พระบรมราโชวาท เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆเข้าเฝ้าฯถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาส วันเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๔๘ ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา เมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๔๘ เวลา ๑๖.๐๐ น.

ขอบใจนายกรัฐมนตรีที่ได้กล่าวอวยพรในโอกาสที่จะถึงวันเกิดในวันพรุ่งนี้ ซึ่งก็เข้าใจ จะทำให้ทุกคนในที่นี้ และนอกที่นี้ มีกำลังใจ ว่านายกฯ พูดดี ฯลฯ

ชมนายกฯ ว่าพูดดี เพราะถือว่านายกฯ พูดดี เพราะมาชมเรา เป็นของธรรมดาที่ทุกคนชอบให้เขาชม เขาไม่ชอบให้ติ ข้าพเจ้าเอง ก็ได้ติคนอยู่เรื่อยๆ เขาก็ไม่พอใจกัน แม้จะไม่ติคน บางทีเขาไปประกาศในหนังสือพิมพ์ว่า พระเจ้าอยู่หัว ติคนโน้น คนนี้ แท้จริงไม่เคยติใครเท่าไหร่ บอกว่าเท่าไหร่ เพราะว่าอาจจะติ แต่ไม่ได้พูดออกมาอย่างโจ่งแจ้งว่าติ ฯลฯ

แต่ว่าวันนี้ตั้งใจจะพูดอะไรที่ไม่พาดพิงใครเลย ไม่ติเตียนใครเลย เพราะว่าการติเตียนใคร พาดพิงใครก็เกิดเคือง เกิดไม่สบายใจ แต่ที่เห็นอยู่ข้างหน้านี่ มีคนที่พูดก็คงรู้ว่าใครพูด มีคนที่พูดว่าข้าพเจ้าไม่ดี คือพระเจ้าอยู่หัวไม่ดี ทำอะไรผิด แต่เขาต้องแสดงออกมาว่า พระเจ้าอยู่หัวไม่ผิด ผิดไม่ได้ ซึ่งเป็นตามความจริงในระบอบประชาธิปไตย ในระบอบรัฐธรรมนูญ ที่มีพระมหากษัตริย์ เป็นประมุข พระเจ้าอยู่หัวผิดไม่ได้ เขาพูดอย่างนั้น The King can do no wrong เหมือนท่านองคมนตรี ชอบพูดว่า ต้องอ้างภาษาอังกฤษ แต่ว่าเวลา The King บอกว่า The King can do no wrong ก็เป็นสิ่งที่ wrong แล้ว ที่ผิดแล้ว ไม่ควรพูดอย่างนั้น

ความจริงเวลาอ่านตำรากฎหมายรัฐธรรมนูญของอังกฤษ มีตำราที่คนเขาอ้างอยู่เสมอ และคนที่เรียนภาษาอังกฤษ เรียนกฎหมาย อังกฤษก็ต้องอ้างกันเสมอ ในเรื่อง The King can do no wrong นี้ แล้วก็นักกฎหมายแถวนี้พยักหน้าว่าใช่ ความจริง The King can do no wrong นี้ เป็นการดูถูก The King อย่างมาก เพราะว่า The King ทำไมจะ do wrong ไม่ได้ เพราะว่าแสดงให้เห็นว่า เขาถือว่า The King ไม่ใช่คน แต่ว่า The King ทำ wrong ได้ แต่ข้อสำคัญที่สุด ข้าพเจ้าเป็น The King แล้วก็เขาบอกว่า do no wrong does no wrong เราก็เห็นด้วยกับเค้า เพราะว่าการทำอะไรกับคนเราถือว่าต้องมีสติ หมายความว่ารู้ว่ากำลังทำอะไร รู้กำลังคิดอะไร แล้วไม่ปล่อยให้มันผิดออกมา มันก็ไม่ผิด ผิดไม่ได้ อันนี้ก็เป็นการพูดว่า ข้าพเจ้าเอง ไม่ผิด ไม่มีวันผิด ถ้าสมมติว่าพูดผิดเพราะไม่รู้ก็อย่าง แต่ว่าผิดโดยรู้ รู้ว่าผิด แต่การทำผิดโดยรู้ๆ ไม่ดี แต่บางที ไม่รู้เพราะว่าไม่มี ก็ขอโทษนะถ้าพูดไม่มีสติ ขาดสติ คือ ไม่ระวังตัว ทีหลังก็เสียใจ เมื่อก่อนนี้ก่อนที่เป็นพระเจ้าแผ่นดิน ก่อนที่จะเป็น King ก็เสียใจหลายครั้ง แต่ตอนที่เป็นพระเจ้าแผ่นดิน แล้วเป็น King แบบไทยๆนี่ ซึ่งฝรั่งเขาบอกว่าเป็น The King เข้าใจว่าน้อยครั้ง ที่จะได้ทำผิด เพราะว่าระวัง ถ้าไม่ระวังป่านนี้ก็คงตายแล้ว มันต้องระวัง ถ้าไม่ระวังก็ตาย นี่เป็นเรื่อง ของธรรมชาติที่เรียกว่าการเมือง หรือการที่อยู่ในสายตาของคน สายตาของคนนี่มันฆ่าได้ ถ้าเราไม่ระวัง เราตาย ก็เลย ถึงบอกได้ว่า ทำไมการที่บอกว่า The King can do no wrong เพราะต้อง do no wrong ถ้าทำ wrong ตาย

