ความมหัศจรรย์ในการปฏิบัติธรรมของอุบาสิกาใจพร้อม

๑. อุบาสิกาใจพร้อม เป็นผู้พร้อมที่จะตายอยู่ตลอดเวลา แต่กลับไม่ตายง่ายๆ ทั้งที่ปกติชีวิต เป็นคนที่ ไม่แข็งแรง มีโรคหัวใจเป็นโรคประจำตัวที่เป็นโรคเกี่ยวกับ อวัยวะสำคัญ ซึ่งพร้อม ที่จะตายได้ ตลอดเวลา ต้องเข้าห้อง ICU ปั๊มหัวใจกันอยู่บ่อยๆ แต่กลับสามารถมีชีวิตอยู่ ได้นานที่สุด เพราะความไม่กลัวตาย สามารถแยกจิตแยกกายได้เมื่อเกิดเวทนา แรงกล้า เลยอยู่มาได้นานถึง ๘๖ ปี หลายๆ ครั้งที่หัวใจ มันจะ หยุดเต้น อุบาสิกาใจพร้อม ก็ลุกขึ้น มานั่งสมาธิ คิดว่าจะฝึกท่านั่งตาย แต่พอนั่งไปนั่งไป หัวใจมันเต้นปกติ ก็กลับไปนอนต่อ แต่วาระสุดท้าย น่าเสียดายที่ต้องไปทรมาน อยู่ที่โรงพยาบาลเสียนาน เขาต้องจับไป เจาะคอ ปั๊มหัวใจ ให้ออกซิเจน ซึ่งทางวัดเราตัดสินใจผิด ถ้าปล่อยให้อยู่กับพวกเรา อยู่กันแบบ ธรรมชาติ ก็คงไม่ต้องทรมานอยู่ที่โรงพยาบาลนานเป็นเดือน น่าจะไปแบบธรรมชาติได้สบายๆ แต่ว่าเครื่องมือ ทางวิทยาศาสตร์มันเป็นเครื่องที่ทำให้คนทรมานผิดธรรมชาติจริงๆ วาระ สุดท้าย เมื่อได้กลับมา อยู่บ้านราชฯ แล้ว จึงได้ละสังขารไปอย่างธรรมชาติ ด้วยอาการ ที่สงบ

๒. เป็นนักปฏิบัติธรรมที่มีพื้นฐานของชีวิตดี มีการมองตนอยู่ตลอดเวลา ไม่เรียกร้องจากใครๆ จึงทำให้ ดูแลง่าย แม้วาระสุดท้าย ลูกพากลับมาอยู่ที่บ้าน แม้จะพูดไม่ได้ก็จะเขียนหนังสือ กำชับ กำชาเขา ไม่ต้องไปซื้อกับข้าวข้างนอก ไม่ต้องไปซื้ออาหารเจจากข้างนอก ให้ใช้อาหาร ในวัด เอาอาหารจืดๆมาก็พอ มีสติรู้ตัวทุกอย่าง แม้ตัวเองจะควบคุมอุจจาระ ปัสสาวะไม่ได้ ก็คอยขยับ พลาสติกที่รองก้นเอาไว้ จนลูกๆ ต้องคอยปรามว่า ไม่ต้องยุ่ง ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวเขา จะจัดการให้เอง คือมีสติรู้ตัวอยู่ตลอดจนทิ้งขันธ์ไป แม้ชีวิตจะต่อสู้มาอย่างหนักหนา เพราะสามี เป็นคนเจ้าชู้ แต่ก็จะคิดถึงข้อบกพร่องของตัวเอง อ่านจิต ของตัวเองตลอด จิตที่ไป ถือสาเขา จิตที่ไม่ไปพูดดีต่อเขา แม้มาอยู่วัดจะมีคนทำให้ไม่ชอบใจ ไม่พอใจ ก็จะอ่านใจ ของตัวเอง อยู่ตลอด ถ้าคิดไม่ดีต่อเขาก็จะมีการอ่านใจตัวเอง แล้วมาพิจารณาแก้ไข ข้อบกพร่อง ของตนเองอยู่เสมอ สิ่งนี้จึงเป็นพื้นฐานที่สามารถต่อยอดไปสู่การทำฌาน การอ่านจิต ในจิต การพิจารณา ธรรมในธรรม ซึ่งอุบาสิกาใจพร้อม จะเป็นคนที่มีทั้ง เจโตสมถะ ก็แข็งแรง ทั้งการอ่านตนเพ่งเผากิเลส ของตนก็มาก ชีวิตที่ผ่านมา ตอนร่างกาย แข็งแรงอยู่ ในวันสำคัญจะบำเพ็ญนั่งเนสัชชิ ไม่นอนอยู่เป็นประจำ ก็ได้เห็นว่า พลังจิต ค่อนข้างแข็งแรง และก็เป็นผู้อายุยาวที่มีเสน่ห์ ดูแลง่าย เพราะไม่คิดเรียกร้องจากใครๆ จะพยายาม คิดพึ่งตัวเองเป็นหลัก

