- แม่น้ำ ลักขิตะ - รู้ผิดให้รีบแก้ "เรามักจะเห็นปัญหา ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องใหญ่เสียแล้ว" บ่อยครั้งเรื่องเล็กน้อยไม่สลักสำคัญ แต่พอกาลผ่านกลับกลายเป็นเรื่องใหญ่โตขึ้นได้ เฉกเดียวกับปัญหาทั่วสากล เริ่มต้นจากจุดเล็กๆแล้วขยายใหญ่ในภายหลัง เหมือนเขื่อน ที่ปรากฏรูรั่ว เพียงนิด แต่ในไม่ช้าเขื่อนใหญ่มหึมาต้องพังทลาย หากไม่ทำการแก้ไข เสียแต่เนิ่นๆ ความยุ่งยากในชีวิตเกินสุดแก้ เพราะเราเพิกเฉยต่อปัญหาเมื่อแรกเกิด ต่อเมื่อเส้นสาย แห่งปัญหา เกี่ยวพัน อีรุงตุงนัง เราถึงได้หันกลับมามอง แต่สายเสียแล้ว... อย่าเผลอตัว อย่าห่างใจ เพ่งพินิจเส้นทางชีวิตอยู่เสมอ...พบเห็นความผิดพลาดใด แม้เล็กน้อย ก็ตามที อันจะก่อมหันตภัยให้เราได้ในอนาคต รีบจัดการสางมันเสีย อย่าปล่อยให้ก่อปัญหา ยุ่งยากในภายหลัง เหมือนดับไฟจากก้านไม้ขีดซะ ก่อนที่มันจะเผาบ้านเราเป็นจุล อย่าผัดวันประกันพรุ่ง...บางคนติดนิสัยผัดผ่อน เห็นปัญหาแล้วไม่รีบแก้ เขามักจะพูดว่า "เดี๋ยวก่อนน่า ...เวลามีเหลือเฟือ...เอาไว้วันหลังก็ได้...พรุ่งนี้ค่อยแก้ไข...กังวลอะไรนัก เวลา เป็นของเรา ทำเมื่อไหรก็ได้ ....." บอกจะแก้ จะแก้ แต่ไม่ลงมือซักกะที เวลาก้าวเดินไปเรื่อยๆ พอจะลงมือจริง ปวดหัวล่ะสิ มันไม่ง่าย เสียแล้ว... รู้ผิดให้รีบแก้ จะได้จบๆกันไป ยังมีปัญหารอเราอยู่ในวันพรุ่ง ปล่อยไว้นาน จะกลายเป็น ดินพอกหางหมู ทีนี้ต้องสางกันเหนื่อยหนัก เลือดตาแทบกระเด็นเชียว อย่าผยองตนว่าข้าแน่ อหังการ์จนประมาทเลินเล่อ... มองความผิดพลาดว่าเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย ไม่อยู่ใน สายตา ปัญหาแค่เนี้ยะข้าจะสางเมื่อไหร่ย่อมได้ แล้วทำเป็นไม่แคร์ ผิดยังไง ก็ให้อยู่อย่างงั้น จากปัญหา แค่เนี้ยะ กลายเป็นเรื่องเลวร้ายเสียหายในที่สุด ต้องมาเสียใจ ในภายหลัง คนเก่งจริงไม่ทิ้งปัญหาให้พอกพูนหรอก บกพร่องอันใดเขารีบเสริมใส่ให้สมบูรณ์ รอบคอบ ดำเนินชีวิตเสมอ ไม่ประมาท และอวดตัว คนฉลาดจริงรู้จักเจียมตน แม้ผิดเล็กน้อยสำหรับเขาเห็นเป็นเรื่องใหญ่ ต้องแก้ทันทีทันใด คนโง่อวดฉลาดเท่านั้น ที่ปล่อยความ ผิดพลาด ของตนลอยนวล นานเท่าไหร่ก็โง่มากเท่านั้น หากไม่แก้ไขเลย... จัดว่า อวิชชา ครอบงำ จนดวงปัญญา บอดสนิท เป็นคนโง่เบ็ดเสร็จที่เกิดมาเสียเปล่า ขอเราอย่าเป็น เช่นนั้นเลย อย่าทำชีวิตให้วิ่งวุ่นเกินไป...โลกทุกวันนี้หมุนเร็วมากก็จริง แต่เราจะวิ่งตามโลก ให้เหนื่อยหอบ ทำไม ไยไม่เป็น ตัวของตัวเอง จะให้โลกสนตะพายชีวิตไปถึงไหน อยากร่ำรวย มีหน้าตาในสังคม อยากๆๆๆๆๆ...ความอยากไม่มีที่สุดสิ้นหรอก มันเป็นอมตะ - ในขณะที่ คนเดินทาง ไปสู่ความตาย ตายแล้วไม่เหลืออะไร แม้เถ้าธุลียังคืนสู่ปฐพี ชีวิตที่วุ่นเกินทำให้ขาดความละเอียด อาจเผินมองข้ามข้อผิดเล็กน้อยบางอย่าง แล้วปล่อยปละ ละเลย ผ่านไปนานวัน ทับถมเป็นพะเนินปัญหาใหญ่ จะแก้ไม่ง่ายเสียแล้ว ฝึกทำตัวสบายๆบ้าง ไม่ต้องเร่งเร้ารีบร้อน ทำใจให้อิสระ หาเวลาให้ชีวิตได้เป็นส่วนตัว อยู่ในห้อง คนเดียว เงียบๆ ไปเดินเล่นตามชายหาดลำพัง หรือปูเสื่อนอนใต้ร่มไม้ ข้างบ้าน ลมพัดเย็นๆ ปล่อยความคิดให้ว่างๆ เบาๆ เมื่อใจนิ่งสงบดุจน้ำใสแล้ว...ค่อยๆ ระลึกทบทวนบทบาทชีวิตที่ผ่านมา
บกพร่อง ผิดพลาด ขาดความ พอเหมาะ พอดีตรงจุดไหน ? พินิจด้วยปัญญาคัมภีรภาพ แล้วจัดการแก้ไข ให้ชีวิตสมบูรณ์ - สารอโศก อันดับที่ ๒๘๕ กรกฎาคม ๒๕๔๘ - |