เสรีภาพแห่งความคิด.ตอน.๕.ความมืดบอด..

    Hot News, Monday to Sunday, 3.30 am - 24.00 pm.

ตอน.๕.ความมืดบอดจริงๆ ก่อนอื่นต้องขอบคุณข้อมูล ข่าวสารทาง Manager Online..ที่นำเสนอข่าวที่เป็นความจริง ชัดเจนตรงไปตรงมาเป็นมาตราฐานเป็นแบบอย่างที่ดีในสังคมไทยมาตลอด..ทำให้ประชาชนได้รู้จริงและมีความเข้าใจในเรื่องราวความเป็นมา..ส่งผลทำให้เกิดสติปัญญา..ร่วมกันคิด..ร่วมกันแก้ปัญหา..ร่วมใจสร้างความสามัคคีธรรมให้กับประเทศไทย..

จากการรอบทำร้ายหลายครั้งติดต่อกันของผู้ที่มีจิตใจผิดปกติ-สติปัญญารวมอยู่ด้วยนั้น..เป็นพวกเสื้อสีแดง..กล้าที่กระทำผิดในสังคมไทยหลายต่อหลายครั้ง..เนื่องมาจากได้รับเงินจากผู้สั่งฆ่า สั่งทำลายสังคมไทย สั่งทำลายทุกๆ ฝ่ายที่สนันสนุนพันธมิตรฯ -ถ้าหากจะคิดซักนิดว่า อะไรคือการกระทำที่ถูกต้องในสังคมไทย.. ควรจะอ่านข้อมูลทั้งหมดและศึกษาข้อมูลรายละเอียดให้รู้จริงๆก่อนไม่อย่างนั้นก็จะกลายเป็นคนประเภทที่ว่า กลายเป็นคนมืดบอด..ตลอดไป..รวมทั้งสติปัญญาไม่สามารถแยกแยะว่าอะไรคือถูก อะไรคือผิด.. และส่งผลให้กลายคนพาล-ตั้งแต่เด็กจนแก่-และโกงประเทศชาติในสุด..ไม่รู้จักเพียงพอ-จนกระทั่งสามารถทำลายชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ได้

กำลังคิดว่า อาจจะต้องเสียเวลามาขับไล่คนจำพวกนี้อีกหลายครั้ง สร้างปัญหาให้กับประชาชนชาวไทยเป็นอย่างมาก เพราะส่งผลทำให้ผู้อื่นๆต้องเดือดร้อน..คนประเภทนี้มักเห็นแก่ตัว เห็นแก่เงิน เห็นแก่อำนาจ เห็นแก่พักพวกและทำได้ทุกรูปแบบฯลฯ..-คำว่า-ตำรวจ-หมายถึง ผู้พิทักษ์-ปกป้องประชาชนทุกคนและผู้รับใช้ประชาชนชาวไทย..แต่ไม่สามารถจับคนร้ายมาลงโทษได้นั้น…น่าคิดอย่างยิ่งว่าในยุคนี้สมัยนี้ ตำรวจ-ทหาร ไม่มีความหมาย..กลายเป็นบ้านป่า..เมืองเถื่อน..ปล่อยให้อาวุธสงครามออกมาทำร้ายประชาชนเป็นว่าเล่น..หมายถึง-ทำร้ายประชาชนชาวไทย-อย่างหน้าด้านๆ..และเมื่อประเทศไทยไม่มีความปลอดภัยเกิดขึ้น..ชาวต่างชาติเขาจะคิดกับประเทศไทยอย่างไร..ตามไปดูว่าข่าวอโศกรายปักษ์รวมข่าวทั้งหมดและจับประเด่น..ที่มีการทำร้ายประชาชนชาวไทย ทำร้ายพระและนักปฏิบัติธรรม รวมทั้งสถานที่ดอยรายปลายฟ้า, ศีรษะอโศกและราชธานีอโศกที่ผ่านมา..นั่นคือการกระทำผิดทั้งหมด..ทำร้าย-คุกคามประชาชนชาวไทยและทำลายพระพุทธศาสนา.อย่างชัดเจน..มีดังนี้

