- แม่น้ำ ลักขิตะ - ยอมรับผิดแล้วแก้ไข ความผิดพลาดไม่ใช่สิ่งชั่วร้าย เราแก้ไขได้ เราทุกคนล้วนเคยผิดพลาดด้วยกันทั้งนั้น จะมากจะนัอยนั้นเป็นเรื่องปลีกย่อยของแต่ละคน จะมองหาคนดีบริสุทธิ์ โดยส่วนเดียวบนโลกนี้ไม่มีหรอก อย่างน้อยช่วงชีวิตหนึ่ง ต้องมีแน่ที่ประพฤติผิด หากบรรลุธรรม ในวันแรกคลอด ก็ว่าไปอย่าง แต่จากที่ศึกษามาไม่เคยมีนะ...แม้พระอรหันต์เองก็เถอะกระทำผิดพลาดได้เหมือนกัน เพียงไม่มี อกุศลจิตร่วมด้วยเท่านั้น เพราะสิบเท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง ไม่แปลกอันใดเลยหากเราจะผิดพลาดบ้างสักคน แม้มหาบุรุษอย่างพระพุทธเจ้าก็เถอะ ก่อนบรรลุสัมมาสัมโพธิญาณ ยังหลงทางทรมานสังขารหลายปี เข้าป่าเป็นฤาษีชีไพร ไปโน่น บำเพ็ญทุกข์สาหัสสากรรจ์ กว่าจะวกกลับสู่ทางสัมมาในภายหลัง ล่วงเวลาสูญเปล่า ๖ ปี หากมองในแง่ร้าย เราจะรู้สึกห่อเหี่ยวเมื่อกระทำผิด ข้าพเจ้าคิดว่า ประเด็นสำคัญที่เราพึงให้ความสนใจมิได้อยู่ที่ความผิด หากอยู่ที่การแก้ไข.... ผิดแล้วแก้หรือว่า ผิดแล้ว ปล่อยเลยตามเลย ไม่มีเก็บมาพิจารณาข้อบกพร่องผิดพลาดแต่ประการใด การเพิกเฉยเช่นนี้ เป็นสิ่งเลวร้ายยิ่งกว่ากระทำผิดเสียอีก เพราะความผิดจะเกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก ...ตกผลึกเป็นสันดาน ฝังลึก ลงจิตวิญญาณในที่สุด พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า "ผู้เห็นผิดว่าเป็นผิด
ยอมรับแต่โดยดี บอกกล่าวแก้ทำคืน บัณฑิตย่อมสรรเสริญ" เพราะสำนึกทำให้คนรู้จักยั้งคิด เพราะยั้งคิดจึงสามารถแยกแยะดี-ชั่ว เพราะรู้ดีรู้ชั่วจึงได้ชื่อว่าเป็นคน หากละชั่วทำดีได้ จึงเข้าถึงซึ่งอาริยชน และหากหลุดพ้นการยึดดียึดชั่วหมดอัตตาตนได้ ก็เป็นอรหันต์ สำหรับคนไม่มีสำนึก คิดเองแล้วกันว่าจะเป็นอะไร?..... - สารอโศก อันดับที่ ๒๘๘ ตุลาคม ๒๕๔๘ - |