๓. แม้จะเป็นผู้อายุยาวที่ภายหลังในการฟังธรรมจะได้ยินบ้าง ไม่ได้ยินบ้าง หลายๆอย่าง ก็ต้องเดาอยู่บ้าง แต่พลังศรัทธาทำให้สามารถจับความสำคัญ ของคำสอน ของพ่อท่าน ได้อย่างชัดเจน ไม่ลังเลไม่สงสัย แม้สังขารจะเสื่อมไปในหลายๆด้าน แต่ก็เป็นผู้ที่มีคำตอบ ได้ชัด โลกหน้าคืออะไร จะสามารถตอบได้ทันทีว่า เมื่อเราทิ้งโลกียะไปนี่แหละ นั่นก็คือ โลกหน้า ของเราแล้ว เป็นคำตอบที่ไม่ต้องคิด สิ่งนี้ได้เห็นถึงพลัง มหัศจรรย์ ของความศรัทธา เป็นนักปฏิบัติธรรม ที่ไม่มีหัวอ้ายเรือง หรือไม่มีอรูปอัตตา จึงดูดซับรับเอาของ ครูบาอาจารย์ ได้เต็มๆ เต็มร้อยไม่มีอะไรมาเป็นกำแพงขวางกั้น จึงสามารถเก็บสาระสำคัญ ประเด็นสำคัญ ของเนื้อหา ของอรรถะ ของธรรมะได้ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า คนเราต่อให้ฉลาดแค่ไหน แต่ถ้ามี ความเป็นอะไรๆ ของตัวเองแล้ว การจะได้รับของผู้อื่น หรือแม้แต่รับจาก ของครูบา อาจารย์ ก็ตาม มันก็จะรับได้ไม่เต็ม หรือ รับได้เต็มๆบางทีพอมาเป็นของตัวเอง มันก็ไม่เป็น แบบต้นฉบับแล้ว มันจะแปรเปลี่ยนเป็นของใหม่ ซึ่งไม่ใช่ ของแท้ดั้งเดิม ดังนั้น ตรงนี้ ก็จะเห็นได้ถึง ความศรัทธาที่เต็มร้อย แม้จะดูเหมือนเป็นคนไม่มีความรู้ เป็นคนที่ สังขารเสื่อม แต่หัวใจ ที่ศรัทธาเต็มร้อย ก็สามารถเก็บอะไรได้เต็มๆ ได้อย่างมหัศจรรย์จริงๆ

๔. เป็นคนที่มีจิตวิญญาณอยู่ในฐานที่เป็นอนาคาริกชน ไม่ติดยึดบ้าน เมื่อไหร่ที่ไม่สบายหนักๆ ลูกเต้า รับเอาไป ที่บ้านจะทุกข์ทรมาน อยากจะกลับมาวัดอยู่ตลอดเวลา ใจยังไงๆ ก็อยู่บ้าน อยู่ช่องไม่ได้แล้ว ใจจะผูกพันอยู่ในฐานนักบวชหรือฐานที่จะอยู่ระบบวัดเป็นหลัก แม้มาอยู่วัด ก็ไม่ติดสถานที่อะไร มาอยู่ ศีรษะอโศกพอมีการสร้างชุมชนใหม่ที่ปฐมอโศก ก็พร้อมที่จะย้าย ไปปฐมอโศก อยู่ปฐมอโศกมาเกือบ ๑๐ ปี เมื่อมีราชธานีอโศก ก็พร้อมที่จะย้ายมา ราชธานีอโศก ซึ่งเป็นความพิเศษของผู้อายุยาว ปกติผู้เฒ่า จะมีการ เคลื่อนกาย ย้ายจุด อย่างนี้ยากมาก การเปลี่ยนสถานที่เป็นเรื่องยากของคนในวัย ๗๐, ๘๐ อะไรที่เคย อยู่ได้ สบายๆแล้วนี่ จะไม่คิดเปลี่ยนที่ง่ายๆ หรือแม้แต่นักบวชเองบางทีอยู่วัด อยู่ไปนานๆ พอจะย้ายที เป็นเรื่องที่ ไม่คิดว่าจะทำได้ง่ายๆ แต่เห็นถึงจิตใจของ อุบาสิกาใจพร้อม พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ง่ายๆ ในส่วน ที่จิตที่ไม่ติดยึด ที่ไม่ติดยึดบ้าน จึงทำให้ดู เป็นคนมีบุคลิกที่แคล่วคล่องว่องไว แม้แรงใกล้จะหมด นอนซม มาเป็นเดือนๆ แต่เห็นว่า เวลาลุกก็พรึบพรับทันทีเลย ทั้งที่เหลือแต่หนังหุ้มกระดูก แต่เราก็ยังเห็นความ แคล่วคล่อง ว่องไวใน อิริยาบถของชีวิต เพราะจิตไม่ติดยึดใดๆ จึงทำให้มีลักษณะแคล่วคล่องว่องไว ถ้าจะดูลักษณะเด่นๆ เช่นนี้ เราจะดูได้จากลักษณะของพ่อท่านได้เช่นกัน พ่อท่านจะมี ลักษณะ แคล่วคล่อง ว่องไว อยู่ตลอดเวลา แม้ว่าสังขารจะ ๗๐ กว่าปีแล้วก็ตาม