ตร.เชียงรายเพิ่งตื่น-ส่ง จนท.เฝ้า "ดอยรายปลายฟ้า" หลังถูกเผา-ยิงร่วมสัปดาห์-เชียงราย - ตำรวจพึ่งตื่น ส่งกำลังร่วมเฝ้าสำนักปฏิบัติธรรม "ดอยรายปลายฟ้า ชุมชนบุญนิยม" หลังเกิดมือมืดบุกเผา-ยิงถล่ม มาแล้วร่วมสัปดาห์ ญาติโยมวอนตำรวจตรวจเข้ม 7 วันนับจากวันที่ถูกเผา-รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า จากกรณีคนร้ายอย่างน้อย 5 คน ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 บุกเข้าไปกราดยิงเข้าใส่สำนักปฏิบัติธรรมดอยรายปลายฟ้า ชุมชนบุญนิยม หมู่ 8 ต.ท่าสาย อ.เมือง จ.เชียงราย

จนทำให้แท็งก์น้ำเสียหาย แต่ไม่มีคนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เมื่อหัวค่ำวันที่ 7 ธ.ค.2551 ที่ผ่านมา และก่อนหน้านั้น 3 วัน มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนบุกเข้าไปเผากุฏิจนเสียหายไปแล้ว 2 หลัง ล่าสุด ทาง พ.ต.อ.จรัญฌิ์ เริงธรรม ผกก.สภ.เมืองเชียงราย, พ.ต.ท.อนันต์เดช ยาวิชัย รอง ผกก.ป.และ พ.ต.ต.สรัญรัฐ ชยานนท์ สารวัตรสืบสวน ได้มีคำสั่งไปยังตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชาให้ทำการตรวจตราดูแลความปลอดภัยภายในสำนักปฏิบัติธรรมอย่างเข้มงวดมากขึ้น..ทั้งนี้ ตำรวจได้ส่งกำลังจำนวน 3 นาย เข้าไปดูแลภายในสำนักปฏิบัติธรรม ซึ่งมีเนื้อที่กว่า 75 ไร่ และมีอาคารที่ใช้ปฏิบัติธรรม กุฏิ วิทยุชุมชนบุญนิยมดอยรายปลายฟ้า ฯลฯ รวมประมาณ 20 หลัง โดยให้อยู่เฝ้ากับญาติธรรมที่ปกติจะอยู่กันภายในประมาณ 10 กว่าคน ขณะที่ชุดสายตรวจได้ตระเวนไปบริเวณโดยรอบ ซึ่งมีถนนเลาะคลองชลประทานติดกับชุมชนเป็นทางเข้า โดยมีการแจ้งรายงานสถานการณ์ไปยังศูนย์วิทยุเม็งราย สภ.เมืองเชียงราย ทุกๆ 1 ชั่วโมงด้วย ทำให้ญาติธรรมและชาวบ้านที่อยู่ภายใน สำนักปฏิบัติธรรมรวมทั้งชุมชนโดยรอบมีความอุ่นใจขึ้นอย่างมาก

นายวิเชียร คณะรินทร์ ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกอบรมบุญนิยมดอยรายปลายฟ้าของสำนักปฏิบัติธรรม กล่าวว่า การเข้าไปดูแลของตำรวจทำให้ญาติธรรมและชาวบ้านมีความรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น และคืนที่ผ่านมาก็ไม่มีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้นเลย..อย่างไรก็ตาม ก็ได้ขอร้องให้ตำรวจช่วยดูแลความปลอดภัย ตามมาตรการดังกล่าวออกไปอีกประมาณ 7 วัน นับตั้งแต่วันถูกถล่มยิง เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีคำขู่ว่าภายใน 7 วัน กลุ่มคนร้ายจะลอบเข้าไปเผาอาคารภายในสำนักปฏิบัติธรรมอีก 2 หลังคือ ร้านค้าชุมชนและอาคารหญิง จึงเชื่อว่าอาจจะมีการกระทำตามที่ได้ขู่จริง เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยเข้าไปเผาถึงในกุฏิ ที่อยู่ชั้นในของที่ดินมาแล้วด้วย