ทุกคนก็มีฐานะอย่างนี้ ไม่ใช่ว่า The King เก่ง แต่ทุกคนก็มีส่วนที่เป็นที่เก่ง เพราะมีตำแหน่ง รับตำแหน่งที่สูง ได้รับ เหรียญตรา แล้วคนก็ชี้คนคนนี้สูงมาก มียศศักดิ์ The King เป็นยศศักดิ์สูง แต่คนที่อยู่ในที่นี้ ยศศักดิ์ทั้งนั้น ไม่ระวังตัว ก็ตายเหมือนกัน ถ้าไม่ระวัง ไม่ใช่คนที่นึกว่า โอ้คนนั้นเขาต้องตายแน่ เพราะว่าไม่ระวัง ทุกคนตั้งแต่แถวแรกนี่ จนถึง แถวสุดท้ายโน่น จนกระทั่งหลังแถว จนกระทั่งข้างนอก ทุกคนถ้าไม่ระวังก็มีอันตราย ฉะนั้น ที่พูดนี่แปลกๆหน่อย ไม่ค่อยได้ จะหาว่าแช่ง แต่ที่จริงไม่แช่ง สงสาร เพราะว่าถ้าไม่ระวังเมืองไทยตาย ฉะนั้นก็ต้องขอร้องอย่างเดียวว่า

มาวันนี้ให้ระวัง ระวัง ระมัดระวัง ที่คิด ที่พูด ที่ทำ ถ้านึกว่าทำถูกต้องก็ทำ เรื่องที่มี และเขาก็บอกในหนังสือพิมพ์ ในวิทยุ โทรทัศน์ บอกว่าที่ THE KING ทำอะไร เขาไม่วิจารณ์ และเขาบอกอย่าวิจารณ์ ที่จริงอยากให้วิจารณ์ เพราะว่าเราทำอะไร ก็ต้องรู้ว่าเขาเห็นดีหรือไม่ดี ถ้าไม่พูด ก็หาว่าทำดีแล้ว แต่แท้จริงที่พูดที่ออกข่าว ให้สัมภาษณ์ บอกว่าอย่าไปวิจารณ์ THE KING ตอนนี้ต้องบอกว่าอย่าไปวิจารณ์พระเจ้าอยู่หัว เพราะว่าไม่ควร ในรัฐธรรมนูญก็มีอยู่ว่า ละเมิดมิได้ นักกฎหมาย ก็พยักหน้าอีกแล้วว่า ถูกต้องว่าไม่ควรจะวิจารณ์ วิจารณ์ไม่ได้ ละเมิดไม่ได้ แต่ว่าถ้าพูดว่าพระเจ้าอยู่หัวทำถูก พูดถูก ไม่ใช่ละเมิด ถ้าพูดภาษาอังกฤษก็เป็นการ Approve Approve พระเจ้าอยู่หัวเห็นชอบด้วย แต่ไม่เคยมีใครมาบอกเห็นชอบ ว่าพระเจ้าอยู่หัวพูดดี พูดถูก แต่ว่าความจริงก็จะต้องวิจารณ์บ้างเหมือนกัน แล้วก็ไม่กลัว ถ้าใครมาวิจารณ์ว่าทำไม่ดีตรงนั้น ตรงนั้นจะได้รู้ เพราะว่าถ้าบอกว่าพระเจ้าอยู่หัวไปวิจารณ์ท่านไม่ได้ ก็หมายความว่าพระเจ้าอยู่หัวไม่เป็นคน ไม่วิจารณ์ เราก็กลัวเหมือนกัน ถ้าบอกไม่วิจารณ์ แปลว่าพระเจ้าอยู่หัวไม่ดี รู้ได้อย่างไร ถ้าเขาบอกว่าไม่วิจารณ์พระเจ้าอยู่หัว เพราะ พระเจ้าอยู่หัวดีมาก ไม่ใช่อย่างนั้น บางคนอยู่ในสมองว่า พระเจ้าอยู่หัวพูดชอบกล พูดประหลาด ขอเปิดเผยว่า วิจารณ์ ตัวเองได้ ว่าบางทีอาจจะผิด แต่ให้รู้ว่าผิด ถ้าเขาบอกว่าวิจารณ์พระเจ้าอยู่หัวว่าผิด งั้นขอทราบว่าผิดตรงไหน ถ้าไม่ทราบ เดือดร้อน

