คืนสู่เหย้าชาวพุทธธรรม ครั้งที่ ๓ ปี '๔๘ ในปีนี้ เป็นการจัดงานครั้งที่ ๓ ซึ่งครั้งที่ ๑ จัดเมื่อประมาณ ๑๐ กว่าปีที่แล้ว และครั้งที่ ๒ ก็เมื่อปีที่ผ่านมา กิจกรรม และ บรรยากาศในปีนี้ เป็นไปอย่างเรียบง่าย และอบอุ่น ซึ่งต้องขอบคุณ คณะทำงานหลายท่าน ที่มีการเตรียมพร้อม และ เตรียมตัว มาเป็นอย่างดี งานสู่เหย้าฯในปีนี้จัดตรงกับวันเสาร์ ที่ ๑๒ และวันอาทิตย์ที่
๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ ณ พุทธสถานสันติอโศก วันเสาร์ที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ รายการสนทนาตามประสาชาวพุทธธรรม และกิจกรรมสัมพันธ์ดำเนินรายการโดย คุณอ๋อย (เคียงฟ้า คำสามปอนด์) บรรยากาศ ทำให้รำลึกถึง การเข้าค่ายยุวพุทธฯ จบจากกิจกรรมนี้แล้ว ร่วมกันรับประทานอาหารมื้อเย็น สำหรับอาหาร ก็ได้รับ ความกรุณา จากแม่ครัวใหญ่ คุณสุพิศ คุณจินตนา และทีมชาวงานชาวพุทธธรรม ในช่วงของค่ำคืนนี้ ชาวพุทธธรรมเริ่มทยอยมากันมากขึ้นทำให้บรรยากาศในคืนนี้ มีความอบอุ่น และครื้นเครง พวกเราทุกๆ คน มารวมตัวกันในศาลาฟังธรรม โดยมีทั้งสมณะ สิกขมาตุ ท่านได้สั่งสอน ศิษย์จบไปหลายรุ่น ทุกคนเติบโตมีการงาน มีชีวิต ที่แตกต่างกันไป บางคนก็ได้ดิบได้ดีในหน้าที่การงาน บางคนก็อยู่วัดช่วยงานศาสนา บางคนก็ศึกษาระดับ มหาวิทยาลัย กำลังเรียน ปริญญาตรี กำลังต่อโท และกำลังจะทำดอกเตอร์ แต่ทุกคนก็มีพื้นฐาน ความดีงาม ที่ได้ถูกอบรม บ่มเพาะมา ตั้งแต่เยาว์วัย แม้จะไปหัวหกก้นขวิดที่ไหนก็ตาม แต่ก็มีสิ่งที่เตือนตัวเอง อย่าทำผิด ศีลธรรม "เด็กพุทธธรรม จำให้จงดี ว่าเราต้องมีศีลห้าเป็นใหญ่" นี้คือเพลงประจำของเด็กพุทธธรรมคอยเตือนให้มีสติ ในการดำรงชีวิต เจาะเวลาหาอดีต หลังจากที่ท่านสมณะฟ้าไท สมชาติโก ท่านผู้เคยผ่านสนามพุทธธรรมมาอย่างโชกเลือด เอ๊ย...โชกโชน กล่าวเปิดงาน รายการต่างๆก็ดำเนินต่อดังนี้ - สัมภาษณ์ศิษย์เก่า - รายการร้องเพลง ขับกล่อมด้วยเสียงเพลงที่ไพเราะเพราะพริ้ง จากนายเขต และเพื่อนวงฆราวาส นี้ก็เคยเป็นพุทธธรรม จากเด็ก ตัวน้อย แต่บัดนี้คุณเธอเล็กกว่าช้างเล็กน้อย (ล้อเล่น) - และรายการสุดท้ายจากนักร้องกิตติมศักดิ์ร่วมบรรเลงบรรลัยไม่ไล่ไม่เลิก ทยอยกันมาขับแขกเอ๊ย...