พระราชดำรัส พระบรมราชินีนาถ


พระราชดำรัสสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้คณะ บุคคลต่างๆ เข้าเฝ้าถวายพระพรชัยมงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๗๓ พรรษา ณ ศาลาดุสิตาลัย พระตำหนัก จิตรลดา เมื่อเวลา ๑๗.๐๐ น. วันที่ ๑๑ สิงหาคม นี้

ข้าพเจ้าขอขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรี ที่เป็นผู้แทนของประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ กล่าวอวยพร ข้าพเจ้า และขอขอบคุณ ทุกท่าน ที่มาชุมนุมกัน ณ ที่นี้ เพื่อร่วมอวยชัยให้พรแก่ข้าพเจ้าเช่นเดียวกัน ข้าพเจ้า ยังต้องขอขอบคุณ ไปถึง ผู้ที่จัดงานบุญ งานกุศล จัดพิมพ์หนังสือ จัดรายการแสดงบำเพ็ญ สาธารณ ประโยชน์ ต่างๆ ตลอดจนผู้ที่ส่งจดหมายมาอวยพร เป็นจำนวนมาก พรที่ท่านทั้งหลาย มอบให้จะเป็นกำลังใจ ให้ข้าพเจ้าได้ทำงาน ช่วยเหลือ ประชาชนต่อไป ถึงแม้ว่าปีนี้ จะย่างเข้าปีที่ ๗๓ แล้ว ก็จะไม่ขอย่อท้อ ในการไปเยี่ยมเยียนดูแลทุกข์สุข ของประชาชน แทนพระองค์พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว

มีข่าวดีเรื่องหนึ่งก็คือ เมื่อวันที่ ๙ สิงหาคมนี้เอง ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก(WHO) ได้มามอบ รางวัล อาหาร ปลอดภัยแก่ข้าพเจ้า ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม ที่ข้าพเจ้าว่าเป็นข่าวดี มิใช่เป็นเพราะข้าพเจ้า ได้รับรางวัล แต่เพราะคงมี การเผยแพร่ข่าวไปทั่วโลก เกี่ยวกับรางวัลอาหารปลอดภัย ของประเทศไทย ซึ่งน่า จะเพิ่ม ความเชื่อถือ คุณภาพอาหารไทย ยิ่งขึ้นในสายตาของชาวโลก ข้าพเจ้าได้กล่าวต่อ ผู้อำนวยการใหญ่ องค์การอนามัยโลกไปว่า ข้าพเจ้ารับรางวัลนี้ ในนามของ ทุกๆท่าน ที่ปฏิบัติงาน ด้านอาหารปลอดภัย ในประเทศไทย จึงขอให้ผู้มาปฏิบัติงานทุกฝ่าย จงภาคภูมิใจที่ผลงาน ของท่าน เป็นที่ประจักษ์ ไปทั่วโลก และขอให้รักษามาตรฐานความปลอดภัยของอาหารไทยไว้ให้ยั่งยืนนาน เพื่อสุขภาพ ของคนไทย และ ความไว้วางใจ ของชาวโลกตลอดไป

หลังจากที่ข้าพเจ้าได้ทำงานศิลปาชีพเป็นเวลาหลายปี ได้เห็นความสามารถ ความตั้งใจอย่างแน่วแน่ ของคนไทย ไม่ว่า จะอยู่ภาคไหนก็ตาม คนไทยเราเป็นคนที่มีความสามารถ มีใจเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว มีมานะ ที่จะทำงาน เพื่อประโยชน์ของ ประเทศเป็นส่วนรวม

นอกจากนั้นยังมีข้าวชนิดต่างๆ เช่น ข้าวหอมมะลิ และข้าวสังหยด สำหรับข้าวสังหยดนี้ ข้าพเจ้าเพิ่งได้ไป พบเข้าที่ จังหวัดพัทลุงเมื่อ ๒ ปีมาแล้ว และข้าพเจ้าได้นำกลับมาที่พระตำหนักทักษิณฯ แล้วหุง พอดีกับ ท่านนายกรัฐมนตรี เมตตาไปเยี่ยมเยียนข้าพเจ้า แต่ท่านนายกฯ ก็รับประทานข้าวสังหยด ซึ่งเป็นข้าว ซ้อมมือ และ นายกฯบอกว่าข้าวนี้อร่อย ทำให้ข้าพเจ้ามีกำลังใจมาก และประชาชนทั้งหลายก็มีความภาคภูมิใจ นอกจาก ข้าวหอมมะลิ ก็ยังได้มีข้าวสังหยดสีแดงๆ มีผู้ช่วยคิด นำข้าวกล้องหลายชนิดมาผสมกัน เพื่อหุง เป็นข้าวชนิดใหม่ ที่อร่อยและมีคุณประโยชน์มากขึ้น

สำหรับเรื่องข้าวนั้นก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม และคนไทย รับประทานข้าว เป็นอาหารหลัก ข้าวไทย มีหลายชนิด ล้วนแต่อร่อยและเป็นพลังงานที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย มากกว่า พลังงาน จากอาหารประเภทแป้งชนิดอื่น อย่างเช่นโอลิมปิก เดี๋ยวนี้เขาประกาศแล้วว่า นักกีฬาทั้งหลาย ของโอลิมปิกจะต้องรับประทานข้าว เพราะข้าวเป็นอาหารแป้ง ที่ดีมากและก็ไม่อ้วน ไม่เพิ่มน้ำหนัก ดังนั้น สถาบัน ที่รัฐบาลจะจัดตั้งขึ้น เพื่อดูแลเรื่องข้าว ก็คงจะเป็นที่พึ่งที่หวังของชาวนา ได้ต่อไป ขอบคุณค่ะ

ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นแทบจะทุกภูมิภาคของประเทศไทย นั่นคือภัยแล้ง ข้าพเจ้าจำได้ว่า เคยกล่าวไว้ หลายครั้ง ถึงความสำคัญ ของน้ำว่า น้ำจืดเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตมนุษย์ ยิ่งมนุษย์เกิดมากขึ้นทุกวัน น้ำจืด ก็ยิ่งหายาก และกลายเป็น สิ่งที่ผู้คนต้องแย่งชิงกันมากขึ้น ถ้าเราไม่กำหนดแนวทางบริหาร และจัดการ น้ำดี ปัญหาเรื่องน้ำจืด ขาดแคลน ก็จะวนเวียน กลับมาทุกปี และทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ข้าพเจ้าเพิ่งได้อ่านหนังสือ พิเศษ ของทางสหรัฐอเมริกา และผู้เชี่ยวชาญ ต่างประเทศ ทั้งหลาย เขาพูดถึงว่าปีศตวรรษที่ ๒๑ นี้ เรื่องน้ำดื่ม น้ำใช้ น้ำจืดน่าจะเป็นเรื่องศตวรรษนี้ ศตวรรษที่ ๒๑ นี้ เพราะคนเกิดขึ้น มากมาย การใช้น้ำ ก็มากขึ้น ทุกที แต่ดูว่าปัญหาเรื่องน้ำนี่จะไม่ใช่เป็นปัญหาเฉพาะในบ้านเราเท่านั้น แม้แต่ต่างประเทศ ต่างก็ รวมตัวกัน และยกเรื่องนี้ เรื่องน้ำว่าเป็นปัญหาสำคัญของศตวรรษ ที่ ๒๑ ที่น่าจะช่วยกันพิจารณาค้นคว้าว่า ควรจะบริหาร ในเรื่องน้ำนี้อย่างไร จึงจะมีน้ำใช้ตลอดไป