นายวิเชียร กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม พวกเราทุกคนก็พร้อมจะต่อสู้ด้วยอหิงสาและยังมีแนวคิดอุดมการณ์เหมือนเดิมต่อไป แม้ว่าจะมีกลุ่มคนพยายามเข้าไปข่มขู่ทำร้าย อย่างไรก็ตาม โดยยังมีการแพร่กระจายเสียงเอเอสทีวีทางคลื่นวิหคเรดิโอ เอฟเอ็ม 89 เมกะเฮิรตซ์ ตั้งแต่เวลา 13.00-17.00 น.ส่วนช่วงเวลาที่เหลือถ่ายทอดเสียงคลื่นเอฟเอ็มทีวี เกี่ยวกับรายการธรรมะซึ่งสถานีจะกระจายเสียงตลอด 24 ชั่วโมง กระนั้นหากว่าเสาของคลื่นวิทยุเอฟเอ็ม 107 เมกะเฮิรตซ์ของสำนักปฏิบัติธรรมซ่อมแซมแล้วเสร็จ ก็คงจะหันไปใช้คลื่นเอ็มเอ็ม 107 เมกะเฮิรตซ์ในการเผยแพร่รายการธรรมะเหมือนเดิมต่อไป..

ศีรษะอโศก-ศรีสะเกษยุติปัญหาม็อบเสื้อแดงป่วน-คืนที่ดินให้ อบต.ได้ผลาญงบสมใจ-ศรีสะเกษ - ชุมชนศีรษะอโศก..ต.กระแชง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ยุติปัญหาถูกกลุ่มเสื้อแดงแก๊งหัวคะแนน ส.ส."ทาสแม้ว" ตามป่วนไม่หยุด ยอมคืนที่ดินสาธารณะ 44 ไร่เศษ และศูนย์สาธิตเกษตรอินทรีย์ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ให้ "อบต.กระแชง" ไปสนองโครงการก่อสร้างผลาญงบแผ่นดินได้สมใจ หลังปลุกม็อบเกณฑ์ชาวบ้านมากดดันต่อเนื่อง ท่ามกลางกำลัง ตร.และ นักรบศรีวิชัย คุมเข้มรักษาความสงบเรียบร้อย..วันนี้ (9 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กระแชง ตรงข้ามกับชุมชนศีรษะอโศก ต.กระแชง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้มีชาวบ้านกลุ่มเสื้อแดง ที่ตัวเองว่า "กลุ่มรักกระแชง" ในเขต ต.กระแชง ทยอยกันมาร่วมชุมนุมเพื่อติดตามผลการเรียกร้องทวงคืนที่ดินสาธารณประโยชน์จำนวน 44 ไร่ 71 ตารางวา จากชุมชนศีรษะอโศก โดยมี นายใส ตาระพันธ์ นายก อบต.กระแชง หัวคะแนนของ ส.ส.ศรีสะเกษ อดีตสมาชิกพรรคพลังประชาชน (พปช.) ในพื้นที่ เป็นแกนนำ ท่ามกลางกำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจจาก สภ.กันทรลักษ์ นำโดย พ.ต.อ.ชัชวาลย์ แก้วจันดี ผกก.สภ.กันทรลักษ์ มาดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยตลอดเวลา

ขณะที่ทางด้านชุมชนศีรษะอโศก ได้ทำรั้วปิดทางเข้าบริเวณชุมชนศีรษะอโศกและมีการนำเอารั้วลวดหนามจำนวน 2 เส้น มาขึงรอบบริเวณทางเข้าด้านหน้าศีรษะโศก และมีนักรบศรีวิชัย หรือ การ์ดอาสาสมัคร ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) จำนวนหลายสิบคนมาเฝ้ารักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดด้วย เนื่องจากกลุ่มของนักการเมืองดังกล่าวได้ปลุกระดมเกณฑ์ชาวบ้านมาชุมนุมกดดันและขู่ว่าจะบุกเข้ายึดชุมชนศีรษะอโศกมาแล้วหลายครั้ง..นางขวัญดิน สิงห์คำ ที่ปรึกษาชุมชนศีรษะอโศก กล่าวว่า พวกเรายินดีคืนที่ดินดังกล่าวทั้งหมดที่ได้เข้าไปใช้ประโยชน์ในการจัดสร้างเป็นศูนย์สาธิตเกษตรอินทรีย์ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อส่งคืนให้กับทางราชการต่อไป ทั้งนี้ เพื่อให้ทางคณะกรรมการที่ทางราชการแต่งตั้งขึ้นมาได้พิจารณาว่าจะให้ใช้พื้นที่บริเวณนี้ในการทำประโยชน์อะไร ซึ่งขณะนี้ได้ขอเวลาในการขนย้ายสิ่งของเอามาเก็บไว้ในเขตพื้นที่ของชุมชนศีรษะอโศก เพื่อให้เป็นไปตามมติร่วมกันของการประชุม 3 ฝ่ายต่อไป..

ทั้งนี้ ชุมชนศีรษะอโศกได้ใช้ประโยชน์จากที่ดินส่วนนี้เพื่อสาธิตการทำปุ๋ยอินทรีย์ และส่งเสริมการดำเนินชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งปรากฏว่า มีส่วนราชการต่างๆ จากในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ และจากทั่วประเทศ นำคณะเจ้าหน้าที่มาศึกษาดูงานพร้อมทั้งเข้ารับการอบรมและสามารถนำเอาไปใช้ประโยชน์ได้เป็นอย่างดีมานานหลายปีแล้ว..ทางด้าน นายใส ตาระพันธ์ นายก อบต.กระแชง แกนนำชาวบ้าน กล่าวว่า ชาวบ้านที่ทยอยพากันมาชุมนุมกันในครั้งนี้เพื่อต้องการรับทราบความคืบหน้ากรณีที่ มีการเรียกร้องให้ชุมชนศีรษะอโศกออกไปจากการบุกรุกที่สาธารณประโยชน์จำนวน 44 ไร่ 71 ตารางวา เพื่อคืนที่ดินให้กับชาวบ้าน ซึ่งตนได้ชี้แจงให้กับชาวบ้านที่มาชุมนุมทราบแล้วว่า จากการประชุมร่วมกัน 3 ฝ่าย ระหว่างตนในฐานะแกนนำกลุ่มคนรักกระแชง ผกก.สภ.กันทรลักษ์ และตัวแทนชุมชนศีรษะอโศก ได้มีข้อตกลงร่วมกันว่า ชุมชนศีรษะอโศกจะออกไปจากบริเวณที่ดินสาธารณะที่มีการสร้างอาคารสิ่งปลูกสร้างต่างๆ อย่างไม่มีเงื่อนไข โดยจะเริ่มทยอยขนสิ่งของสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ออกไปภายในระยะเวลา 1 เดือน

ส่วนสิ่งปลูกสร้างที่เป็นอาคารถาวรนั้น หากไม่สามารถรื้อถอนออกไปได้ ขอให้ตกเป็นของแผ่นดินต่อไป ซึ่งทาง อบต.จะได้ใช้สถานที่สาธารณะแห่งนี้สร้างเป็นสวนสัตว์ให้ประชาชนลูกหลานได้เข้าไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจและเพื่อการศึกษาชีวิตของสัตว์ป่าชนิดต่างๆ โดยจะแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งให้เป็นสถานที่ก่อสร้างสถานีอนามัยประจำตำบลเพื่อเปิดให้บริการประชาชนที่เจ็บไข้ได้ป่วยด้วย..ทางด้าน พ.ต.อ.ชัชวาลย์ แก้วจันดี ผกก.สภ.กันทรลักษ์ กล่าวว่า การเจรจาระหว่างการประชุมร่วม 3 ฝ่ายเป็นไปด้วยดี สามารถตกลงกันได้และทำให้เกิดความสงบสุขขึ้นมาได้ เพราะทุกฝ่ายคำนึงถึงกฎหมายบ้านเมืองและเหตุผลความเป็นจริง เรื่องนี้ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว และเพื่อเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อยตนได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.เข็มชาติ กระจ่างจันทร์ สวป.สภ.กันทรลักษ์ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาเฝ้ารักษาความสงบเรียบร้อยอย่างเต็มที่ แต่คาดว่า คงไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น เนื่องจากสามารถเจรจาตกลงกันได้แล้ว..

ก่อนหน้านี้ในเดือนกันยายน๒๕๕๑..พวกกลุ่มเสื้อแดง..ยังมาทำลายเกือบทุกอย่างที่บ้านราชฯ..ตำรวจก็ไม่สามารถจับคนร้ายได้ซักที..คำถามมีอยู่ว่าเมื่อไรจะจับมันได้..ตามไปดูกัน..การป่วนบ้านราชฯพ่อท่านให้สงบไม่ตอบโต้ ตำรวจช่วยดูแลความปลอดภัย-จากสถานการณ์การเคลื่อนไหวทางการเมืองภาคประชาชน พันธมิตรฯอุบลราชธานี..ได้รวมตัวกันที่อุทยานบุญนิยมเพื่อทำกิจกรรมเวทีคู่ขนาน รวมกับเวทีพันธมิตรส่วนของกลาง

ในส่วนของ นปก. มีการจัดชุมนุมกันที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี จากความแตกต่างทางความคิด และมีข้อมูลว่ากลุ่ม นปก.จะมาที่หมู่บ้านชาวราชธานีอโศก..ได้มีการจัดหน่วยรักษาความปลอดภัยจัดเวรยามระหว่างเวลา ๑๘.๐๐-๐๕.๐๐ น.โดยมีชุมชนชายและนักเรียน สสธ. จำนวน ๘ คนดูแล มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นระยะๆคือการยิ่งปืนขู่ นำขวดเบียร์-ขวดเหล้า มา ขว้างที่บริเวณปั๊มน้ำมันหน้าหมู่บ้าน และมาทำลายเครื่องอุปกรณ์ จราจรหน้าหมู่บ้าน, ขู่ กรรโชกจะทำร้ายและขู่จะเผาโรงสี ส่วนที่อุทยานบุญนิยม มีขโมยมางัดเอาทรัพย์สินไปประมาณ ๕,๐๐๐กว่าบาท, ทำลายรื้อป้ายผ้า ๒๐ กว่าป้าย, ขว้างขวดและหินเข้าไปในบริเวณร้าน ซึ่งที่จังหวัดอุบลฯ จะมีสื่อที่จังหวัดอุบลฯ จะมีสื่อวิทยุชุมชนหลายแห่ง พูดปลุกระดมและพูดให้ร้ายป้ายสีชาวอโศกมาเรื่อยๆ

