เอาแต่ใจตัว คือ ชั่วโดยอัตโนมัติ
จะดีได้ต้องหัดให้ หัดเห็นใจคนอื่นเสมอ

- สมณะโพธิรักษ์ -

แถลง
นักปฏิบัติธรรมประเภทไหนที่หาแผ่นดินอยู่ให้ไม่ได้ ?

ไม่น่าเชื่อว่าในโลกนี้จะมีคนประเภทที่ "รู้ชั่วรู้ดีไปทุกอย่าง - แต่ก็พร้อมที่จะเอาแต่ใจตัวเองเสียอย่าง"

เมื่อสมณะเตือนว่า ถ้ามาอยู่วัดก็ต้องเชื่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เขาก็มีข้อโต้แย้งว่า ถ้าพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อยู่ในตัวเราแล้ว แล้วเราจะต้องฟังใครอีกไหม ! เพราะทุกวันนี้การที่เขาต้องไปเที่ยวฟังใครๆ ทำให้เขาปฏิบัติตัวไม่ถูก เวลาเขานิ่งไม่พูด คนก็ว่าเขาบ้า แต่เวลาเขาพูดขึ้นมา คนก็ว่าเขาบ้าอีก ซึ่งจริงๆแล้วเขารู้สึกว่า พวกที่ว่าเขานั่นแหละ บ้า

พากันหย่อนยานนั่งดูหนังดูละครกัน เขาเลยต้องจับเก้าอี้มาฟาดลงกลางศาลา เพื่อเตือนสติไม่ให้พากันบ้า เชื่อไหมว่าคนมากด้วยเหตุผล(เหตุผลคือความบ้า)ประเภทนี้เมื่อส่งไปโรงพยาบาลบ้าก็ดี ไปโรงพักก็ดี หรือส่งกลับไปบ้านเดิมก็ดี บางทีเขากลับมาถึงวัดก่อนคนไปส่งเสียอีก ทั้งตำรวจและหมอบางทีก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับคนฉลาดรอบจัดแบบนี้ และสถานที่ที่เขาชอบอยู่มากที่สุดก็คือวัด เพราะสามารถทำตามอำเภอใจได้สบาย

พ่อท่านจึงให้โศลกในงานมหาปวารณาปีนี้ไว้อย่างสำคัญว่า "เอาแต่ใจตัวคือชั่วโดยอัตโนมัติ จะดีได้ต้องหัดให้หัดเห็นใจคนอื่นเสมอ"

คนบ้าคือคนที่รู้ตัวดีทุกอย่าง แต่หักห้ามการทำตามใจตัวไม่ได้ ถ้าบ้ามากๆ เข้าระดับหลุดโลก ก็จะถึงขั้นอยากจะทำอะไรก็ได้โดยไม่ต้องคิดคำนึงถึงใครๆ

และคนบ้าที่ชอบมาอยู่วัดก็มักจะสะสมตัวเพ่งโทษถือสามากกว่ามาถือศีล อีกทั้งจะมีเหตุผลมากมายในการรับรองปกป้องข้อบกพร่องของตัวเอง และพร้อมที่จะตอบโต้สวนกลับ ทั้งวาจาภายนอกและอาฆาตพยาบาทภายใน จนสุดท้ายก็ไม่มีใครกล้าแตะ

ทั้งหมดนี้ คือ ที่มาของนักปฏิบัติธรรมที่ได้พัฒนาตนจนถึงขั้นหาแผ่นดินอยู่ให้ไม่ได้

- คณะผู้จัดทำ -

- สารอโศก อันดับที่ ๒๘๘ ตุลาคม ๒๕๔๘ -