๕. เป็นชีวิตที่มีความชัดเจนแจ่มแจ้งไม่รำๆเรืองๆ เป็นเนวสัญญานาสัญญา มีปฏิภาณ ไหวพริบ ที่สามารถ บอกอะไรได้โดยไม่ต้องคิด มันเป็นอัตโนมัติ พลัวะ!..พลัวะ! ออกมาทันที ซึ่งจะหานักปฏิบัติที่มีปฏิภาณ ไหวพริบ ได้คมชัดลึก แล้วก็มีการโต้ตอบได้อย่างรวดเร็วทันใจ ไหวพริบปฏิภาณดีอย่างนี้ มีไม่มากคนนัก ทั้งนี้ก็น่าจะมาจากความเป็นคน ที่ทำอะไร ทำได้ต่อเนื่อง ยาวนาน มีการบำเพ็ญมีการปฏิบัติอะไร อุบาสิกา ใจพร้อม จะทำต่อเนื่อง พอมารู้เห็นธรรมะก็มาลดละหมากพลู เลิกหวย เลิกกินเนื้อสัตว์ พวกนี้ตั้งใจทำมา ตลอด ทุกวันพระ จะนั่งเนสัชชิ ไม่นอนทั้งคืน ฟังธรรมทั้งคืน ก็ทำมาตลอด จะสมาทานอาหาร วันละมื้อ ปกติถ้าร่างกายแข็งแรง ก็ทำได้ตลอดไม่ตกหล่นอะไร จนมาถึงภาวะที่ป่วย ถึงต้องทำไป ตามสภาพร่างกาย ที่เจ็บป่วย แม้แต่การฟังธรรมเราก็จะเห็นนั่งอยู่ข้างหน้า ทำตาใสแจ๋ว นั่งตัวตรง มีดวงตาใสแจ๋วฟังธรรม มีการตอบรับ อยู่ตลอดเวลา สิ่งเหล่านี้ ก็จะเห็น เป็นคนปกติ สม่ำเสมอ ต่อเนื่องยาวนาน ด้วยเหตุที่มีการ ปฏิบัติธรรม ที่ทำอยู่เสมอๆ เป็นอาเสวนา ทำให้มันเจริญเป็นภาวนา ทำให้มากเป็นพหุลีกัมมังเช่นนี้ จึงทำให้ชีวิต มีความชัดเจน ไม่ลังเลไม่สงสัย มีปฏิภาณไหวพริบในการที่จะให้คำตอบของชีวิต ได้อย่าง น่าทึ่ง และน่าอัศจรรย์

อุบาสิกาใจพร้อมเสียชีวิตเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๔๘ ในการจากไปก็ได้สั่งเสีย กับลูกหลาน เอาไว้ว่า ต้องเอาศพมาไว้ที่ราชธานีอโศก ให้เผาที่ราชธานีอโศก ก็ต้อง ขออนุโมทนา กับลูกๆหลานๆ ที่ได้ยินยอม ทำตามคำสั่งของคุณแม่ ด้วยความเต็มใจ และ สามัคคีกันอย่างดียิ่ง

การจัดงานศพของอุบาสิกาใจพร้อมในครั้งนี้ จึงเป็นเสมือนกับการจัดงานศพของอุบาสิกา ในพุทธศาสนา ที่มีปฏิปทา มีการปฏิบัติได้อย่างเคร่งครัดน่าเลื่อมใสและน่าอนุโมทนา อย่างยิ่ง เจริญศรัทธา พาการปฏิบัติ ให้เกิดความมหัศจรรย์ได้ยิ่งนัก.

- สมณะเดินดิน ติกขวีโร -

- สารอโศก อันดับที่ ๒๘๕ กรกฎาคม ๒๕๔๘ -