เราไม่ทราบเลยว่าฤดูฝนแต่ละฤดูฝนจะมีฝนตกเท่าไหร่ ทั่วถึงทุกพื้นที่หรือไม่เพราะเดี๋ยวนี้ป่าของเราก็หมดสิ้น แทบจะเรียกว่า หมดสิ้นไปแล้ว เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะช่วยให้สนับสนุนให้มีน้ำนี่ก็น้อยเต็มประดา การใช้น้ำ อย่างประหยัด โดยสม่ำเสมอ จึงน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด และเมื่อต้องเผชิญขาดแคลนน้ำขึ้นมา เราจะได้ ปรับตัว ได้ง่าย ไม่ลำบากเกินไป ข้าพเจ้าขอร้อง ให้พวกเราทุกคน ช่วยกันถนอมรักษาน้ำจืด ซึ่งเป็นทรัพยากร สำคัญ ของชาติไว้ เพื่ออนาคตลูกหลานไทย ในภายภาคหน้า

โครงการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงบ้านรอตันบาตูที่จังหวัดนราธิวาสนั้น ข้าพเจ้าได้นำเงิน ที่ท่านทั้งหลาย มอบให้ข้าพเจ้า ในโอกาสอายุครบ ๗๒ ปี ไปจัดซื้อที่ดินจำนวน ๗๐๗ ไร่ ที่นราธิวาส และขอให้ทาง หน่วยทหาร ศูนย์การศึกษาพัฒนาพิกุลทอง และ ส่วนราชการต่างๆ ช่วยข้าพเจ้าจัดสร้างบ้าน ๑๕๐ หลัง เพื่อช่วยเหลือ ครอบครัวของประชาชน ข้าราชการ พลเรือน ทหาร ตำรวจ ทั้งไทยพุทธและไทยมุสลิม ที่สูญเสีย หัวหน้าครอบครัว เนื่องจากเหตุการณ์ที่เรียกว่าโดนฆ่า โดนฆ่ารายวัน ซึ่งเป็นเวลา มา ๒ ปีแล้ว ข้าพเจ้า สงสารมาก

ข้าพเจ้าจึงขอให้คณะทำงานของข้าพเจ้า ซึ่งประกอบด้วยรองสมุหราชองครักษ์แล้วก็ราชองครักษ์ต่างๆ และ ผู้เชี่ยวชาญ ที่ทำงาน ในกองราชเลขาของสมเด็จฯ ช่วยกันนั่งคิดว่าจะทำอย่างไร ก็เลยจัดสรรที่ดิน ที่ใช้เงิน ของท่าน ที่ให้ข้าพเจ้า ไปให้ครอบครัวละ ๒ ไร่ สำหรับปลูกบ้านและทำการเกษตรในครัวเรือน เช่น เขาสามารถ ปลูกผัก, เลี้ยงเป็ด, เลี้ยงไก่, เลี้ยงปลา และข้าพเจ้ายังจัดตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชนโยบาย คือ สร้างธนาคารข้าว แทนที่จะเป็น ธนาคารเงิน ก็ธนาคารข้าวไว้ให้ยืมรับประทาน ไม่ให้มีเวลาขาดแคลน หรือว่ากลัวว่าจะขาดแคลน

เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ข้าพเจ้าได้ทราบทางหนังสือพิมพ์ว่าคณะกรรมการอิสลามสากลที่เรียกว่า โอไอซี Organization of the Islamic Countries ได้เดินทางไปเยี่ยมโครงการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง เพราะ ข้าพเจ้า ไม่ได้เลือกเลยว่า จะต้องเป็น ชาวพุทธเท่านั้น ถึงจะช่วย ทั้งพุทธ ทั้งอิสลาม ถ้าแม้นได้รับ ความทุกข์ยาก ก็พร้อมที่จะช่วยเหลือเสมอ เขาบอกว่าปลื้มใจ และพอใจมาก ไปชื่นชมหมู่บ้านเศรษฐกิจ พอเพียง และยังได้ไปพูดคุยกับครอบครัวชาวมุสลิม ที่ได้รับเลือกไปอาศัย ในบ้านนั้น คณะกรรมการ อิสลามสากล กล่าวชมเชย ซึ่งข้าพเจ้าปลื้มที่สุด กล่าวชมเชยว่า ประเทศไทยเอาใจใส่ ดูแลครอบครัว ของชาวมุสลิม เป็นอย่างดี

