- แม่น้ำ ลักขิตะ -


สำนึกดีอยู่เสมอ ๆ
"สามัญสำนึก เป็นกฎข้อเดียวที่อยู่คู่โลกนิรันดร์"

ตัวบทกฎหมายปัจจุบันมากมายเหลือเกิน มากจนคนชอบแหกกฎนั่นแหละ และนับวันจะบัญญัติเพิ่มขึ้น ไม่มีสุดสิ้น กระนั้น คนทำตามกฎอย่างเคร่งครัดนับน้อยลงทุกวัน

กฎเกณฑ์ใดก็ไม่เป็นผล หากคนจะเลี่ยงไม่ทำซะอย่าง

คนเราหากขาดสามัญสำนึกเสียแล้ว กฎเหล็กปานใดเอาไม่อยู่หรอก....แหกออกจนได้สักวันแหละ

กฎเกณฑ์สังคมจะปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ไม่แน่นอนตายตัว แต่จะมีการผกผันกับค่าจริยธรรม ของสังคม นั้นๆ จริยธรรม ของสังคมตกต่ำมาก กฎเกณฑ์สังคมนั้นๆจะมากตาม แต่หากจริยธรรมของสังคม สูงขึ้น กฎเกณฑ์ ต่างๆ จะลดน้อยลง

ไม่ว่าจะเป็นโลกนี้ หรือโลกไหนๆก็ตามที ไม่มีกฎใดศักดิ์สิทธิ์เท่ากับ "สามัญสำนึก"

เพราะสำนึกของทุกคนเป็นสากลทั่วโลกว่า...การละชั่ว ทำดี นั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง หากคนมีสามัญสำนึก เสียแล้ว กฎเกณฑ์ใดๆ ไม่จำเป็นต้องมี สังคมก็สงบสุขได้ และดียิ่งกว่าเสียอีก

ดังที่มีเรื่องราวเล่ามาจากอดีต...ความว่า

ย้อนเวลาอันไกลโพ้น...ดังมีบันทึกไว้ในพระไตรปิฎก สมัยนั้นคนอยู่กันอย่างสันติสุข ไม่มีกฎหมาย ไม่มีตำรวจ ไม่มีศาล การลงโทษใดๆไม่มี เพราะทุกคนยึดมั่นในศีลธรรม ความชั่วเลวใดๆ ไม่ปรากฏบนแผ่นดินนี้เลย สำนึกดีมีอยู่ในใจของทุกคน

อาหารพืชผักผลไม้อุดมสมบูรณ์ เกิดเองไม่ต้องปลูก แม้ข้าวสาลียามนั้นเม็ดโตมาก ต้นข้าวขึ้นอยู่ตามป่าทั่วไป ใครต้องการ ก็ไปเก็บ มาหุงกินวันต่อวัน เหมือนไปเด็ดยอดผักป่าปานนั้น แล้วข้าวสาลีจะงอกขึ้นมาใหม่ ให้เก็บกิน ตลอดไป โดยไม่ต้อง เพาะปลูกทำนา

กาลต่อมามีคนคนหนึ่ง เกิดความคิดขึ้นว่า เราควรเก็บข้าวสาลีเผื่อไว้กินสองวัน พรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องมาเก็บอีก แล้วเขาก็ทำ เช่นว่า....คนอื่นเห็นเข้าจึงเอาตามอย่าง และเริ่มลุกลามขยายผลมากขึ้นเรื่อยๆ จากกักตุนข้าว เป็นวัน เพิ่มมาเป็นเดือน เป็นปี

ข้าวสาลีถูกเก็บเกี่ยวไปหมดป่า งอกเงยไม่ทันจึงหมดไป...คนต้องมาเริ่มไถนาปลูกข้าวจากบัดนั้น

การจับจองที่ดินทำกินเริ่มมีมา ศีลธรรมคนเสื่อมถอยมาโดยลำดับ เกิดการแย่งที่ มีการขโมยข้าวกันขึ้น ความชั่วเลวทราม ปรากฏบนแผ่นดิน สำนึกดีในใจคนลดน้อยถอยลง

เมื่อมีคนทำผิดมากมาย จึงต้องหาใครสักคนมาดูแลจุดนี้ ชายคนหนึ่งถูกอุปโลกน์ให้เป็นกษัตริย์ คอยจับ คนร้าย ออกกฎหมาย ควบคุมคนไม่ดี ตัดสินคดีต่างๆ

นับแต่วันนั้นเป็นต้นมา กฎระเบียบมากมายได้ปรากฏขึ้นบนแผ่นดิน สามัญสำนึกของคนเสื่อมถอยไป ตามกาล กฎต่างๆ ยังจะเปลี่ยนตามยุคสมัย แต่กฎสามัญสำนึกเท่านั้นอยู่ชั่วนิรันดร์

โลกปัจจุบันแก้ปัญหาด้วยการตรากฎบังคับใช้เป็นการแก้แต่เพียงเปลือกๆ ปัญหาจึงก่อเกิดไม่มีวันสุดสิ้น เพราะแก่นแท้ แห่งปัญหาอยู่ที่คนขาดสามัญสำนึก หากเรากอบกู้ศีลธรรม กลับคืน ปลูกฝังคน ในสังคม ให้มีจิตสำนึก เมื่อนั้นกฎจะไม่จำเป็นอีกต่อไป แต่คนในสังคม อยู่ร่วมกันได้ ด้วยสามัญสำนึก

สามัญสำนึกเท่านั้น จัดสังคมให้เป็นระเบียบเรียบร้อยได้ดีที่สุด

-สารอโศก อันดับ ๒๔๗ กันยายน ๒๕๔๘ -