ฉะนั้น ที่บอกว่าการวิจารณ์ เรียกว่าละเมิดพระมหากษัตริย์ ให้ละเมิดได้ แต่ถ้าเขาละเมิดผิด เขาก็ถูกประชาชนบ้อม คือ ขอให้รู้ว่าเขาวิจารณ์อย่างไร ถ้าเขาวิจารณ์ถูกก็ไม่ว่า แต่ถ้าวิจารณ์ผิด ไม่ดี แต่เมื่อบอกไม่ให้วิจารณ์ ละเมิดไม่ได้ เพราะ รัฐธรรมนูญว่ายังงั้น ลงท้าย พระมหากษัตริย์ก็เลยลำบาก แย่ อยู่ในฐานะลำบาก เพราะแสดงให้เห็นว่า ถ้าไม่ให้วิจารณ์ ก็หมายความว่า พระเจ้าอยู่หัวนี้ก็ต้องวิจารณ์ ต้องละเมิด แล้วไม่ให้ละเมิดพระเจ้าอยู่หัวเสีย พระเจ้าอยู่หัวเป็นคนไม่ดี ซึ่งถ้าคนไทยด้วยกัน ก็ หนึ่งไม่กล้า สองเอ็นดูพระเจ้าอยู่หัว ไม่อยากละเมิด แต่มีฝ่ายชาวต่างประเทศ มีบ่อยๆ ละเมิด พระเจ้าอยู่หัว ละเมิด THE KING แล้วเขาก็หัวเราะเยาะว่า THE KING นี้ THE KING ของไทยแลนด์ THE KING ของยู พวกคนไทยทั้งหลาย เป็นคนแย่ ละเมิดไม่ได้ ในที่สุดถ้าละเมิดไม่ได้ก็เป็นคนเสีย เป็นคนที่เสีย ฉะนั้น ก็บางโอกาส ก็ขอให้ ละเมิด จะได้รู้กันว่าใครดี ใครไม่ดี ฯลฯ

ฝรั่งเขาบอกว่าในเมืองไทยนี่ พระมหากษัตริย์ถูกด่า เข้าคุก ที่จริงควรจะเข้าคุก แต่ว่าเพราะฝรั่งบอกอย่างนั้น ก็ไม่ให้เข้า ไม่มีใครกล้าเอาคนที่ด่าพระมหากษัตริย์เข้าคุก เพราะพระมหากษัตริย์เดือดร้อน เขาหาว่าพระมหากษัตริย์เป็นคนที่ไม่ดี อย่างน้อยๆที่สุดก็เป็นคนที่จั๊กจี้ จั๊กจี้ ใครมาว่าอะไรสักนิดก็บอกให้เข้าคุก ที่จริงพระมหากษัตริย์ไม่เคยบอกให้เข้าคุก ตั้งแต่ สมัยรัชกาลก่อนๆเป็นกบฏ ก็ยังไม่จับใส่คุก ยังไม่ลงโทษ รัชกาลที่ ๖ ท่านไม่ลงโทษ ไม่ได้ลงโทษผู้ที่เป็นกบฏ มาจนกระทั่ง ถึงต่อมารัชกาลที่ ๙ ใครเป็นกบฏ ซึ่งก็ไม่เคยมี แท้ๆที่จริงก็ทำแบบเดียว ไม่ให้เข้าคุก ให้ปล่อย หรือถ้าเข้าคุกแล้วก็ให้ปล่อย ถ้าไม่เข้าคุกก็ไม่ฟ้อง เพราะว่าเดือดร้อน ผู้ที่ถูกด่าเป็นคนที่เดือดร้อน คนที่ละเมิดพระมหากษัตริย์ แล้วถูกทำโทษ ไม่ใช่คนนั้น เดือดร้อน พระมหากษัตริย์เดือดร้อน และนี่ก็แปลก นักกฎหมายก็ชอบให้ฟ้อง ให้จับเข้าคุก

