ใต้ร่มอโศก เข้าพรรษา '๔๘


วัฏสงสารอันยาวไกล มิใช่ปี มิใช่ศตวรรษ
แต่เป็นกับป์....เป็นอสงไขยกับป์....เป็นแสนอสงไขย
หากเรียงเม็ดทรายไปดวงจันทร์....ก็ยังน้อยนัก
ในความยาวนานหล่อหลอมการเรียนรู้....การตกผลึกความคิด
สรรพชีวิต ล้วนสู่ความฉลาด....คือทางพ้นทุกข์
หลังจากลองผิดลองถูกมากมาย
ผ่านความเจ็บปวด ผ่านความทรมาน
ผ่านมหาสมุทรแห่งน้ำตาอันเวิ้งว้าง
ไม่ได้อีกแล้ว....ไม่ได้อีกต่อไป
ปล่อยตัวไปตามสายน้ำ เหมือนปล่อยใจไปตามยถากรรม
ไม่จบไม่สิ้น....เจ็บปวด....ทุกข์ทรมาน
เจ็บปวดซ้ำซาก....ซ้ำแล้วซ้ำอีก
จำเป็นต้องเดินทางสู่แดนนิพพาน
ด้วยการบำเพ็ญความดี
ลดวัตถุ....ลดตัวตน.....
ลดบริการตน....เพิ่มบริการผู้อื่น
ทำมากขึ้นๆๆๆๆๆๆๆ



อโศกสร้างคน คนสร้างเมือง

"ข้าพเจ้าเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิต ดังต่อไปนี้
๑. โกรธยากขึ้น โมโหยากขึ้น
๒. ไม่กินเนื้อสัตว์ตลอดชีวิต
๓. ไม่เที่ยวยามวิกาล
๔. พูดน้อยลงกว่าเดิม
๕. ไม่นอนที่นอนอ่อนนุ่ม....."
วิเชียร วงศ์สถาน์ (ดอกคำใต้ พะเยา)



ขอชื่นชมคนเขียนจดหมาย
จิ้งจกขออนุโมทนาญาติธรรมทุกท่าน ที่จดหมายมาถึงกอง บ.ก.สม่ำเสมอ บางคนรายงานผลการปฏิบัติ บางคนวิจารณ์ข้อเขียนมา

ญาติธรรมจินตนา เลิศไพบูลย์ (อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา) มีวิธีเขียนที่จิ้งจกอ่านแล้วดี เข้าท่าดี

เธอวิจารณ์ทีละคอลัมน์ อ่านคอลัมน์นี้คิดอย่างไร นี้ก็เป็นวิธีเขียนที่ง่ายดี เป็นการฝึกเขียนไปในตัว

ความรู้สึก หัดเรียบเรียงออกมา ถือเป็นการฝึกสติที่ได้ผล เป็นธรรมวิจัยไปในตัว เป็นสติปัฏฐานโดยปริยาย ! จุ๊ย์ๆๆ



เป็นกำลังใจแก่คณะผู้จัดทำ
"สื่อสาระนี้มีค่ายิ่งสำหรับผมที่อยู่ห่างไกลจากหมู่กลุ่ม แต่ยามใดที่ได้รับสื่อสาระที่ส่งไปให้ และที่ได้อ่าน ทุกครั้ง เปรียบเสมือนตัวเองอยู่ใกล้พ่อท่านและหมู่กลุ่มมีความปีติ อบอุ่น สำนึกดียิ่ง กระผมขอกราบ น้อมนมัสการพ่อท่าน และหมู่กลุ่มชาวอโศกด้วยจิตคารวะ ด้วยความสำนึกดียิ่ง ขอน้อมกราบ นมัสการครับ...."

ญาติธรรมสมชาย สีโหมด (อ.เมือง จ.ลำพูน) เล่าความรู้สึกที่มีต่อหนังสือชาวอโศก

คนอื่นๆ ท่านรู้สึกอย่างไร? จุ๊ย์ๆๆ



โลกลุกเป็นไฟ จะอยู่อย่างไรดี
"แต่คิดๆจะลาออกแล้ว มันเหนื่อยและเบื่อกับคน คนเห็นแก่ตัว เราคนดีที่มีน้อยในสังคม นับวันต้อง พ่ายแพ้ตลอดไป ผมก็ไม่ทราบว่าเมื่อไรคนดีได้เติบโตในสังคม สังคมจอมปลอม ผมก็สู้จนสู้ไม่ไหว กับสังคม ชั่วๆนี้ บางครั้งก็ท้อแท้แต่ยังไม่ท้อถอย ขอทำไปอีกสัก ๒ เดือนจะลาออก...."

