จากโลกีย์ถึงโลกุตระ
ปี พ.ศ.๒๕๒๔ คุณแม่แนะนำมาร่วมงานกองทัพธรรม ไปที่วิทยาลัยครูอุบลฯ ประทับใจการรวมตัว เป็นหมู่กลุ่ม ที่เหนียวแน่น และธรรมะที่เป็นสัจจธรรมของชาวโศก จากนั้นถือศีล ๕ ลดละอบายมุขทุกชนิด กินอาหารมังสวิรัติ ตั้งแต่ ปี ๒๕๒๗ และ ร่วมกิจกรรมของกลุ่มอุบลอโศกทุกเดือน เป็นผู้รับใช้กลุ่ม ปรับอาชีพ ให้สุจริตมากขึ้น ทั้งเสียสละวัตถุทรัพย์บ้าง ตามเทศกาล งานสำคัญๆ ของชาวอโศก จนเกิดศรัทธาเพิ่มขึ้น จึงตัดสินใจ ขออนุญาตทางครอบครัวเข้ามาอยู่วัด เดือนกรกฎาคม ปี ๒๕๓๑ ณ พุทธสถานศีรษะอโศก ต.กระแชง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เมื่ออยู่กับชาวอโศก ช่วงที่อยู่ศีรษะอโศก ทำงานค้าขายที่ร้านน้ำใจ ผู้รับใช้โรงครัว ทำงานกสิกรรมไร้สารพิษ (สวนซำตาโตง) ดูแลผู้อายุยาว(อโรคยาศาลา) แล้วย้ายมาอยู่ราชธานีอโศก ปลายปี ๒๕๓๖ เป็นผู้รับใช้ อุทยานบุญนิยมรุ่นแรก เป็นประธาน เครือแห กสิกรรมไร้สารพิษราชธานีอโศก(ดูแลการตลาด) เป็นผู้ประสาน งานภายในศูนย์ฝึกอบรมราชธานีอโศก และติดตาม ประเมินผลโครงการ ส.ส.ส. เป็นพี่เลี้ยงงานอบรม และ ฐานสาธิตการทำแชมพู น้ำยาซักผ้า น้ำยาล้างจาน # ปัญหาและอุปสรรคในการทำงาน ถ้าเอาความคิดตัวเองเป็นหลัก อุปสรรคจะมีแน่ แต่ถ้าเอาความคิดหมู่ เป็นหลัก อุปสรรค ก็จะลดลง ก็มีปัญหาบ้าง เพราะเราเองลดกิเลสไม่ทัน (เราก็แก้ด้วยการปรึกษาสมณะ สิกขมาตุให้มากขึ้น) # แนวทางแก้ไข ลดกิเลสตัวเราด้วย ปรึกษาสมณะ สิกขมาตุ ให้มากขึ้น ทำงานตามมติที่ประชุม # ข้อปฏิบัติทิ่คิดว่ายากที่สุด ศีลข้อที่ ๖ การกินยังไม่มื้อเดียว ไม่ได้ต่อเนื่องเท่าที่ควร # คติประจำใจ เศษเสี้ยวของความคิด
ปลิดชีวิตติดบ่วงจม # ข้อคิดข้อฝากให้หมู่กลุ่ม อยากให้พี่น้องชาวอโศกที่ยังทิ้งโลกียะไม่ได้ ให้รีบเร่งเข้ามาอยู่วัดเร็วๆด้วย คนอยู่วัด รอบจัดมาก กำลังรอพี่น้องอยู่ทุกวินาทีค่ะ -สารอโศก อันดับ ๒๔๗ กันยายน ๒๕๔๘ - |