อันนี้ นักกฎหมายก็สอนนายกฯ ว่าต้องฟ้อง ต้องลงโทษ ก็ขอสอนนายกฯว่า ใครบอกว่าให้ลงโทษ อย่าลงโทษเขา ลงโทษไม่ดี ลงท้ายไม่ใช่นายกฯเดือดร้อน แต่เป็นพระมหากษัตริย์เดือดร้อน อาจจะอยากให้พระมหากษัตริย์เดือดร้อนไหมนั้น ไม่รู้นะ เขาทำผิด เขาด่าพระมหากษัตริย์ เพื่อที่จะให้พระมหากษัตริย์เดือดร้อน เราเดือดร้อนจริงๆ เพราะว่าใครมาด่า เราชอบไหม ไม่ชอบ แต่ว่าถ้านายกฯเกิดให้ลงโทษ แย่เลย เพราะนักกฎหมายต่างๆก็จะให้ลงโทษคนที่ด่าพระมหากษัตริย์ ทำไปทำมา เลยต้องเอาว่าเขาด่านายกฯ ถ้าด่านายกฯ นายกฯเดือดร้อนไหม ไม่ควรจะเดือดร้อน แต่ถ้าด่านายกฯ พระมหากษัตริย์ ก็ไม่เดือดร้อน เพราะว่าเป็นเรื่องของนายกฯ แต่ถ้าเขาด่าพระมหากษัตริย์ นายกฯเดือดร้อน เพราะว่าต้องเป็นคนจัดการ เรื่องมันยุ่งอย่างนี้ กฎหมายก็สอนนายกฯมาอย่างนั้น สอนนายกฯว่า ใครมาด่าเรา เราต้องด่ากลับ มันไม่ดี นี่พูดชักจะไม่ดี เพราะว่าชักจะเป็นส่วนตัว แต่ว่าเราเองก็ไม่ขอบอกว่า ควรจะทำอะไร ควรจะรู้ นักกฎหมายต้องรู้ว่าทำอะไรถูก อะไรผิด ฯลฯ

นี่มาพูดถึงไฟฟ้าและพลังงานไฟฟ้าและพลังงานนี้ การไฟฟ้าต้องใช้พลังงาน เพราะว่าค่าปั่นไฟฟ้าต้องใช้พลังงาน เพื่อให้มี พลังงานไฟฟ้า อันนี้ก็ทำมานานแล้ว เวลาขาดแคลนเชื้อเพลิงก็บอกว่าให้ปิดโทรทัศน์ ให้ปิดไฟแล้วบอกว่าได้ผลดี ความจริง เปิดโทรทัศน์ไม่เป็นไร ถ้าน้ำมันเชื้อเพลิงหมดแล้ว ก็ยังใช้เชื้อเพลิงอย่างอื่นได้ มี แต่ต้องประหยัด ต้องหาวิธีที่จะทำให้ เชื้อเพลิง เกิดขึ้นมาใหม่ เชื้อเพลิงที่เรียกว่าน้ำมันเชื้อเพลิงจะหมดภายในไม่กี่ปี หรือไม่กี่สิบปีก็หมด ถ้าว่าไป ๔๐ ปีหมด เราก็จะอายุ ๑๑๘ ๑๑๘ นี่เรายังมีชีวิตอยู่อีก ๒ ปี ๒ ปีนั้นน่ะ เราก็จะใช้ก๊าซโซฮอล์ หรือไม่ใช้ก๊าซโซฮอล์ ก๊าซโซฮอล์นี่ก็ไม่มี เพราะก๊าซโซฮอล์ ใส่แอลกอฮอล์เพียงประมาณ ๑๐% ในระหว่างที่จะถึงอายุ ๑๑๘ หาวิธีได้แล้วที่จะทำ

