วิบากกรรมมีจริง

กระทาชายนายหนึ่ง มาพบกับข้าพเจ้า หลังจากสนทนากัน ทราบว่าชายคนนี้เป็นชาว อำเภอ สิชล จังหวัด นครศรีธรรมราช เขาเล่าให้ฟังว่า...

เขาได้ไปจีบสาว จนเป็นแฟนสนิทกันมาก ถึงขั้นพาไปเยี่ยมบ้าน ให้คุณพ่อคุณแม่ดูตัว ว่าที่ลูกสะใภ้ คนนี้ เนื่องจากอยู่บ้านนอกอาหารการกินไม่บริบูรณ์ ปกติกินข้าวกับน้ำพริก ผักจิ้ม แต่วันที่พาว่าที่ลูกสะใภ้ไปนั้น นับเป็นวันพิเศษ จึงต้องไปจับไก่มาเชือดทำแกงไก่ เลี้ยงแขกเหรื่อ ที่มาเยือน ตนเองเป็นผู้ไปจับไก่ เอาปีก มาขัดกันแล้วบรรจงถอนขน ที่คอ จากนั้นใช้มีดเชือดคอไก่ เอาถ้วยตราไก่มารองเลือดไก่ และคิดว่าไก่ ต้องตาย ดังใจหวัง เลยปล่อยมือ

ขณะที่ไก่หลุดมือนั้น ไก่ดิ้นสุดชีวิตที่เหลือกำลังเพียงน้อยนิด และโดนถ้วยตาไก่ ที่ใส่เลือดไก่ อยู่นั้น ทำให้ เลือดนองพื้นแดงฉาน มีทั้งลักษณะเป็นลิ่มเลือด ผู้เชือดรู้สึกสลดใจ ภาพนั้น ติดตรา ตรึงใจมาจนทุกวันนี้ ซึ่งไม่อาจลบเลือนไปจากความทรงจำได้ ระลึกถึงคราใด ก็ให้สลด สังเวช ครานั้น

เวลาผ่านไป กระทาชายคนนั้นได้แต่งงาน อยู่กินฉันสามีภรรยากับแฟนสาวคนนั้น จนตั้งครรภ์ ได้ ๖ เดือน ภรรยาเกิดอาการตกเลือด เลือดกระจายเป็นลิ่มๆ ซึ่งเป็นภาพเดียวกับที่ ตอนเชือดไก่ เมื่อหลายปีก่อน เห็นสภาพ ที่ภรรยาเกิดอาการเช่นนั้น ก็นึกถึงเหตุการณ์ ที่ตนเชือดไก่ทันที

ข้าพเจ้าฟังแล้วได้แต่ปลงสังเวช ทำให้ระลึกว่า คนเราเกิดมามีภาวะผูกพันเป็นพ่อแม่ สามี ภรรยา ต่างทำ บาปกันมาไม่น้อย วิบากกรรมย่อมซัดทอดผู้เกี่ยวข้องให้เจ็บช้ำ ระกำใจ เพราะต่างเป็นหนี้ชีวิต หนี้สังคม หรือแม้แต่เป็นหนี้ธรรมชาติ ทำให้เกิดความเบื่อหน่าย คลายกำหนัด เห็นโทษภัยในสังสารวัฏ

ฉะนั้นคนเกิดมาเวียนว่ายตายเกิดแล้วมาพบกัน หากมีเรื่องราวใดๆเกิดขึ้น ไม่ควรกล่าวโทษ หรือ เอาทุกข์ มาทับถมตน ให้ซับซ้อนเพิ่มขึ้นอีก ควรเมตตาสงสาร มีความสัมพันธ์ อันดีต่อกัน ช่วยเหลือ เกื้อกูลกัน ชักนำ ให้ประกอบแต่กรรมดี เพื่อให้วิบากกรรมลดลงได้

การไม่เบียดเบียนกันเป็นสุขในโลก

- ตาแจ้ง -
๒๘ มกราคม ๒๕๔๖

-สารอโศก อันดับที่ ๒๘๔ มิถุนายน ๒๕๔๘ -