จดหมายของญาติธรรมธนา กิ่งชุม (อ.เมือง จ.กระบี่) คงเป็นความรู้สึก เหมือนกันกับอีกหลายคน ที่ระอา กับโลกมนุษย์ ทางออกก็คือ
๑. มาอยู่กับชาวอโศก มาช่วยงานศาสนา
๒. เอาวิกฤตมาเป็นโอกาส ถือเสียว่าได้ปฏิบัติธรรม
๓. ฝึกกินน้อย ใช้น้อย เพื่อจะได้มีโอกาสมาข้อที่ ๑

คุณธนาอย่าคิดว่าเจอคนเดียว คนอื่นๆในโลกนี้ก็ล้วนเจอกันถ้วนทั่ว

ไหนๆก็ไหนๆ เอาวิญญาณหมอชีวกฯมาใช้ก็น่าจะดี หมอชีวกฯท่านมองต้นไม้ทุกต้นล้วนทำยาได้

เราจะมองทุกเหตุการณ์ให้เกิดประโยชน์ต่อการปฏิบัติธรรม จุ๊ย์ๆๆ



สนุกกับการแก้ไขข้อบกพร่อง
จดหมายรายงานของญาติธรรมประกาศิต จันทรศร (อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา) แจ้งผลการปฏิบัติธรรมมาให้ พอย้อนกลับไปอ่าน เจ้าตัวกลับรู้สึกโอ้อวด ทำตัวรู้มาก อวดฉลาด เว่อร์ เพ้อเจ้อ อยากดัง อยากได้สรรเสริญ

".....น่าละอายที่สุด จึงขอสารภาพผิดในความโง่เขลาเบาปัญญา พร้อมกราบขออภัยมา ณ โอกาสนี้ ขอได้โปรดงดลงพิมพ์ใน "จดหมายญาติธรรม" ของสารอโศกหรือหนังสืออื่นใดทั้งสิ้น...."

สาธุ ทำสิ่งใดก็ตาม พอย้อนกลับก็มักเห็นมุมมองใหม่ที่คิดไม่ถึง ที่เข้าท่า ที่ดูดี พอย้อนกลับมาไม่ดีเลย ก็มีเยอะ

เราจะสนุกกับการแก้ไข แต่ข้อสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ "เมื่อขออภัยญาติธรรม ในความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แล้วอย่าลืม ให้อภัยตัวเองด้วย !" จุ๊ย์ๆๆ



การประชุมมิใช่เรื่องเล็ก
"ที่งานมหาปวารณา พ่อท่านได้กล่าวขอบคุณพวกเราที่ได้มาร่วมประชุม ที่นี่ก็เหมือนกัน ถ้าไม่มีพวกเรา งานศาสนาก็จะไม่เดิน ขอบคุณที่พวกเราเห็นความสำคัญของการประชุม ซึ่งเป็นอปริหานิยธรรม คือ ความไม่เสื่อม เห็นความสำคัญในความสำคัญของการประชุม ก็ขอให้รู้สึก สำนึก ฝึกตน ขวนขวาย หมายมุ่งพัฒนา....."

(ข้อคิดจากสมณะเก้าก้าว สรณีโย ในงานประชุมกลุ่มภูผาฟ้าน้ำ ครั้งที่ ๑๑/๒๕๔๖ ๑๖ พ.ย. ๒๕๔๖ ณ ศาลาชาวปี๋ พ.ส.ภูผาฟ้าน้ำ)



การบำเพ็ญบารมีพระโพธิสัตว์
เมื่อโรงเรียนมีห้องสมุดแต่ขาดหนังสือธรรมะ ญาติธรรมดวงจันทร์ ฟักเกิดผล(อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์) จึงเห็นควรเสียสละ "จึงได้ให้หนังสือดอกหญ้า และสารอโศก ไปไว้มุมธรรมะของห้องสมุด ซึ่งเมื่อให้ไปแล้ว ก็เสียดาย เพราะหนังสือทุกเล่มไม่มียับเยินเลย อ่านเล่มใหม่แล้ว ก็ย้อนไปอ่านเล่มเก่าๆอีก แต่นับจากวันนี้ ไม่มีแล้ว เพราะมอบให้โรงเรียน ไปหมด เป็นของโรงเรียนไปแล้ว ถ้าอยากอ่านต้องเข้าไปในโรงเรียน คงไม่ สะดวกเหมือน ที่บ้าน แต่บรรดาครูบาอาจารย์ทุกๆท่านก็ดีใจที่ได้หนังสือไป"