ที่จริงเมื่อ ๒ ปีก็ทำ ทำไบโอดีเซล โดยใช้น้ำมันปาล์ม ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่เพียงน้ำมันปาลม์ ๑๐ เปอร์เซ็นต์ นายกฯก็ได้เห็น รถแล่นมาใช้น้ำมันปาล์ม ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ เรายืนอยู่ที่รถคันหนึ่ง เสร็จแล้วก็มีรถอีกคันหนึ่งถอยหลังมา ติดเครื่อง ได้ยินเสียง บึ่งๆๆ มา นั่นอะไร รถดีเซล รถใช้น้ำมันดีเซล ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ น้ำมันปาล์ม นายกฯก็บอกว่าหอมดี เราก็ถาม หอมดี แล้วไม่เดือดร้อน เพราะว่านายกฯ ไม่ต้องกลัวเป็นแคนเซอร์ เพราะว่านี่ไม่เป็นมะเร็ง เราทำแล้วก็หมายความว่า เราไม่เดือดร้อน เมื่อเราอายุ ๑๑๘ ถ้าอย่างไรเราก็ใช้น้ำมันปาล์มของเราเองคนอื่นอาจจะไม่ได้ คนอื่นอาจจะไม่มี แต่ว่าเรามี เพราะเราขวนขวายหาวิธีที่จะทำเชื้อเพลิงทดแทนได้ ถ้าไม่ได้ทำเชื้อเพลิงทดแทน เราก็เดือดร้อน เราก็เป็นห่วง แต่เราไม่ต้อง เป็นห่วง ถ้าคนอื่นเขาไม่ทำ เขาอาจจะไม่มีน้ำมันไบโอดีเซลใช้ แต่ว่าเรามี เราคือข้าพเจ้าทำเอง คนอื่นอาจจะไม่มีก็ไม่เป็นไร ก็เห็นแก่ตัว แต่ละคนถ้าเห็นแก่ตัวก็รู้ว่าไม่เป็นไร เพราะแต่ละคนก็ต้องพยายามที่จะหาพลังงานทดแทนทั้งนั้น ฯลฯ

โดยเฉพาะสำหรับประเทศไทย มีคนที่มีความคิดดีๆคนหนึ่ง ก็ข้าพเจ้าที่มีความคิดดีๆ และนายกฯอีกคนหนึ่ง มีความคิดดีๆ ไม่จนมุม ฉะนั้น สองคนไม่เดือดร้อน คนอื่นเขาก็ต้องไม่เดือดร้อน เขาก็ต้องหาทางออกได้ เพราะว่าถ้าเดือดร้อน ก็ต้อง ไปดูโครงการพระราชดำริ โครงการพระราชดำรินี่เปิดเผยให้ทุกคนดูได้ทั้งนั้น แล้วถ้าปฏิบัติตามโครงการพระราชดำริ และ ทำอย่างเศรษฐกิจพอเพียง ตอนนี้นายกฯ ก็เศรษฐกิจพอเพียง ไม่จ่ายเงินแล้ว ใช้แต่เศรษฐกิจพอเพียง เพราะว่ามีโฆษณา คู่สมรส ของคณะรัฐมนตรี ก็ชำนิชำนาญในเศรษฐกิจพอเพียง เก่งมาก นี่ก็อีกคนหนึ่งที่ทำได้ ก็เลยไม่ต้องเป็นห่วง ไม่ทราบว่า คู่สมรสขององคมนตรี จะทำเศรษฐกิจพอเพียงหรือเปล่า สงสัยว่าไม่ทำ แต่อย่างไรก็ตาม ก็เปิดให้ความกว้างขวาง ของเศรษฐกิจ จะดีขึ้น ท่านรองนายกฯทั้งหลายก็อาจจะไม่ทำ เพราะเคยชินกับเศรษฐกิจที่ต้องใช้เงินมาก ไม่ใช่เศรษฐกิจ พอเพียง ไม่พอเพียง เพราะฉะนั้น นายกฯ และคุณหญิง อาจจะให้เพื่อนนายกฯ รองนายกฯ ต่างๆ ทำเศรษฐกิจพอเพียง สักนิดหน่อย ก็จะทำให้อีก ๔๐ ปี ประเทศชาติไปได้ นี่ก็มีแต่นายกฯ รองนายกฯ จัดการ รวมทั้งคู่สมรสทำเศรษฐกิจพอเพียง ก็เชื่อว่าประเทศจะมีความประหยัดได้เยอะเหมือนกัน คือถ้าไม่ประหยัด ประเทศไปไม่ได้ คนอื่นไม่ประหยัด สำหรับคณะ รองนายกรัฐมนตรี ประหยัดจะทำให้ไปได้ดีขึ้นเยอะ