ทีนี้จะขอพูดเรื่องโครงการฟาร์มตัวอย่างที่ภาคใต้ ที่ได้พูดไปแล้วว่าข้าพเจ้าใช้เงินที่พวกท่านทั้งหลาย มาบริจาค ให้ข้าพเจ้า เนื่องในวันเกิด ไปดำเนินการซื้อที่ดิน แล้วก็สร้างบ้าน ให้ประชาชนที่ยากจน และก็เสีย หัวหน้าครอบครัวไป

ข้าพเจ้าได้เริ่มโครงการฟาร์มตัวอย่าง แล้วรวบรวมราษฎรที่ไม่มีโอกาส ไม่มีงานทำให้มาทำงานร่วมกัน ในฟาร์ม และมี นายทหาร และราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน อาสาผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันทำหน้าที่ รักษา ความปลอดภัย ราษฎรที่ทำงาน ในฟาร์ม จะมีโอกาสได้เรียนรู้การทำเกษตรอย่างถูกหลักวิชาการ ไม่ใช้สารเคมี หรือยาฆ่าแมลง ช่วยลดต้นทุนการผลิต โดยใช้ปุ๋ยหมักชีวภาพ

อีกปัญหาก็คือ ปัญหาการขาดแคลนพระสงฆ์ในภาคใต้ เพราะว่าถึงแม้ข้าพเจ้าจะกลับมาแล้ว มาอยู่ที่ กรุงเทพมหานคร ชาว ๓ จังหวัดภาคใต้เขาบอกมาว่า ที่เป็นไทยพุทธก็ว่า เดี๋ยวนี้พระสงฆ์ในภาคใต้ ไม่สามารถ ที่จะอยู่ได้ เช่น บางรูปออกบิณฑบาต ใกล้ๆวัดนั้นเอง ก็ถูกสะเก็ดระเบิด บางรูปก็ถูกกับระเบิด ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทำให้พระสงฆ์ไม่ได้รับความปลอดภัย ก็เลย อพยพไปอยู่นอกพื้นที่จำนวนมาก เป็นวัด ร้างๆ เป็นแถวหมด ข้าพเจ้าก็กลุ้มใจ เขาขอมา เขาบอกว่า ขอให้พระราชินี ช่วยจัดพระ ลงไปอยู่ กับพวกเขา หน่อยเถอะ เพื่อขวัญกำลังใจหรืออย่างที่มีการบางอย่างเกี่ยวกับทางวัด แล้วไม่มีพระสงฆ์ เหลือเลย

ข้าพเจ้าทราบว่า ท่านอาจารย์เด่นเป็นอาจารย์ที่เรียกว่า สายท่านอาจารย์มั่นนี่เอง เป็นพระที่นับว่ายังหนุ่ม เพราะว่า ๖๖ และ ท่านปฏิบัติอยู่แต่ในป่า เป็นพระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เป็นที่รู้จักของคนทั้งหลาย ขอให้ท่าน พร้อมด้วยลูกศิษย์ของท่าน ลงไป จำพรรษาที่จังหวัดนราธิวาส น้องสาวข้าพเจ้าก็เอะอะใหญ่ บอก พี่หริ ขืนพี่หริ เอาพระดีๆไป เดี๋ยวก็ถูกฆ่าตายหมดล่ะ พี่หริ อย่าทำอย่างนั้นนะ พวกหวงพระก็บ่นว่าฉันใหญ่ ฉันบอกว่า เปล่าหรอก นี่ท่านอาสาเอง และทางทหารอะไรก็จะช่วยดูแล ไม่ใช่เอาพระ ไปให้เขาฆ่าฟันเล่น หรอก

และก็ยังได้รับความเมตตาจากพระสุนทรธรรมธาดา รองเจ้าคณะจังหวัดหนองคาย ท่านอาสาไปเอง ซึ่งท่าน มีอายุถึง ๗๓ ปี เท่าข้าพเจ้า ก็เลยบอกท่านอาสาที่จะไป และยังอาสา นำคณะพระสงฆ์ ไปจำพรรษา อยู่ที่จังหวัดนราธิวาสด้วย ข่าวนี้ทำให้ ประชาชน ชาวพุทธมีขวัญและกำลังใจดีขึ้น จะสังเกตได้จาก วันอาสาฬหบูชา ในปีนี้ ประชาชนมีการเวียนเทียนกันตามวัด มากขึ้น มีความสุขมากเลย เพื่ออำนวย ความสะดวก ถ้าวันใดพระสงฆ์ไม่สามารถออกบิณฑบาตได้ ข้าพเจ้า ก็ขอให้ราษฎร และ ทหารที่รักษา ความปลอดภัย มาช่วยกันทำอาหารถวายพระ ช่วยให้ราษฎรอุ่นใจมาก

ข้าพเจ้าคิดว่าความทุกข์อันใหญ่หลวงของชนในชาตินั้น เป็นเรื่องสำคัญที่พวกเราจะต้องร่วมมือร่วมใจกัน ให้พร้อมเพรียง ทุกฝ่าย ไม่ใช่แต่ข้าพเจ้าวิ่งอยู่คนเดียว หรือทางรัฐบาลวิ่งอยู่ลำพังนั้นไม่ได้ อยากให้คนไทย ทั้งชาติ ร่วมมือร่วมใจกัน ทั้ง สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ก็เป็นในผืนธงชาติไทย เมื่อพระเจ้า โดนฆ่าฟัน เป็นจำนวนไม่ใช่น้อย ข้าพเจ้าก็พูด ได้พูด พยายามตะเกียกตะกาย ออกมาพูดว่า ทุกคน ไม่น่า จะนั่งเฉยๆ ถึงแม้เราอยู่ไกลถึงกรุงเทพฯก็ไม่ควรนั่งเฉย อย่างน้อย ออกมา แสดงความไม่พอใจ ประณาม หรืออะไรก็ตาม

คนไทยทั้งชาติไม่ว่าจะอยู่ภาคใดก็ตามของประเทศ ควรแสดงความเห็นอกเห็นใจ ความห่วงใยอาทร ต่อพี่น้อง คนไทย ร่วมชาติ ซึ่งเขากำลังมีความทุกข์อย่างเหลือล้นออกมาให้ประจักษ์ แสดงออกมาเลย เพราะ การนิ่งเฉยเ หมือนชินชาต่อข่าว ที่พี่น้องทางใต้ที่ถูกฆ่าตายไปทุกๆวันนั้น ข้าพเจ้าว่าผิด แล้วต่อไป จะกลายเป็น ภัยต่อบ้าน ต่อเมือง

ขอร้องสมาคมทั้งหลายให้รวมพลังกันประณามการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมนี้ ให้ผู้ที่มีจิตใจอำมหิตรู้ว่า คนไทย ทั้งประเทศ จะไม่มีวันยอมที่จะนั่งเฉย ยอมให้เขาเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์โดยไม่มีสาเหตุ สมควรที่จะละอายแก่ใจ และ เลิกยุติ การกระทำ ดังกล่าวนี่ เสียที น่าจะเลิกได้แล้วนานพอแล้ว

ข้าพเจ้าเคยพูดเสมอว่า ในแผ่นดินไทยทุกคนมีอิสระเสรีในการเลือกนับถือศาสนา เพราะพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็น อัครศาสนูปถัมภกของทุกศาสนา เมืองไทยไม่เคยมีเลยการรังเกียจ เดียดฉันท์ ซึ่งกันและกัน ไม่เคยมีการแตกแยก แบ่งฝ่ายกัน ทุกศาสนาสามารถปฏิบัติศาสนกิจของตนได้ อย่างสมบูรณ์ ดั่งเช่นที่คุณหญิงแสงดาว สยามวาลา ประธาน มูลนิธิ ช่วยเหลือเด็กกำพร้าของสตรีไทยมุสลิม แห่งประเทศไทย เธอได้กล่าวในรายการโทรทัศน์เมื่อวันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๔๘ ว่าท่านเอง ท่านสามารถ ปฏิบัติศาสนกิจ ของชาวมุสลิมได้อย่างสมบูรณ์พร้อมภายในประเทศ ซึ่งเป็นประเทศ แห่งพระพุทธศาสนา ข้าพเจ้าฟังแล้วชื่นใจยิ่ง และรู้สึกมีความนับถือ คุณหญิงแสงดาว สยามวาลา ว่าท่านเป็นคนกล้า และเป็นคน ที่รักชาติ พยายามอย่างยิ่งที่จะเตือนให้ทุกคนทราบว่า ประเทศนี้แต่ไหนแต่ไรมา การเลือกนับถือศาสนา ทุกคน มีอิสระเสรี ที่จะเลือกนับถือศาสนา ปฏิบัติศาสนกิจของตนอย่างเต็มที่ เพราะที่คุณหญิงแสงดาว สยามวาลา พูดออกมานี่ เป็นการยืนยัน ให้โลกรู้ว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ ทุกเชื้อชาติ ศาสนา สามารถ อยู่ร่วมกันได้ อย่างร่มเย็นเป็นสุขอันนี้สำคัญ

คนไทยควรระลึกเสมอว่าการที่เรารักษาแผ่นดินไทยให้อยู่รอดปลอดภัยมาได้ นับแต่โบราณกาล จนบัดนี้ เป็นประเทศที่ ปึกแผ่นมั่นคง ในปัจจุบัน แม้ชาวต่างประเทศก็ยังกล่าวว่า ประเทศไทยมีอิสรภาพมาโดยตลอด เพราะคนทั้งชาติ มีความมุ่งมั่น และร่วมจิตร่วมใจกันทะนุบำรุงแผ่นดินไทย จนเป็นแผ่นดินทอง ของพระบวร พุทธศาสนา และทุกศาสนา ในประเทศ

ข้าพเจ้าปรารถนาที่จะเห็นคนไทยทุกคนมีความภาคภูมิใจในความเป็นพลเมืองของประเทศนี้ และอยาก ได้เห็น ความรัก หวงแหน แผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์แห่งนี้ และแต่ละคนตั้งจิตปรารถนาที่จะเอื้ออาทร และมีเมตตา ต่อกัน หากเป็นเช่น ที่กล่าวได้ ประเทศของเราก็จะเป็นดินแดน ที่น่าอยู่อาศัยที่สุด แห่งหนึ่ง ของโลก

ขอให้ผู้ที่ตั้งใจทำมาหากินและปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตจงประสบแต่ความสำเร็จ ความสวัสดี ขอให้มี ความสงบสุข และรอยยิ้ม ที่แจ่มใสกลับคืนมาเป็นของคนไทยทั้งชาติตลอดไป
(จาก น.ส.พ.ไทยโพสต์ ศุกร์ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๔๘ หน้า ๔)



*** แด่พระแม่มิ่งขวัญเมือง
ธ คือพระแม่แม้น มิ่งขวัญ ไทยเฮย
ทรงยศคู่ ราชันย์ เทอดให้
ทรงกอปรกิจอเนกอนันต์ ไทยรุ่ง เรืองแฮ
สละทรัพย์พระองค์ให้ ราษฎร์ล้วน สราญรมย์
ทรงดำเนินทั่วด้าว แดนไทย
ขอบเขต นิเวศน์ไกล ทั่วหล้า
ด้วยมุ่งมั่นพระทัย บำบัด ทุกข์เฮย
ดุจหยดน้ำจากฟ้า สู่พื้นปฐพี
บรมีพระมากพ้น รำพัน
บำราศทุกข์มลายพลัน ห่างเศร้า
ดั่งหัตถ์ทิพย์จากสวรรค์ ปกแผ่
ไทยราษฎร์ร่วมน้อมเกล้า กราบเบื้องยุคล

- ศูนย์ฝึกเมฆาอโศก อ.เป็นต้น นาประโคน -

- สารอโศก อันนดับ ๒๘๖ สิงหาคม ๒๕๔๘ -