ไต้ร่มอโศก: ศูนย์รวมข่าวคราวของญาติธรรมจากทั่วสารทิศ เพื่อเสริมสร้างกำลังใจ ให้กรรมฐานและแก้ปัญหาของนักปฏิบัติธรรม หนังสือพิมพ์สารอโศก อันดับที่ 229 ฉบับ เดือนตุลาคม 2543
หน้า 1/2

โลกลุกเป็นไฟอยู่อย่างนี้
มัวสนุกร่าเริงไปไยกัน
ตัวตกอยู่ในความมืด ไม่รู้จักหาแสงสว่าง…"
พุทธพจน์แว่วอึงอล ดังกังวานนานพันปี
จะมีก็แต่ ลูกหลานเผ่าพันธุ์พุทธเกษตร สัมผัสถึง
พินัยกรรมฉบับนี้
เร่งเร้าธาตุแห่งความทรหด ความขยันอดทน
ความเสียสละเพื่อสังคม เพื่อโลก…
วื่งไปพร้อมกับการปฏิบัติชำระล้างกิเลสในตน
ยังวุ่นวายวัตถุ ยังสังขารอารมณ์ ยังจับผิดคนอื่น…

ต้องหยุดให้สำเร็จ
ทำตัวให้แข็งแรง ทำตัวให้มีภูมิต้านทานสูง
การรบแห่งองค์ธรรมิกราชจอมทัพ
แข่งกับ การมาถึงมัจจุราช
ไม่มีข้อแม้ ไม่มีข้อต่อรองใดๆ
เลือดเนื้อแห่งลูกหลานพุทธเกษตร
ต้องทอดปูทางแห่งการเข็นกงล้อธรรมจักร
กินน้อย นอนน้อย ทำงานมากขึ้น อีก อีก อีก
สงครามตั้งรับไม่มีอีกต่อไป
วันนี้มีแต่รุกเท่านั้น เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป

ประดับไว้ในโลกา

ญาติธรรมอีกราย คุณธีรศักดิ์ ลิ้มประสิทธิศักดิ์ อุปนายกคนที่ ๑ ของสมาคมผู้ปฏิบัติธรรม ได้รับการคัดเลือกให้เป็น"ข้าราชการที่มีคุณธรรม จริยธรรม ดีเด่น ประจำปี พ.ศ.๒๕๔๓" จากกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย

คนดีของโลกผู้ลาลับ

คอลัมน์อื่นๆคงเขียนกันไปบ้างแล้ว จิ้งจกศ์ก็เชยมากที่ตกข่าวเรื่องนี้ไป ขอนำมาบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งในใต้ร่มอโศก ท่านธรรมทาส พานิช น้องชายของหลวงปู่พุทธทาส "ผู้เป็นขุนพลทางธรรม" เสียชีวิตเมื่อวันที่ ๑๘ ก.พ.๒๕๔๓ ฌานกิจศพอย่างเรียบง่าย เมื่อวันที่ ๒๑ ก.พ.๒๕๔๓

จดหมายญาติธรรม เพียงดิน ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เล่าบรรยากาศมา พอให้เกิดจินตนาการ

"งานฌาปนกิจจัดขึ้นในวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ที่ค่ายลูกเสือธรรมบุตร(ทางราชการคืนให้สวนโมกข์แล้ว ขณะนี้ใช้เป็นสถานที่ฝึกอบรมอานาปานสติสำหรับพระภิกษุทั่วไป อาจารย์สิงห์ทองเป็นผู้สอน) เวลาบ่ายสองโมงครึ่ง ก่อกองฟอนเหมือนงานท่านอาจารย์พุทธทาสค่ะ ปักเสา ๔ มุม คาดผ้าขาวเป็นหลังคา ตามแบบอย่างท่านธรรมปาละ ดิฉันอยู่จนไฟมอดเห็นกระดูกและเถ้า อาจารย์รัญจวนตั้งใจให้พวกเราไปพิจารณา เรานั่งกันอยู่ใต้ลมใกล้กองฟอน แต่ไม่ได้กลิ่นเลยค่ะ มีพระภิกษุและผู้คนมาร่วมงานกันมาก ดิฉันคิดว่าประมาณ ๔-๕ ร้อยคน ในตลาดไชยาคงจะมากันแทบทุกบ้าน เพราะคุณลุงเป็นที่นับถือมาก ไม่เฉพาะงานทางศาสนา แต่เป็นครูของคนทั้งอำเภอ ก่อนเผาท่านปัญญาฯ แสดงธรรมประมาณ ๑ ชั่วโมงเศษ สามารถบังคับให้คนที่เดินกันขวักไขว่มานั่งลงบนเสื่อได้ ทนตากแดดฟังท่านได้ งานนี้แม้จะไม่เรียบง่ายเท่างานของชาวอโศก แต่ได้ทราบว่าเรียบง่ายกว่างานอื่นๆในแถบนั้นมาก เพราะผู้ตายเป็นคนสำคัญ ลูกหลานก็มีหน้ามีตา ปกติจะต้องจัดใหญ่โตกว่านี้มาก เจ้าภาพอนุโลมให้ใช้พวงหรีดและดอกไม้จันทน์(คงรักษาน้ำใจผู้มาร่วมงาน) ของชำร่วยเป็นหนังสือธรรมะของท่านอาจารย์พุทธทาส ซึ่งธรรมทานมูลนิธิจัดพิมพ์บ้าง สำนักพิมพ์ต่างๆส่งมาช่วยบ้าง เป็นความประจวบเหมาะอย่างมากที่ดิฉันไปเข้าอบรมในช่วงนั้น จึงได้มีโอกาสไปร่วมงาน"

เป้าหมายสินค้าของชุมชนชาวอโศก

วันนี้ เรามีผลิตภัณฑ์หลากหลายในทุกชมชน นอกจากจะจำหน่ายเป็นรายได้เข้าชุมชนแล้ว เรายังเป็นแหล่งให้บุคคลภายนอก มาฝึกเรียนรู้วิชาอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม เรื่องแรกคือ ราคาถูก ต้องไม่แพง เราคงต้องหาจุดที่ลงตัวที่สุด ให้เป็นระดับบุญนิยม ส่วนตัวไม่โลภ แต่ส่วนรวมยังโลภ ก็กระไรอยู่

เรื่องที่ ๒ สินค้าชุมชน ก็คือสินค้าที่เกิดจากชาวชุมชนเป็นผู้ผลิต ที่ต้องย้ำจุดนี้ เผื่อไว้ว่าบางชุมชนจะเข้าใจผิด เห็นให้เขาผลิตอะไรก็ทำมั่ง กลายเป็นช้างขี้ ขี้ตามช้าง ผิดนโยบายนะฮะ

คนยังไม่พร้อม ก็ยังไม่ต้องรีบทำ

และสินค้าที่ผลิต ควรมีการทดลองใช้ในชุมชนกันก่อน ก็จะดีมากๆนะฮะ เราไม่กินเนื้อสัตว์ แต่ถ้าสินค้าของเรา ทำร้ายชีวิตผู้อื่น ก็แปลกอยู่นะเออ จุ๊ย์ๆๆ

วิธีสร้างอาริยทรัพย์

"ส่วนกระผมก็ไปไม่ได้ต้องขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้างตลอดมา ถึง ๑๒ ปีแล้ว ด้วยวิบากกรรมหนัก ทำให้ประสบอุบัติเหตุ ช่วยตัวเองไม่ได้ทั้งหมด

เรื่องการปฏิบัติธรรมตามสารอโศก กระผมได้ก้าวไปได้อีกนิดหนึ่ง คือเรื่องอาหาร กระผมพยายามลดได้อีก ๑ ชนิด คือ หยุดรับประทานอาหารที่ทำจากกุ้ง ได้เพิ่มขึ้นอีกอย่างหนึ่ง ยังเหลือปลา หอย ปู และแมลงต่างๆ และจะพยายามลดลงไปเรื่อยๆ สำหรับกระผมทำได้แค่นี้ก็ดีถมไปแล้ว

สำหรับศีลข้อที่ ๑ ยังไม่บริสุทธิ์ เพราะยังจัดการกับสัตว์เล็กสัตว์น้อยที่สร้างความรำคาญให้อยู่ จะพยายามต่อไป

ศีลข้อที่ ๒ บริสุทธิ์ ๑๐๐%

ศีลข้อที่ ๓ บริสุทธิ์ทางกาย ๑๐๐% ส่วนทางจิตยังมีเหลืออยู่บ้าง

ศีลข้อที่ ๔ บริสุทธิ์ ๑๐๐%

ศีลข้อที่ ๕ บริสุทธิ์ ๑๕๐% แน่นอน เพราะไม่ชอบเอาเสียมากๆ เห็นเขาเสพได้กลิ่น คนถือขวดสุรา แม้แต่เอาเข้ามาในบ้าน กระผมก็รังเกียจ

ส่วนเรื่องอื่นๆ การรับประทานอาหารมื้อเดียว สองมื้อยังทำไม่ได้ ยังบริโภคชีวิตของเพื่อนร่วมแผ่นดินอยู่บ้าง ทั้งๆที่รู้อยู่เต็มสมองว่าบาป แต่ยังหลีกไม่ได้ เพราะคนรอบข้างเขายังบริโภคอยู่ แต่กระผมจะรับประทานผัก ผลไม้ให้มาก บ้านของกระผมสิ่งที่หาซื้อยากที่สุดคืองา ถ้าซื้อได้ก็ราคาแพง และเป็นงาเก่าเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นเรื่องลำบากมาก ที่จะทานอาหารปลอดชีวิตเพื่อนร่วมแผ่นดิน"

ญาติธรรม อุทัย (อ.เมือง จ.สกลฯ) เล่าสภาวะของตัวเองมา แม้ไปไหนมาไหนไม่ได้ แต่ก็ยังอุตส่าห์"บำเพ็ญทาน" ด้วยการเขียนเรื่องสั้นธรรมะ มาให้ญาติธรรมได้อ่าน

ทำจิตใจให้แจ่มใส มีหนี้ต้องชดใช้! เพราะวิบากเป็นเรื่องจริง… นี่คือ การล้างกรรมเก่า

ศีลที่ปฏิบัติก็พยายามสังวรตรวจตรา รู้เป้าหมาย-แก่นแท้ของศีล รู้ว่าตัวเองจะต้องปฏิบัติอะไรเพิ่มขึ้นอีก… นี่คือ เราจะไม่ปทปรมะ

การอยู่กับความทุกข์โดยไม่กระวนกระวาย… นี่คือ ขันติธรรมบารมี อันเป็น"ยาดำ" ของ ธรรมะทุกหมวดหมู่

หัดนั่งเจโตสมถะเสมอๆ กำหนดกสิณหรือกำหนดลมหายใจเข้าออก กำหนดลมหายใจ สั้น-กลาง-ยาว คล่องเก่งมากขึ้น ก็ตามรู้ลมหายใจ สนุกกับการอยู่คนเดียว นี้คือ เกมส์กีฬาทางจิต!

คุณอุทัยมีโอกาสฝึกซ้อมมากกว่าคนอื่นนะฮะ จุ๊ยๆๆ