เหลียวมามองสภาฯบ้าง เป็นยังไง สภาฯด้วยเหมือนกัน ถ้าอยากทำ เพราะสภาฯเป็นอาจารย์ของนายกฯ นายกฯ สอนครูหน่อย สอนอาจารย์ว่าเศรษฐกิจพอเพียงทำอย่างไร สอนครูคนเดียวก็พอแล้ว เพราะว่าครูจะไปสอนคนอื่น ฯลฯ

ทุกอย่างที่นายกฯพูดเมื่อครู่นี้ นายกฯพูดว่า พระเจ้าอยู่หัวพูดอะไร ทำอะไร ถูกต้อง ชื่นชมว่าพระเจ้าอยู่หัว ทำให้ ประเทศ ชาติอยู่ได้ เช่นเดียวกับ แก้มลิง เมื่อครั้งก่อนที่พูดถึงแก้มลิง คนก็หัวเราะ เดี๋ยวนี้ไม่หัวเราะแล้ว เพราะว่าลิง ก็ต้องมีแก้ม ถ้าลิงไม่มีแก้มเขาอยู่ไม่ได้ คนเราก็ต้องมีแก้ม เป็นแก้มคน แต่แก้มคนก็เป็นแก้มลิงได้ คือหมายความว่า ต้องระวัง รักษาอะไร ที่เข้าไปก็เก็บไว้ได้ เป็นการประหยัด จะพูดอะไรก็เก็บไว้ในแก้มก็ได้ ก็ประหยัด คือแก้มลิง เป็นการประหยัด และโครงการ อะไรอื่นๆ ที่พูด อย่างฝายแม้ว ฝายนายกฯ หรือเปล่า ฝายนายกฯ นายกฯไปดูฝายแม้ว นี่ฝายเรานี่ เราทำ ฝายแม้ว เดี๋ยวนี้ ซาบซึ้งหรือเปล่าว่ามีประโยชน์อะไร คือมีประโยชน์ทำให้ไม่มีน้ำท่วม หรือไม่มีน้ำแล้ง ตอนนี้น้ำท่วมเชียงใหม่ นายกฯ เดือดร้อนมาก โกรธมาก ทำไมมีฝายแม้วรองรับ ทำไมน้ำยังท่วม ก็เพราะฝายแม้วทำไม่ถูกต้อง ทำไม่ดี และปล่อยน้ำ ลงมาผิดทาง ที่จริงที่ไปดูที่กุยบุรี ไปขยายเขื่อนที่กุยบุรี ที่ยางชุมนั่น เคราะห์ดีไปทำ และโครงการพระราชดำรินี้ ถ้าทำตาม ที่กรมชลประทานเขาจะทำ ป่านนี้ก็ยังไม่เสร็จ และถ้าไม่เสร็จน้ำท่วมแล้ว