ไม่ใช่ ขับกล่อม ให้บรรยากาศ ไม่เงียบเหงา เช่น คุณพ่อนรินทร์ คุณแม่เทียนดิน คุณครูสมหญิง คุณครูรอยทราย เป็นต้น และเวลาที่รอคอยก็มาถึง "บันทึกแห่งความหลัง" ใครเป็นใครในอดีตได้ปรากฏขึ้นบนจอทีวี หลายคนฮา หลายคนอึ้ง (ทำไปได้) ตอนนั้น เราทำอะไรลงไปเนี้ย วันและวัยผ่านไปหลายคนเติบโตอย่างสง่างาม หลายคนก็เฒ่าชแลแก่ชรากันไป ตามๆกัน ไม่เชื่อถามครูตุ๊กดูก็ได้ แสงเทียนถูกจุดและส่งใจไปให้พวกเราชาวพุทธธรรมทุกๆดวง ชาวพุทธธรรม ล้อมวง ประสานใจ ด้วยความรู้สึก ที่อบอุ่น และยินดีที่ลูกศิษย์ ครู ลูกหลาน ได้กลับมารวมใจเป็นหนึ่งเหมือนประหนึ่งว่า จะให้สัญญา ว่า จะทำความดี และจะนำ แสงสว่างส่องนำทางชีวิตไม่ให้เดินผิดพลาด เพลงเทียนน้อยดังขึ้นพร้อมกับหัวใจ ที่ปลาบปลื้ม พวกเราจะกลับมาอีก เพื่อมาบอกว่า พวกเราประสบความสำเร็จในชีวิต เป็นคนมีคุณภาพที่ดี ครูเปรมใจ ผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวยาวนานกับชาวพุทธธรรมคงไม่มีใครในชาวพุทธธรรมที่ไม่รู้จักมากล่าวความรู้สึกที่มีต่อ พุทธธรรม ท่านสมณะบินบน ถิรจิตโต ผู้ก่อตั้งพุทธธรรมให้เกิดขึ้นกล่าวปิดงานในคืนนี้และเป็นกำลังใจให้กับพวกเราทุกคน แจกของที่ระลึกสำหรับผู้ที่ต้องกลับในคืนนี้ แล้วพวกเราก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน
และเป็นความโชคดี และความเป็นสิริมงคลแห่งชีวิตที่ พ่อท่านให้ความเมตตา ต่อชาวพุทธธรรมที่สละเวลาอันมีค่า มาให้ โอวาท แก่พวกเรา และได้เอาจ.ม.จากศิษย์เก่าพุทธธรรม "ชิดตะวัน" ที่กำลังศึกษาอยู่ที่ประเทศเยอรมัน มาอ่าน ให้พวกเราฟัง พร้อมฝาก ลงทะเบียนร่วมงานผ่านทางอีเมลมาด้วย พวกเราชาวพุทธธรรม ทุกคนกราบขอขอบพระคุณ พ่อท่าน อย่างสูง หลังจากนี้ก็ร่วมกันใส่บาตร และถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึก รับประทานอาหารเช้า ประมาณ ๘.๓๐ น. รายการเอื้อไออุ่นโดยท่านสมณะบินบน ถิรจิตโต เป็นผู้ดำเนินรายการ สำหรับ วันนี้ มีศิษย์เก่า มาสมทบเพิ่มอีกหลายคน รายการเอื้อไออุ่นให้พวกเราได้ซักถามข้อข้องใจ เล่าความเป็นไปของแต่ละคน แนะนำ พี่รุ่นแรกๆ ให้น้องๆรุ่นหลังๆได้รู้จัก นัดแนะทำกิจกรรมในครั้งต่อไป รับของที่ระลึก กิจกรรมอำลา แลกเปลี่ยนขอที่อยู่ซึ่งกันและกัน ล้อมวงจับมืออำลาตามแบบฉบับของชาวพุทธธรรม คือ ลากันด้วยการ ยกมือ ไหว้ไปรอบวง พร้อมกับร้องเพลง "คำมั่นสัญญา" สังสรรค์เาร่วมกันรับประทานอาหาร ผลัดกันไปร้องเพลงก่อนแยกย้ายกลับบ้าน - ครูตุ๊ก รายงาน - - สารอโศก ฉบับที่ ๒๘๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ - |