมเกริ่นไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะครับว่า อยากจะขอเวลาสัก ๒ วัน ในช่วงบรรยากาศของวัน อาสาฬหบูชา และ วันเข้าพรรษา พูดถึงเรื่อง ใกล้ตัวที่สุดของมนุษย์ สลับฉากกับเรื่อง ที่อยู่รอบๆ ตัวเสียบ้าง

เพราะบ่อยครั้งที่มนุษย์เรามักให้ความสำคัญกับปัญหารอบๆตัวหรือไกลตัว จนลืมไปว่า แท้ที่จริงแล้ว หากเรา สามารถปรับปรุง สิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรา หรือที่ติดอยู่กับตัวเรา เช่น ความรู้สึก นึกคิด อุปนิสัย หรือ ความประพฤติ และวิถีปฏิบัติต่างๆให้ถูกต้อง ตามทำนอง คลองธรรม เสียหน่อยเท่านั้น ปัญหาต่างๆ ก็จะคลี่คลายลงได้กว่าครึ่งค่อนทันที

เมื่อวานนี้ผมเลยถือโอกาสเล่าเรื่องวันอาสาฬหบูชา หรือวันประกาศ พระศาสนา ขององค์ พระสัมมา สัมพุทธเจ้า ของเรา พร้อมทั้งเชิญชวน ให้สาธุชนทั้งหลาย หันหน้าเข้าหาวัด และ ตั้งจิตอธิษฐาน มุ่งมั่น กระทำความดีรักษาศีลรักษาธรรมตลอดไป

ถือเป็นการเชิญชวนในภาพรวมหรือเชิญชวนแบบทั่วๆไป เห็นอะไรดีก็จงทำในสิ่งนั้น และ เห็นอะไรไม่ดีก็ งดเว้นเสีย.....ว่าอย่างนั้นเถิด

สำหรับวันนี้ซึ่งเป็นวันเข้าพรรษา ผมจะขออนุญาตเชิญชวนแบบเจาะจง และลงลึก ในรายละเอียด .... โดย จะมุ่ง เน้นสู่การกระทำความดี เฉพาะเรื่องเฉพาะราวสักเรื่องหนึ่ง

เรื่องที่กำลังรณรงค์อยู่ในขณะนี้....."งดดื่มเหล้าช่วงเข้าพรรษา" นั่นแหละ

ผมเห็นด้วยกับการรณรงค์เรียกร้องของมูลนิธิเมาไม่ขับ และของกระทรวงสาธารณสุข ตลอดจน องค์กร การกุศล อีกหลายองค์กร ที่ร่วมมือกันอย่างแข็งขันครับ

เหตุที่ผมเห็นด้วย เพราะนั่งดูตัวเลขที่เกี่ยวข้องต่างๆแล้วไม่สบายใจเลย

สำนักงานสถิติแห่งชาติ เจ้าตำรับการเก็บข้อมูลและสถิติที่เชื่อถือได้รายงานว่า ทุกวันนี้ คนไทยเรา ดื่มสุรา จัดมาก เป็นอันดับ ๕ ของโลก หรือเฉลี่ย ๑๓.๕๙ ลิตรต่อคนต่อปี เข้าไปแล้ว ขณะนี้

ปริมาณการดื่มก็เพิ่มขึ้นตลอด เมื่อ ๒๕๓๕ ดื่มทั้งสิ้น ๙๙๒ ล้านลิตร พอมาถึงปี ๒๕๔๕ ดื่ม เพิ่มเป็น ๑,๙๒๖ ล้านลิตร กว่า ๒ เท่าตัว

ตัวเลขคนดื่มสุราล่าสุดของบ้านเราประมาณ ๑๕ ล้าน ๓ แสนคน คิดเป็นเงินที่ใช้เพื่อ การดื่ม ๑๕๐,๐๐๐ ล้าน บาทต่อปี น้อยเสียเมื่อไหร่ล่ะ

จากตัวเลขทั้งหมดเหล่านี้โยงไปสู่ปัญหาหลักๆของชาติหลายปัญหา ตั้งแต่คนดื่ม อายุสั้น, เกิดโรคที่ เกี่ยวข้อง สารพัด, เกิดอุบัติเหตุ, เกิดการทะเลาะวิวาท, เกิดคดีทางเพศ ฯลฯ

รวมไปถึงการสูญเสียเงินทองอย่างเปล่าประโยชน์ถึงปีละ ๑๕๐,๐๐๐ ล้านบาท อย่างที่ว่า

จึงสมควรทุกประการแล้วครับ ที่จะมีการรณรงค์ขอร้อง.....ขอให้ดื่มน้อยลง หรือหากเลิกดื่ม ได้เสียเลย เป็นดีที่สุด

เทศกาลเข้าพรรษาเป็นเทศกาลที่เหมาะสม สำหรับการรณรงค์เรื่องนี้ เพราะในทางปฏิบัติ ที่ผ่านมา มีคนไทย ที่ติดสุราจำนวนไม่น้อย เลิกดื่มสุรา ในระหว่างพรรษา เพื่อถวายแด่ พระพุทธเจ้ากันอยู่แล้ว

คอสุรานับจำนวนหมื่นคนเหล่านี้สามารถเลิกดื่มได้โดยสิ้นเชิงอย่างไม่น่าเชื่อตลอด ๓ เดือน เต็มๆ ของเทศกาล

แต่ที่น่าเสียดายและน่าเศร้าก็คือ ทันทีที่ถึงวันออกพรรษา.... .คอทองแดง ทั้งหลาย จะหันไป ดื่มใหม่ และ จะดื่ม หนักกว่าเดิม เพื่อชดเชยที่หยุดไป

ที่ผมจะร่วมขอร้องวิงวอนด้วยอีกแรงก็ประเด็นนี้แหละครับ คืออยากจะขอว่า สำหรับท่าน ที่อุตส่าห์ เลิกได้แล้ว ถึง ๓ เดือน ทำไมถึงไม่เลิกต่อไป ตราบกาลนิรันดร์ล่ะ?

ท่านอดได้ตลอดพรรษาอย่างนี้แล้ว หากใจแข็งอีกหน่อยเดียว รับรองอดได้ตลอดชีวิต

เหมือนที่ผมเคยเลิกบุหรี่ พอทะลุผ่าน ๑ เดือนไปได้ก็สามารถเลิกได้มาจนบัดนี้กว่า ๑๕ ปีเต็ม

นะครับ..... สำหรับท่านที่ตั้งใจลด หรืองดในช่วงพรรษาอยู่แล้ว ผมก็ขอให้ท่านงด หรือเลิก อย่างถาวร หากสามารถ กระทำได้

ส่วนท่านที่ยังไม่มีแผนการ หรือยังไม่ได้คิดว่าจะงด ผมก็อยากให้งดดูสักพรรษาหนึ่งก่อน

เสร็จแล้วจะงดไปชั่วนิรันดร์หรือไม่อย่างไร ค่อยตัดสินใจกันอีกที

สรุปว่า ก่อนค่ำวันนี้อย่าลืมยกมือไหว้พระพร้อมๆกัน แล้วคว่ำแก้วเหล้าเลยนะครับ มิตรรัก นักดื่ม ทั้งหลาย

- "ซูม".... -

-สารอโศก อันดับที่ ๒๘๔ มิถุนายน ๒๕๔๘ -