ปีนี้ที่น้ำไม่ท่วมกุยบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ก็ท่วมบ้าง แต่ว่าไม่ท่วมมาถึงหัวหิน เพราะว่าเขื่อนกุยบุรี แล้วเขื่อนกุยบุรี ทำไมขยายได้ ขยายให้เก็บน้ำได้ ๙ ล้านลูกบาศก์เมตร เพราะว่าเดี๋ยวนี้เรามีโครงการพระราชดำริ เราบอกทำเลย อธิบดีชลประทาน ทำยังไง จะต้องของบประมาณ งบประมาณไม่มีก็มีโครงการพระราชดำริก็เลยทำทันที แทนที่จะใช้เวลา ๓ ปี เป็นว่าใช้เวลาเพียง ๒ ปี ทำงานได้ ที่เราไปดูนั่นน่ะ ทำงานได้จริงๆ เพราะว่า ถ้าไม่มี น้ำ ๙ ล้านลูกบาศก์เมตร มาเต็มแล้ว แต่ว่าน้ำก็ล้นมาปกติ ตามจำนวนที่ปกติ เลยทำให้ น้ำไม่ท่วม ถ้า ๙ ล้านลูกบาศก์เมตร ฝนมันลงฟู่ๆ มีหวังท่วม ท่วมทั้งด้านบน ทั้งด้านล่าง ท่วมแล้ว น้ำนี่ก็ทำลาย ฉะนั้น ก็ถ้าเราทำโครงการที่ใช้งานได้เร็ว ประหยัดการท่วมของพื้นดิน ประหยัดทรัพย์ ความจริง ที่ใช้เงินตอนนั้น ใช้เงินร้อยล้านกว่าๆ เดี๋ยวนี้ก็กลับคืนมาแล้ว ถ้าไม่ได้ทำ น้ำที่มาท่วมก็ทำลายร้อยล้าน เงินร้อยล้าน สำหรับ คนที่พยักหน้านี่นะ เขาไม่ร้อยล้านไม่ใช่อะไรต้องพันล้าน หมื่นล้าน แสนล้าน แต่ร้อยล้านนี่ชาวบ้านเขารู้สึก ก็หมายความว่า ร้อยล้าน ที่เอาจากโครงการพระราชดำริ กลับคืนมาแล้ว แล้วกลับคืนมาที่ไหน ก็ที่ประชาชน ประชาชนเขาได้ คือ ถ้าไม่ได้ ใช้เงินนี้ ปีหน้าจะต้องใช้ ๒๐๐ ล้าน เพราะว่าถ้าไม่ใช้เงินทันที เงินมีอยู่ คนก็บอกบางทีเขาบอกไม่มีเงิน แต่เงินอันนี้มีอยู่ เพราะว่า ในงบประมาณมี ถ้าไม่มีก็หมายความว่างบประมาณทำไม่ถูก แต่อันนี้ร้อยล้านใช้ไป ใช้ดีแล้ว ใช้ถูกต้อง ไม่เสียหาย ทำให้ประชาชน ได้กำไร ถ้าไม่ได้ใช้ไป ก็ไม่รู้ใครใส่กระเป๋าไปได้ แต่ว่าประชาชนไม่ได้ ฯลฯ

อันนี้รู้สึกใครๆ เขาก็คงง่วงแล้ว เดี๋ยวนี้ชักมืดเร็ว ถ้าง่วง ง่วงเดี๋ยวไปนอนได้ ก็รู้สึกว่าสมควรแก่เวลา ก็ขอขอบใจ ที่ท่าน มาให้พร ให้พรนี่ดี เพราะว่าถ้าไม่ให้พร ก็ไม่รู้ว่าเราทำอะไร ถ้ามาให้พร เราก็มีกำลังใจที่จะทำ ทำงานอะไรต่างๆ แล้วก็ต้อง ให้พรกันทุกฝ่าย ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านก็ให้กำลังใจ ทำอะไรก็ทำ ทำได้ดี แต่วันนี้ไม่พูดว่าให้ทำอะไร เพราะว่าให้ทะเลาะ กันนี่ไม่เอา ไม่ให้ทะเลาะ ให้ทำอะไรที่ดูจะดี แล้วคิดให้อย่าเกิน อย่าเลยเถิด แต่ว่าถ้าแต่ละคนทำงานให้เหมาะสม บ้านเมือง จะไปได้ ถึงว่าจะต้องให้พรให้บ้านเมืองไปได้ ให้แต่ละคนไปได้ ไม่ใช่ให้มีการหัวชนฝา จะทำอะไรๆ ก็ขอให้แต่ละคน มีความสำเร็จพอสมควร เศรษฐกิจพอเพียง คือ ถ้าไม่พอเพียง มันไปไม่ได้ แต่ถ้าทำพอเพียง สามารถที่จะนำพา ประเทศ ให้ไปได้ดี ก็ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จ ในความสำเร็จพอเพียง และเพื่อให้บ้านเมืองบรรลุความสำเร็จที่แท้จริง คนที่ รับพรก็รับไป คนที่ไม่รับพรก็คิดในใจ ขอขอบใจที่ท่านทั้งหลายมาให้พร เรารับพรของท่าน
(บางตอนจากน.ส.พ.ไทยโพสต์ ๕ ธ.ค. ๒๕๔๘)

- สารอโศก ฉบับที่ ๒๘๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ -