บรรลุธรรมด้วยการเขียน (ภาคที่ ๒) (ตอนที่ ๒)

อานิสงส์แห่งการเขียนบันทึก

หากท่านผู้อ่านจะย้อนไปดูสารอโศกฉบับโรเนียวว่าด้วยเรื่องหัวข้อนี้อีกครั้ง ก็จะเป็นการดีมิใช่น้อย เพราะได้สาธยายเหตุผล และความจำเป็นไว้มากมาย

ข้าพเจ้าขอตกผลึกอีกครั้ง โดยไม่ย้อนทบทวนอ่าน เพื่อคัดแต่แก่นเนื้อให้มากขึ้นอีก

๑. เป็นอาวุธชนิดใหม่ในการต่อสู้กับกิเลส ในสมัยก่อนเราไม่มีตัวอักษรใช้กันแพร่หลาย การเจริญฌาณ การฝึกธรรมวิจัย การฝึกสติปัฏฐาน จึงเป็นได้แค่ "มโนกรรม"

"การเขียน" จึงเป็นความเข้มข้นที่มากขึ้นอีกหลายเท่า จาก"อรูป" สู่ "รูป" จาก"มโน" สู่ "กายกรรม"

ในยุคโลกาภิวัตน์ สิ่งที่ช่วยให้การปฏิบัติธรรมมีพลังมากขึ้น เป็นนวัตกรรมใหม่ เป็น Brother son Sister moon ก็คือ "การเขียนบันทึก" กับ "การฟังเท็ป"

เท็ปก็คือ พระอานนท์สมัยใหม่นั่นเอง ที่มีพลังความจำเป็นเลิศ และ "การเขียนบันทึก" ก็คือ "ธรรมวิจัย" อันทรงพลัง!

๒. เป็นระบบ Two in One หมายความว่า ทำเรื่องเดียว แต่จะได้หลายๆอย่างไปพร้อมกัน
เรามีกาแฟซองสำเร็จรูป(Three in one)
เรามีบะหมี่สำเร็จรูป(เนื้อ-เครื่องปรุงรส)
เรามีศูนย์การค้าใหญ่โต เพราะขายทุกอย่างจึงไปรอด
เรามีเกษตรผสมผสาน(ไร่-นา-สวน)
เรามีหน่วยงานราชการหลายแห่ง ที่เติมความเข้มข้นด้วยการเพิ่มงาน เช่น ไปรษณีย์โทรเลข
แม้ธนาคารรัฐ เช่น ธ.ก.ส. ออมสิน ก็ต้องขยับเพิ่มงาน
การศึกษาเรามีคำว่า บูรณาการ(ในวิชาเดียวก่อเกิดหลายวิชา, ในวิชาเดียวก่อเกิดความตระหนักในคุณค่าชีวิต)

ในการปฏิบัติธรรมเราก็จะมีระบบทูอินวันในหลายๆเรื่อง อาทิเช่น
- การทำงานคือการปฏิบัติธรรม
- ประโยชน์ตน-ประโยชน์ท่าน ต้องพร้อมกัน
- กิจอรหันต์-กิจโพธิสัตว์ ต้องไปด้วยกัน

สรุปก็คือ รอบตัวเรา เขาเพิ่มศักยภาพของการทำงานกันทั้งนั้น เราจะอยู่นิ่งเฉยได้อย่างไร
การเขียนบันทึก จะเรียกว่า "เป็นอาวุธชนิดใหม่" หรือจะเรียก "เครื่องทุ่นแรงอันทรงพลัง" ก็ย่อมได้

๓. เพิ่มเวลาให้แก่พระพุทธเจ้า ปัญหาก็คือเราจะทำอย่างไร ให้จิตใจอยู่กับธรรมะได้มากที่สุด
เอา"กาย"มาอยู่วัด ถือเป็นสถานที่อันสมควร(ปฏิรูปเทสะวาโส)
แล้ว จิต-ความคิด-วิญญาณ อยู่ที่ไหน?
ชาวมุสลิมมีกิจกรรมละหมาดวันละ ๕ ครั้ง
ชาวคริสต์มีการเข้าเงียบอยู่กับตัวเอง คุยกับพระเจ้าทุกวัน
ชาวพุทธมีการสวดมนต์ทำวัตร
แต่การ "เขียนบันทึก" คือการตัดแบ่ง ๒๔ ชั่วโมง ให้แก่พระพุทธเจ้าเพิ่มขึ้น
ดึงเวลาของชีวิตกลับคืนมา!

๔. เป็นรูปธรรมที่จับต้องได้ ไม่ใช่คิดลอยๆ เรื่อยๆ เบาๆ บางๆ! หลายๆท่านไม่เห็นความสำคัญของการเป็น"มนุษย์"

ขณะที่พระพุทธองค์ทรงยืนยันว่า เป็นความยากเหลือแสน
เพราะฉะนั้น การได้เกิดจึงเป็นความโชคดีมหาศาล ความจริงที่ยากกว่านั้นก็คือ ได้พบศาสนา ได้ปฏิบัติธรรมและได้เข้าถึงมรรค-ผล!
พ่อท่านได้เมตตาอธิบาย การปฏิบัติธรรมต้องอยู่ในร่างของคนเท่านั้น
ยิ่งไปอยู่ภพสวรรค์ชั้นไหน ก็ยิ่งไม่มีทาง

เพราะเหตุนี้ การเกิดเป็นมนุษย์จึงเป็นนาทีทองของชีวิตที่ต้องรีบทำคะแนน สั่งสมความดี เรื่องนี้พุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่ ก็ยังเข้าใจไปอีกทางหนึ่ง

พระโพธิสัตว์ขณะรอจุติ ก็จะสถิต ณ สวรรค์ชั้นดุสิต เป็นภาวะนิ่งสงบเฉย
ตอนที่รับอาราธนามาจุติ พระพุทธเจ้าก็อยู่ที่ชั้นนี้
เรื่องนี้เข้าใจยาก ผ่านไปก่อนก็ได้

แต่สรุปความจากพ่อท่าน ก็จะได้ว่า "ปฏิบัติธรรมได้ต้องเป็นมนุษย์"เท่านั้น เพราะมนุษย์มีกายเนื้อ มีรูปขันธ์ การฝึกอิทธิบาท การฝึก สติปัฏฐาน การฝึกมรรคองค์ ๘ หากไม่อยู่ในร่างมนุษย์ ย่อมฝึกไม่ได้ !

กายเนื้อ จึงคือ ขอบรั้ว เป็นเขตแดน เพื่อให้เราได้ฝึกธรรมะ และกายเนื้อก็จะเป็นเครื่องมือหรืออุปกรณ์ในการบังคับจิต ไปสู่ ทิศทางที่ชอบ
เจาะซ้อนลึกลงไปอีกระดับหนึ่ง มนุษย์หากมีกายเนื้อเป็นฐานฝึกฝน เป็นพ่วงแพ การบันทึกก็คือกายเนื้อของชีวิต เป็นพ่วงแพ ในรอบชีวิตที่ลึกลงไปอีก

พลังความคิดที่กลั่นออกมาเป็นตัวอักษร คือการตกผลึกกายเนื้อของความคิด
มีทั้งปริมาณ คุณภาพ และความหนาแน่น
จะมีธรรมวิจัย วิธีไหนเล่าที่จะแข็งแกร่งยิ่งไปกว่าวิธีการนี้!

- สิเนรุ -

- สารอโศก ฉบับที่ ๒๘๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ -