ธรรมะประทับใจ (๑๑๓)


ศรัทธานั้น...สำคัญไฉน ?

หากจะพูดว่าการจะปฏิบัติตนให้เกิดมรรคเกิดผลคือการหลุดพ้นจากสภาวะทุกข์ในจิตใจคนเรานั้นเปรียบได้กับการทำนาของ พระพุทธเจ้า (คงฟังมาไม่ผิด)

อันว่านาของพระพุทธเจ้า เท่าที่ฟังมา ท่านว่า มี"ศรัทธา"เป็น"เมล็ดพันธุ์" นั่นคือความรู้(ที่ผ่านๆหูมา)

ฉันเริ่มประจักษ์แก่ตา ขึ้นมาบ้างก็เมื่อสาม_สี่ปีก่อน ฉันมีโอกาสได้คบคุ้นกับเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งใครๆ ก็เห็นว่าเธอ "อ่อน" เหลือเกิน ในการเผชิญความจริง (ผัสสะ) ทั้งสุขภาพกายที่ไม่สู้จะแข็งแรงนัก และสุขภาพใจก็ต้อง "หลบมุม" ดูแลตัวเอง เป็นระยะๆ

ฉันก็เป็นอีกคนหนึ่งที่รู้สึกว่า ตัวเองจะ "อ่อนหัด" ยิ่งกว่าเพื่อนคนนี้ ด้วยอาการที่ "ดิ้นรน รุ่มร้อน....อยู่ไม่เป็นสุข" กับ "เส้นทาง นักปฏิบัติธรรม" ที่ได้เลือกแล้วนี้

การจะ"รู้ทุกข์"นั้นก็ว่ายากแล้ว แต่การเจาะ - ชำแรกใจให้ชัดในรากเหง้า "เหตุแห่งทุกข์" นั้นก็ยากยิ่งขึ้นอีก.....ช่วงระยะที่ยัง "ต้องทน" นั้น มักมี "มาร" มาลวงเสมอๆ เพราะ "ธรรมชาติของใจที่ อ่อนแอ" มักชำนาญในการ "หลบ-หลีก-เลี่ยง" อะไรที่ รู้สึกว่าหนัก ไม่สบาย เดือดเนื้อ ร้อนใจ ฯลฯ ยิ่งเลี่ยงก็ยิ่งเนิ่นช้า....นาน สำหรับการรักษาตนที่เหตุแท้ยิ่งขึ้นๆ

ครั้งนั้นฉันร่ำๆจะออกจากวัดเพื่อ"หาเงิน" โดยอ้างว่า เพื่อเกื้อกูลหนึ่งในปัจจัยสี่แก่บุพการีผู้ให้กำเนิด ซึ่งมีทางให้เลือกไม่น้อย สำหรับชาวอโศกในยุคนี้

คราวนั้นเพื่อนฉันคนนี้กำชับฉันเป็นมั่นเป็นเหมาะว่า "ไม่ว่าจะด้วยเหตุอะไรที่ใจเราดิ้น ขออย่างเดียวเท่านั้น ขอแค่เธอ อย่าออกนอก "หม้อยา" เด็ดขาด สักวันกาลเวลาและอะไรรอบๆตัวจะทำให้เราคลี่คลายปัญหาตัวเองได้"

ข้อคิดส่วนนี้เพื่อนได้รับการชี้แนะมาจากท่านผู้รู้ แล้วเธอก็ "เชื่อฟัง" และดูจะ "เชื่อมั่น" ....ตามรอยไม่น้อย....

เวลาผ่านไปสามปีกว่า พบกันในงานปลุกเสกฯ'๔๘ เพื่อนฉันคนนี้ดู "แกร่ง" ขึ้นจนผิดตา ฉันถามไถ่เธอถึง "สุขภาพกาย" เธอบอกว่าอาการ "ภูมิแพ้" แค่เธอดื่มน้ำเปล่าวันละไม่ต่ำกว่าสาม ลิตร! ติดต่อกันหนึ่งปีเต็ม! อาการนั้นก็อันตรธานหายไปสิ้น ไม่มีผลเบียดเบียนเธอแล้ว! (ทึ่งจริงๆ)

ส่วนอาการ "ภูมิแพ้....ทางใจ" นั้น ฉันไม่มีโอกาสได้ซักถามเธอเลย เพราะเธอไม่ว่าง วิ่งธุระยุ่งอยู่ แต่การที่เธอเอาภาระคน เอาภาระหมู่ วิ่งวุ่นตัวเป็นเกลียวด้วยรอยยิ้มแบบคน "มีพลัง" เช่นนั้นได้ ก็พอจะเป็นคำตอบอยู่แล้ว ว่าการอยู่ใน "หม้อยา" ที่เธอเชื่อนั้น ได้ "บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งศรัทธา" ในหัวใจเธอให้ "แก่กล้า" จนมี "อินทรีย์" เป็น "พละ" และพาให้เธอเติบโต แข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ ตามธรรมสมควรแก่ธรรม...แท้ ฉันเชื่อเช่นนั้น

"ต้นกล้าแห่งศรัทธา"ที่กำลังเติบโตนี้ เธอคือ คุณทรายศีล(บุญสม) ลิลัน มิตรดีสหายดีผู้อดทนยิ่งคนหนึ่ง ซึ่ง "เชื่อมั่นยิ่ง" ในพลังของหมู่ มิตรดีสหายดี สังคมสิ่งแวดล้อมดี อันมีค่าประมาณมิได้ในโลกยุคกึ่งพุทธกาลนี้

ฉันยังระลึกถึงและซาบซึ้งกับ "รอยธรรม" พร้อมย่ำตามรอยเพื่อนอยู่ไม่ห่าง เจริญศรัทธาพร้อมพากเพียรอย่างต่อเนื่อง สักวัน ฉันคงแข็งแรง และแกร่งไม่แพ้เพื่อนแน่ ขอขอบคุณและยินดีด้วยเป็นอย่างยิ่งกับความเจริญของเพื่อน....จากใจจริง

และเชื่อว่ายังมีอีกหลายต่อหลายท่าน ที่เชื่อมั่นมากมายเห็นด้วยว่า "หม้อยา" คือหมู่มิตรดี สหายดี สังคมสิ่งแวดล้อมดีนั้น สำคัญ เพียงไหน สำหรับการพัฒนาชีวิตจิตวิญญาณของเราๆแต่ละคนแต่ละท่านจริงไหม? สาธุ

- ตะวันเบิกฟ้า -
ณ มุมหนึ่งสันตินาคร
มิถุนายน' ๔๘

ป.ล. คุณบุญสม(ทรายศีล) ลิลัน ประจำที่ชุมชนวัฒนธรรมศีรษะอโศก

- สารอโศก ฉบับที่ ๒๘๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ -