หลักการดูหนังดูละครที่พุทธสถานสันติอโศก

ชื่อเรื่อง มหาภารตยุทธ
ชื่อคนดู ไหม (ฝากพร)


๑. เกิดอาริยญาณ (เห็นทุกข์)
* เห็นทุกข์อะไรบ้างจากหนังเรื่องนี้
การยึดติดในอัตตา ๓ ที่ไม่ยอมปล่อยวาง ทำให้ใจเราทุกข์หนักหนา ถ้าเราไม่มาเรียนรู้ธรรมะ จะไม่เข้าใจเลยว่า สิ่งนั้นเป็นเหตุ ที่ก่อทุกข์ภัย ให้แก่เรามากมาย

การมีชีวิตในทางโลกอย่างในหนังเรื่องนี้ ได้เห็นการมีครอบครัว การใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน น้อยนักที่แต่ละครอบครัวนั้น จะมีชีวิต อยู่สงบผาสุก ไม่มีปัญหา เจอข่าวคราวในสังคมแม้แต่เครือญาติทางโลกใกล้ตัวเรา มีการทะเลาะเบาะแว้งไม่เข้าใจกัน เพราะการต้องการ เพียงแค่วัตถุภายนอกคือทรัพย์สมบัติ ทำให้อยู่ร่วมกันด้วยจิตใจไม่สงบสุข ไม่มีความสามัคคีปรองดอง

* แล้วสาเหตุของทุกข์นั้นมาจากอะไร
กิเลสเข้าครอบงำจิตใจเรา ทำให้เราตาบอด หลงผิด มีอวิชชา โมหะ โดยไม่รู้ตัว ความริษยา พยาบาท อาฆาต นำมาซึ่ง ความทุกข์ร้อน แก่ตนเองและคนรอบข้าง ทั้งหน้าตา แววตาบ่งบอกถึงไฟกำลังสุมทรวงเขาอยู่ อัตตามานะที่ยอมไม่ได้ มีศักดิ์ศรี มีอำนาจ ไม่ต้องการเสียสละให้ใครครอบครอง ไม่ต้องการเห็นผู้อื่นดีกว่าตนเอง เราไม่เข้าใจสัจธรรมความจริงว่า สิ่งที่ตน ต้องการมาครอบครองนั้น ไม่อาจอยู่ยั่งยืนจีรังไปกับเราได้แน่นอน


๒. ทำการปฏิบัติ (สู้กับผัสสะ)

* ดูฉากรัก, ริษยา, รุนแรง, เศร้า ฯลฯ มีวิธีทำจิตทำใจพิจารณาสู้กับกิเลสนั้นๆอย่างไร
๑.) ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์จริงๆ พอรักไม่สมหวังก็ทำให้เกิดแรงพยาบาท แก้แค้นกับคนที่ทำให้ตนผิดหวัง ทุกข์กับการพลัดพราก จากคนรัก

๒.) ผู้หญิงมีความริษยามองดูน่าเกลียด แต่เห็นผู้ชายมีจิตริษยาร้ายแรงกว่าผู้หญิง เพราะเขามีความรุนแรง มีกำลังทำลาย ยิ่งกว่า

๓.) จะมีอารมณ์ไปกับหนังตอนเขาเล่นการพนันจนเสียทุกสิ่งทุกอย่าง ทำไมไม่ห้ามพากันนิ่งเฉย นึกถึงเมื่อก่อนตอนเป็นเด็ก ดิฉันก็ติดการพนัน รู้สึกเข้าใจถึงอารมณ์ของการสูญเสีย ถ้าผีพนันเข้าสิงในจิต ทำให้ออกยาก หนังเรื่องนี้ ถ้าคนมีปัญญา ดูแล้วจะไม่ไปเล่นหรอก การพนัน เพราะมีแต่ความหายนะ นำมาสู่ตน มีเล่ห์เหลี่ยมคดโกงในวงการพนัน


๓. อัดพลังกุศล (ซาบซึ้งในคุณงามความดี)

* ประทับใจความดีหรือแง่คิดดีๆอะไรบ้าง
การเสียสละของตัวละครหลายคน มีใจเป็นธรรมไม่ยอมเข้าข้างคนทำผิด การอบรมเลี้ยงดูลูกๆให้เป็นคนดี กตัญญูต่อ ผู้มีพระคุณ อภัยให้แก่กัน พยายามช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อย่าพยายามทำความแตกแยกในหมู่พี่น้อง มีความอดทนอดกลั้น แม้ตนเอง จะเจ็บปวด เป็นมิตรแท้ที่ดีต่อกัน ยามเพื่อนทุกข์ เดือดร้อน ก็ไม่ทิ้ง เสียสละแม้แต่ลูกตนเองให้กับเพื่อน เพื่อช่วยเหลือ ชีวิตลูกเพื่อนไว้ ยอมเสียชีวิตแต่ไม่ขอผิดสัจจะ ประทับใจความใจเย็นของพระกฤษณะ เขาไม่แสดง อารมณ์ร้อน ให้เห็นบ่อย สงบนิ่ง พยายามใช้ปัญญาเพื่อแก้ไขปัญหา และประทับใจตอนที่เขาคุยกับลูกภีมะที่เป็นยักษ์ ยอมที่ จะให้โอกาสผู้ที่มีอายุน้อยกว่าร่วมแสดงความคิด (ซึ่งเป็นการไม่ให้เราดูถูกว่า คนที่มีอายุน้อยกว่าเรา ปัญญาจะไม่มี) ดูตอน กันณะ คุยกับแม่กุณตี ถึงการที่เขาจะเลือกทางที่ให้จิตวิญญาณเขา นึกถึงพ่อท่านที่เป็นผู้ให้กำเนิดทางจิตวิญญาณเรา แต่เสียดายที่ กันณะ ได้จิตวิญญาณที่ไม่ดี (ฝ่ายทุรโยค)

* มีสำนวนดีๆหรือคำคมอะไรไว้จดจำ
เมล็ดพันธุ์ที่ไม่ดีถ้าอยู่รวมในที่ใด ที่นั่นก็จะเกิดเมล็ดพันธุ์ไม่ดีด้วย (เปรียบกับคนไม่ดี) ในความมืดก็ยังพอมีแสงสว่าง ก่อนจะพูด จะทำอะไร ควรคิดให้รอบคอบก่อน อย่าหลงเชื่อคนที่จะพาเราไปสู่ความพินาศ ผู้หญิงเป็นผู้ให้เกิด และเป็นผู้ ทำลายล้าง การตั้งสัจจะโดยไม่มีสติอาจทำร้ายตนเอง ผู้ใหญ่ถ้าเห็นผู้น้อยทำผิดโดยไม่บอกกล่าวตักเตือน ความสูญเสีย ปัญหา จะเกิดขึ้นตามมา ยอมที่จะสงบเงียบไว้ก่อน เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องร้ายแรงยิ่งกว่านั้น เราเกิดความกลัว เพราะเรากำลัง ขังความคิดตนเอง คนรักกับคนสำคัญ ระหว่าง ๒ คน ควรเลือกคนที่สำคัญก่อน ภาพที่เรามองเห็นนั้นอาจจะเป็นแค่กลลวง พ่อตาบอด ลูกก็ตาบอดเหมือนกัน พี่น้องไม่ควรแตกความสามัคคีกัน ในสมรภูมิคือสนามรบ ไม่มีข้อยกเว้น แม้แต่กับ ญาติพี่น้อง สงครามไม่เกิดผลดี มีแต่จะนำความเศร้าโศกเกิดขึ้น ธรรมะย่อมชนะอธรรม


๔. ฝึกฝนโลกวิทู เพิ่มพหูสูต (รู้เท่าทันโลกกว้าง)
* ได้เรียนรู้โลกรู้สังคมตรงไหนบ้าง
ในโลกสังคม เราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวเท่านั้น ควรมีปัญญาในการเลือกคบมิตรที่ดี(บัณฑิต) ที่จะนำพาชักจูงแนะนำเรา ไปใน สิ่งที่ดีๆ

เรื่องนี้มีเทวดาสมมติมาก ยศถา-บรรดาศักดิ์ เกียรติยศเงินทอง ชื่อเสียง ตำแหน่ง หน้าตา มีเพียบในทางโลก ถ้าสังคม มีผู้นำ ผู้ปกครอง ที่ไม่มีความเป็นธรรม ไม่เข้มแข็ง ไม่มีปัญญา ตัดสินโดยลำเอียง ก็จะทำให้ผู้คนขาดศรัทธานับถือ และคนดี เมื่อเห็นคนดีแล้วไม่ช่วยเหลือ กลับไปเข้าข้างฝ่ายไม่ดี แล้วบางทีก็พากันหลบหนีไม่ขอยุ่ง สังคมประเทศนั้น ก็จะพินาศ ล่มสลาย อยู่กันไม่สงบสุข เหมือนในยุคสังคมปัจจุบันนี้

- สารอโศก อันดับที่ ๒๘๘ ตุลาคม ๒๕๔๘ -