ฝ่ายรักษาความปลอดภัยได้นำขอนไม้ตะเคียนปิดทางเข้าออกหมู่บ้านมี อยู่หลายทาง ให้เหลือทางเข้าออกเพียง ๒ ช่องเพื่อง่ายต่อการรักษาความปลอดภัย -ครั้งล่าสุดเริ่มวันที่ ๑๕ กันยายน ทางวิทยุชุมชนแห่งหนึ่ง กำลังส่ง ๒,๐๐๐ วัตต์ มีการปลุกระดมอย่างรุนแรงเพื่อระดมพลมาที่หมู่บ้านชุมชนราชธานีอโศก ทีมงาน รปภ.ของหมู่บ้านจึงมีการประชุมวางแผนรับมือในเย็นวันที่ ๑๘ ก.ย.๒๕๕๑ โดยได้รับความร่วมมือจากแกนนำกลุ่มพธม.อบ. โดยมีการกำหนดแผนงานตัวบุคคล เช่น หน่วยทีมข่าว, ทีมสื่อบุญนิยม, ทีมรักษาความปลอดภัย, และเตรียมติดอุปกรณ์ถ่ายทอดสด

ในเช้าวันที่ ๑๙ ก.ย. ผู้ใหญ่บ้านได้ไปยื่นหนังสือขอกำลังรักษาความปลอดภัยจากทางผู้ว่าราชการจังหวัด, ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด, ผู้บัญชาการทหารราบมณฑลภูธรจังหวัด, ผู้บัญชาการทหารราบมณฑลที่๒๒, นายอำเภอวารินชำราบ และในช่วงเย็นของวันที่ ๑๙ ก.ย.ประชุมชาวชุมชน โดยมีแกนนำ พธม.อบ.มาร่วมด้วย เน้นจุดยืนเรื่องอหิงสา-อโหสิ เป็นหลัก..ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถือว่าเป็นการปฏิบัติทั้งสิ้นวันที่ ๒๐ ก.ย. ทีมงานรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน มีการประสานงานกับ จนท.ตำรวจและประชุมเตรียมความพร้อมกับนักบวชพุทธสถานราชธานีอโศก

ในวันเดียวกันนี้สมณะถักบุญ อาจิตปุญโญ ได้ให้สัมภาษณ์ออก สื่อโทรทัศน์ช่อง ๗ สี, นสพ.เดลินิวส์และหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ และให้สัมภาษณ์ออก อากาศทางโทรศัพท์ของวิทยุจังหวัดอุลราชธานี ช่วงเย็นประชุมทีม รปภ. ทีมสื่อบุญนิยม, ทีมข่าว, ทีมประสานงาน อีกครั้งหนึ่ง คืนวันที่ ๒๑ ก.ย.ฝนหนักตั้งแต่เวลาประมาณ ๐๓.๐๐ น.และฝนตกตลอดทั้งวัน -ในช่วงเช้าสมณะและสิกขมาตุ ไปบิณฑบาต ไปบิณฑบาตและฉันอาหารที่อุทยานบุญนิยม รวม ๑๕ รูป มีกลุ่ม พธม.อบ.มาร่วมให้กำลังใจชาวอุทยานฯ ประาณ ๑๐๐ คนโดยมีกำลังตำรวจจาก สภอ.เมือง อุบลฯ ๓๐ นาย มาดูแลความปลอดภัย ส่วนกลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯ ในสามกลุ่มพลังเงียบ เริ่มรวมตัวกันที่ ศาลากลาง

จังหวัดอุบลราชธานี เวลา ๐๘.๓๐ น. และเคลื่อนตัวเวลา ๙.๓๐ น. โดยมีรถกระบะ ๑๔ คัน มอเตอร์ไซค์ ๓ คัน วิ่งปราศรัยรอบเมืองจังหวัดอุบลฯ เดินทางมาถึงอุทยานบุญนิยมเวลาประมาณ ๑๓.๐๐ น. มีจำนวนคนประมาณ ๑๕๐ คน รถยนต์และกระบะ ๓๑ คัน รถมอเตอร์ไซค์ ๑๑ คัน มาปราศรัยโจมตีด่าทอชาวอโศกด้วยคำพูดหยาบๆ คายๆ การปราศรัยใช้เวลาประมาณ ๒๐ นาที แล้วเคลื่อนตัวไปยังตลอดอำเภอวารินชำราบและเข้ามาที่เส้นทางหมู่บ้านกุดตระงุมโดยมีจนท.ตำรวจตรวจค้นอาวุธจำนวน ๑๕ นายที่บริเวณปากทางเข้าหมู่บ้าน..กลุ่มผู้ต่อต้านได้เดินทางมาถึงป้ายหินบริเวณหน้าหมู่บ้านเวลาประมาณ ๑๔.๑๕ น.ซึ่งมีขอบไม้วางกั้นและจนท.ตำรวจได้กันไม่ให้กลุ่มเดินขบวนเข้าไปในบริเวณหมู่บ้าน แต่อนุญาตให้แกนนำจำนวน ๒ คน เข้ามา เพื่อเจรจากับแกนนำจำนวน ๒ คนเข้ามา เพื่อเจรจากับแกนนำของหมู่บ้าน ฝ่ายต่อต้านฯ ขอต่อรองให้กลุ่มผู้เดินขบวน เข้ามาในหมู่บ้านทั้งหมด แต่ จนท. ตำรวจและแกนนำไม่อนุญาติเพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุปะทะรุนแรง เพราะกลุ่ม ตำรวจ จำนวน ๗ คัน-การปราศรัยของกลุ่มต่อต้านฯ มีอาการเมาสุราหลายคน แกนต่อต้านฯ

จึงยอมรับข้อเสนอ จะปราศรัย บริเวณหน้าป้ายทางเข้าหมู่บ้านชุมชนราชธานีอโศก แต่ขอให้ทางหมู่บ้านส่งคนไปฟัง ซึ่งสมาชิกของหมู่บ้านไปร่วมฟัง โดยยืนฟังอยู่ในบริเวณหมู่บ้าน จำนวนแนวร่วมกลุ่มต่อต่อต้านที่มาในวันนี้ มีจำนวนประมาณ ๓๕๐ คนมีรถยนต์ ๕๖ คัน รถมอเตอร์ไซค์ ๕๙ คันในการรักษาความปลอดภัยในครั้งนี้ มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.วารินฯ จำนวน ๙๐ นาย, สน.สว่างวีรวงค์ จำนวน ๑๒ นายและตรึงกำลังเต็มที่รอปฏิบัติการที่สน.วารินฯจำนวน ๙๐ นาย ในหมู่บ้านมีรถกรงขังของ จนท.ตำรวจ ๒ คันและรถกระบะ จนท.ตำรวจ จำนวน ๗ คัน การปราศรัยของกลุ่มต่อต้าน ยังคงเป็นเป็นถ้อยคำหยาบๆ คายๆ

เช่นเคย โดยเน้นการด่าว่าพ่อท่านสมณะโพธิรักษ์, สมณะและชาวบ้านราชฯ เป็นหลัก ใช้เวลาปราศรัยประมาณ ๑ ชม.ครึ่ง ก็เดินทางกลับ ฝนเริ่มหยุดตก ท้องฟ้าเริ่มมีแสงแดดหลังจากที่บรรยากาศมืดครึ้มมาตลอดทั้งวัน เหตุการณ์วันนี้มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์เอฟเอ็มทีวีโดยติดตั้งกล้องวงจรปิดและช่างกล้องเกาะติดสถานการณ์ -สมณะถักบุญ อาจิตปุญโญ-รู้สึกประทับใจทีมงานที่เข้าร่วมรักษาความปลอดภัย, ประทับใจ พธม.อบ. ที่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันมาให้กำลังตั้งแต่ต้นจนจบงาน ประทับใจ ทีมสว.สมบูรณ์ ทองบุราณ และคุณหนึ่งแก่น บุญรอด ที่พาทีมงานมาร่วมรักษาความปลอดภัยนอกจากนี้สมาชิกจากวัดป่าสวนธรรม อ.ป่าติ้ว,ชาวศรีสะเกษ, ยโสธร, อำนาจเจริญ

ก็มาเป็นกำลังใจชาวบ้านราชฯ และญาติธรรมชาวอโศกที่ห่างหายไปจากกลุ่มก็กลับมาช่วยประทับใจตำรวจที่มาประจำการจำนวน ๑๐๒ นายในพื้นที่ตั้งแต่เช้าจนเหตุการณ์จบลง ไม่กลัวฝนมาเป็นกำลังใจชาวบ้านราชฯ และต้องทนฟังคำปราศรัยหยาบๆคายๆ ของกลุ่มต่อต้าน, ประทับใจทีมสมณะและสิกมาตุ ที่ไปร่วมเป็นกำลังใจให้กับญาติโยมที่อุทยานบุญนิยม หรือบริเวณ -ปราศรัยหน้าหมู่บ้าน ประทับใจพี่น้องชาวอโศกทั่วประเทศที่ได้รับทราบข่าว ต่างโทรศัพท์มาถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นประทับใจเหตุการณ์ครั้งนี้มีการถ่ายทอดสดทาง เอฟเอ็มทีวี โดยจนท.เอเอสทีวีก็ได้โทรมาถามรายระเอียดในการประกาศบนเวทีใหญ่ที่ทำเนียบ ในครั้งนี้ทีมสื่อบุญนิยมจาก กทม.ได้เดินทางมาช่วยบันทึกภาพเหตุการณ์ด้วยหลังจากทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติ ผู้ที่มาให้กำลังใจต้องรีบเดินทางกลับ เพราะเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมอย่างรวดเร็วโดยที่ยังไม่ได้ พักเหนื่อย และขอประทับใจชาวบ้านราชฯ

ที่ได้ปฏิบัติธรรมกับผัสสะของจริง กับกลุ่มต่อต้านยังไม่ ทันหายเหนื่อยก็ต้องมารับศึกรีบขนย้ายข้าวของจากภาวะน้ำท่วมอย่างรวดเร็วรถเล็กต้องรีบขนย้ายออกจากพื้นที่ในคืนนี้ ส่วนทีม รปภ.ก็ยังต้องทำงานอยู่เหมือนเดิมเพราะสถานการณ์ยังไม่อยู่ในข่ายที่วางใจได้-นางมิ่งหมาย มุ่งมาจน-ดิฉันอยู่ที่อุทยานบุญนิยม คนทำงานที่อุทยานทุกคนไม่รู้สึกกลัว พวกเรายังคงเปิดขายของเป็นปกติ ฟังคำที่เขาด่าแม้หยาบคายแต่ก็รู้ว่าเป็นข้อมูลที่ไม่จริงทั้งนั้น เห็นแล้วก็น่าสงสารเพราะเขาทำบาป บางคนเมาและพูดหยาบๆ คายๆ เป็นการระบายอารมณ์พวกเราก็ไม่มีใครตอบโต้ไม่ได้แสดงอารมณ์โกรธแค้น พอไม่มีใครตอบโต้เขาก็พูดดีขึ้นบรรยากาศคนที่มาซื้อของในอุทยานก็เป็น ปกติ ประทับใจสมณะและสิกขมาตุที่ถูกเขาด่าอย่างเสียหาย แต่ท่านก็สงบนิ่ง และประทับใจทีมการ์ดที่มีอาการสงบ แม้จะถูกเยาะเย้ยถากก็ไม่โต้ตอบแต่อย่างใด ญาติธรรม, กลุ่มพันธมิตรฯ และลูกค้าอุทยานพอทราบข่าวก็มาเป็นกำลังใจจำนวนมาก พอๆกับกลุ่มต่อต้านพันธมิตร เหตุการณ์ครั้งนี้ชาวบ้านราชฯ ได้สามัคคีกันและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ฝึกอดทนต่อคำด่าทอที่หยาบคายเป็นการปฏิบัติธรรม..