สาธุ การให้ของรักของหวงถือเป็นทานบารมียิ่งใหญ่ พระเวสสันดรท่านบริจาคลูกเมีย ท่านให้ของรัก ของหวง ศาสนิกชนที่ดีต่างน้อมมาปฏิบัติตาม ชาดกทุกชาติเป็นแนวทาง ให้เราสะสมบำเพ็ญบารมีตาม จุ๊ย์ๆๆ



เรื่องของโลกสีขาว
ตำนานจากราชธานี
เรื่องที่ ๑ ทนายรินไท เป็นผู้ใหญ่บ้านของชุมชนราชธานีจึงต้องแต่งชุดราชการเข้าประชุม แต่เป็นผู้ใหญ่บ้าน ตีนเปล่าในทุกสถานการณ์

เรื่องที่ ๒ เมื่อจะต้องเลือกตัวแทนชุมชน (มิ.ย. '๔๘) เข้าเป็นสมาชิกอบต. ก็มีแต่การเกี่ยงกัน ไม่มีใคร อยากไปยุ่งกับโลกมนุษย์ !

เพื่อตำแหน่งนี้ ข้างนอกเขาฆ่ากัน มีแต่เราที่เกี่ยงกัน จึงต้องใช้มาตรการสุดท้ายคือการโหวต ลูกบ้าน ทั้งหมดเลือกคุณ"ตายแน่"เป็นตัวแทน คราวนี้เจ้าตัวเงียบเลย เมื่อเพื่อนฝูงรุมผลัก ลงบ่อบุญ!

จิ้งจกขอเป็นกำลังใจ ความดีที่ยิ่งใหญ่คือ "การเสียสละ !" นั่นเอง จุ๊ย์ๆๆ




ละชั่ว ประพฤติดี ทำจิตใจให้แจ่มใส

"จิตสำนึกดีๆที่ได้รับการปลูกฝังจากแนวทางอโศก ทำให้ละชั่วกลัวบาปมากในปัจจุบัน....."

เป็นสิ่งได้มาของญาติธรรมทองคำ สุดตาชาติ (อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม)

อโศกเราเน้น "ละชั่ว" ค่อนข้างละเอียด จึงใช้ศีลตีรั้วล้อมกิเลส แล้วค่อยๆไล่จัดการทีละอย่าง ๒ อย่าง

ศีล ๕ ไม่พอก็ต่อศีล ๘ หากเป็นกิเลสก็คือ อบายมุข กามคุณ ๕ โลกธรรม ๘

บางคนทำทีละอย่าง บางคนทำทีละหลายๆอย่างสุดแต่ความสามารถ

การละชั่วจึงเริ่มเป็นประพฤติดีไปโดยปริยาย แต่ถ้าหากจะบำเพ็ญสูงขึ้น "ความดีเชิงรุก" ต้องศึกษา นั่นคือ บริการรับใช้คนอื่นให้มากขึ้นนั่นเอง ส่วนจิตใจให้แจ่มใส ก็คือทำจนไม่ฝืนใจ ทำได้ง่ายขึ้น จุ๊ย์ๆๆ



กายต้องเคลื่อนไหว-ใจต้องฝืน
ญาติธรรมที่บวชเป็นพระ(ท่านไม่ได้แจ้งว่าอยู่ที่ไหน) เล่าการปฏิบัติธรรมของท่านมา "อาตมา ฝึกปฏิบัติธรรม อยู่คนเดียว ไม่มีเพื่อน ไม่มีอาจารย์คอยแนะนำ เวลาเหงาท้อแท้ ก็ได้อ่าน วารสาร ดอกหญ้า สารอโศก เพื่อสร้างกำลังใจให้แก่ตนเอง เมื่อก่อนตอนที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิก หนังสือ ก็ไปขอยืมจากลุงมาอ่าน ก็ได้รับ ความรู้ ที่มุ่งสู่เป้าหมายดี เวลาญาติโยมมาเรียน ฝึกปฏิบัติธรรม ที่วัด อาตมาก็ไม่รู้จะบอกสอนญาติโยม อย่างไรดี ก็อาศัยหนังสือสารอโศก นี่เหละ ให้เขาอ่าน สุดท้ายขอให้ทีมงานสำเร็จกิจกันทุกคน...."

อยู่คนเดียวให้ระวังความคิด อยู่กับมิตรให้ระวังวาจา อันที่จริง ความคิดอย่างเดียวไม่พอ ต้องต่อ อีกเรื่อง "อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย" ทำตัวเป็นแม่บ้าน ปัดกวาดเช็ดถู ให้มีเหงื่อ แล้วผ่อนคลายตัวเอง ยิ่งอยู่วัด ยิ่งต้อง หาเรื่องออกกำลังให้มาก เพื่อจิตใจจะได้ผ่อนคลาย ใครมีประสบการณ์อื่นๆแจ้งมาเล่าสู่กันฟังบ้าง จุ๊ย์ๆๆ



ประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งแห่งการเข็นกงล้อธรรมจักร
บันทึกไว้เพื่อให้เห็นแนวทางการทำงานการบริหารจัดการของรุ่นนี้ เพื่อรุ่นหลานเหลน จะได้เอาไว้ ศึกษา

"๓.๓ คุณปีกฟ้า แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่าในการจัดงานปีใหม่ ตลาดอาหาร จะแบ่งประเภท ของอาหาร และผู้ดูแลออกเป็น ๔ ส่วน ดังนี้

สันติอโศก จะดูแลอาหารประเภทข้าวราดแกงและก๋วยเตี๋ยวผัด
ปฐมอโศก จะดูแลอาหารประเภทก๋วยเตี๋ยว
ศีรษะอโศก จะดูแลอาหารประเภทอาหารพื้นบ้านอีสาน
สีมาอโศก จะดูแลอาหารประเภทน้ำหวานและขนม
ที่ประชุมรับทราบ

๓.๔ คุณดาบบุญ แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่าทางราชธานีอโศกได้ขอทีมงานวันละ ๑๐ คน เพื่อช่วยที่แผนก ล้างจาน ซึ่งอาจจะมีเด็กนักเรียนสัมมาสิกขาจากส่วนกลางมาช่วยด้วย โดยจะมีการจัดหาพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งจะอยู่ใกล้พื้นที่ของแต่ละส่วน สำหรับใช้เป็นสถานที่ ล้างจานกลาง และจะมีการบริหารจัดการ อย่างเป็นระบบ
ที่ประชุม รับทราบ......."

(คัดมาจากรายงานการประชุมอาสาสมัครชมรมมังสวิรัติแห่งประเทศไทย สาขาหน้าสันติอโศก ครั้งที่ ๒๐/๒๕๔๗ ๑๖ ธ.ค.'๔๗)



ธุรกิจบุญนิยม
ญาติธรรมทรงชัย วิมลภัตรานนท์ เล่าเรื่องตื่นเต้นให้ฟังเมื่อน้องสาวขอซื้อปุ๋ยดินจากปฐมอโศก หลังจากทดลองใช้แล้ว
"ขอซื้อดินปุ๋ย ๑ ตันค่ะ" น้องสาว
"มารับเองนะคะ" ปฐมอโศก
"บริษัทซีพี เขายังส่งถึงที่เลยคะ แค่ไม่กี่ร้อยกิโลเขาก็ส่ง"
"ถ้าใช้เยอะ มาเรียนทำเองดีกว่า ประหยัดกว่าซื้อเยอะแยะ........"



มุมมองที่ ๒
มุมมองที่ ๑ มักไม่ค่อยมีปัญหา แต่มุมมองที่ ๒ มักจะทำให้เกิดปัญหา
ลองฟังคนอื่น เขาคิดบ้าง การฝึกใจกว้างเคารพความคิดผู้อื่น ก็เป็นเรื่องสำคัญ

จากญาติธรรมท่านหนึ่ง วิจารณ์ประเด็นการขอเปลี่ยนชื่อและนามสกุลของนายตายแน่ เชียวเขตรวิทย์ "ผมขอถามคุณต่อไปนะครับว่า อริยทรัพย์แท้ๆที่คุณตายแล้ว สามารถนำไปได้ ทุกภพทุกชาตินั้น คุณหาไว้ บำเพ็ญไว้เต็มที่หรือยัง ผมถามอารมณ์จิตแท้ๆของคุณแล้วกันว่า ตอนนี้อารมณ์จิตของคุณนิ่งหรือยัง เมื่อต้องเจอผัสสะต่างๆ เช่น รูปสวยๆ เสียงเพราะไพเราะ สัมผัสนุ่มนวล ที่เรียกว่า รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส เมื่อเจอหรืออยู่กับสิ่งเหล่านี้ อารมณ์จิต นิ่งไหม หรือเมื่อต้องเจอวาจาที่เสียดสี ทิ่มแทง ร้ายแรงรุนแรง ยั่วยวน และกลั่นแกล้ง ทิฏฐิ ของคุณยอม และนิ่งไหม และที่สำคัญ อารมณ์ โลภ โกรธ หลง เมื่อกระทบ แรงๆ จิตคุณ ผ่านหรือยัง ถ้าผ่านได้ คุณทำได้ ก็เป็นของ คุณเอง นี่คือบารมีและทรัพย์แท้ๆ แต่ถ้ายังไม่ผ่าน ทำไมไม่เน้นบำเพ็ญตรงนี้ให้มากๆ การอยากได้ชื่อโก้ๆ เท่ๆ เป็นความอยาก และเป็น ความหลง หรือไม่ จริงๆแล้วชื่อตนเองมีอยู่แล้ว อยากเปลี่ยน อยากได้ใหม่อีก เป็นความโลภ หรือไม่ ชื่อที่พ่อแม่ให้มา แม้ไม่สวย ไม่เท่ ก็ไม่เป็นไรนี่ แต่อยากได้ใหม่อีก เป็นกิเลสไหม ชื่อมีอยู่แล้ว อยากได้อีก อย่างนี้สันโดษไหม ซึ่งเมื่อเป็น อย่างนี้ คำว่าพอจะอยู่ตรงไหน พูดให้ชัดคือ คำว่า "พอ" รู้จักไหม....."



ไฟเผาขยะ ตบะเผากิเลส
ปฏิบัติธรรมไม่หัดตั้งตบะ ก็เหมือนพระไม่ใส่จีวร

คุณแก้วตะวัน มีความสุขกับการได้ตื่นมาทำวัตรเช้า อาหารกินได้ ๒ มื้อ ไม่ค่อยกินจุกจิก อารมณ์ก็ควบคุม ได้ดีขึ้น อยู่วัดมา ๙ เดือน ได้รับอานิสงส์มาก

คุณยุวดี(เพียงใบหนึ่ง) การกินอาหาร ๑-๒ มื้อ ได้ปลูกผักเพื่อทำตามนโยบายของวัด ทำวัตรเช้าเป็นประจำ ทุกวัน

คุณวิบูลย์ รับประทานอาหารมังสวิรัติได้มากขึ้น สวดมนต์ทำวัตรเช้าทุกวัน

คุณตะวันงาม ใจขุ่นตอนจะทำก๋วยจั๊บ แล้วมีคนนำเห็ดไปทิ้ง ทั้งๆที่ได้จัดเตรียมมาอย่างดี แต่พอมีการ แก้ปัญหา ก็ไม่มีอาการขุ่นมัวอีก

คุณส่องโลก ในปีที่ผ่านมาได้ต่อสู้กับการกินไข่ เพราะภรรยากลัวขาดอาหาร แต่ภายใน ๒-๓ เดือนที่ผ่านมา ไม่ได้กินไข่ นำผลการตรวจเลือดไปยืนยันให้ภรรยาดูก็เลยไม่ว่าอะไร แต่ใจ ยังอยากกิน ไข่ดาวอยู่บ้าง แต่ท่าน สมณะนาไท ท่านรณรงค์ให้เห็นโทษภัยของการกินไข่

คุณพ่อถมธรรม กลับไปบ้านก็กินนอกมื้อ ดูโทรทัศน์บ้าง อยู่วัดดีกว่าเพราะได้กินเป็นมื้อ เป็นคราว อยู่บ้าน ก็ตื่นสวดมนต์ทำวัตรเช้าอยู่เสมอ มังสวิรัติบริสุทธิ์

- จิ้งจกส์ -

คติประจำเดือนนี้
ปฏิบัติธรรมไม่หัดตั้งตบะ
ก็เหมือนพระไม่ใส่จีวร

-สารอโศก อันดับที่ ๒๘๔ มิถุนายน ๒๕๔๘ -