เสรีภาพแห่งความคิด..ที่ทุกๆคนมีสิทธิ์.. |
เสรีภาพแห่งความคิด.. ที่ทุกๆคนมีสิทธิ์.. แสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ ในการทำสิ่งที่ถูกต้อง และงดงามในสังคมไทย.. พร้อมทั้งสร้าง ความสามัคคีธรรม ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย.. จากวันนั้นจนถึงวันนี้.. ความงดงามทั้งหมด.. ก้าวไปสู่ความรุ่นแรง เมื่อทุกๆคน.. ถามหาความรับผิดชอบ.. ความรับผิดชอบอยู่ที่ไหน.. บรรพบุรุษของคนไทยทุกๆคน จะคิดอย่างไร.. จากเหตุกาณ์ล่าสุดวันที่ 7 ตุลาคม ๒๕๕๑ เป็นสิ่งยืนยันชัดเจนว่า ใครใช้ความรุนแรงเมื่อใด ก็จะสูญเสียสถานะ ทางศีลธรรมทันที.. ทางรัฐบาลหุ่นเชิด และบริวาร จะต้องรับผิดชอบ การกระทำทั้งหมด โดยไม่มีเงื่อนไข.. นั้นคือเสียงร้อง จากประชาชนชาวไทยทุกๆคน.. ซึ่งทั้งหมดควรคิด... การใช้อำนาจอธรรม ของรัฐบาลหุ่นเชิด นับตั้งแต่ เถลิงอำนาจ โยกย้ายข้าราชการ ล้างอำนาจเก่า สร้างอำนาจใหม่ของตน ปลด พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ สร้างรัฐตำรวจใหม่ กลั่นแกล้งฝ่ายตรวจสอบทุจริต ทั้ง ดีเอสไอ และคตส. รวมถึงแกนนำ พันธมิตรฯ ดึงถ่วงคดี ของนายใหญ่ และพรรคพวก บริวารหุ่นเชิด..
เผด็จการสภาฯ เสียงข้างมาก ของ สส.หุ่นเชิด ทุกกรณี พยายามแก้ รัฐธรรมนูญ ๕๐ ฟอกผิดของนายใหญ่ และบริวารหุ่นเชิด, กรณีปราสาท เขาพระวิหาร ครม. ละเมิดรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๙๐ รวบรัด อนุมัติงบประมาณโครงการต่างๆ ข่มขู่ แทรกแทรง แทรกซื้อ องค์กร ยุติธรรม ทุกวิถีทาง
จัดตั้งจัดจ้างมวลชน นปก. นปช. โดยมี สส.หุ่นเชิด ยุยงส่งเสริม บริวารอันธพาล ปะทะทำร้าย พันธมิตรฯ ทั้งใน กทม. เหนือ อีสาน ตำรวจหุ่นเชิด ให้ความร่วมมือ ในการก่อการร้ายเหล่านี้ ใช้สื่อของรัฐ NBT เชลียร์รัฐหุ่นเชิด ให้ร้ายพันธมิตรฯ โครงการศึกษา และเฝ้าระวังสื่อ เพื่อสุขภาวะของสังคม สำรวจการรายงานข่าว ในฟรีทีวี 3,5,7, NBT และ TPBS พบสื่อเอ็นบีที เน้นรายงานข่าวฝั่งรัฐบาล มากกว่าพันธมิตรฯ ขาดความเป็นกลาง มากที่สุด พิธีกรข่าว มักแสดงอคติ และแสดงความรู้สึกส่วนตัว ออกมาอย่างรุนแรง และหลายความคิดเห็น ก็เป็นการชี้นำ ความคิดของผู้ชมด้วย ฯลฯ
ใช้ตำรวจหุ่นเชิด อ้างคำสั่งศาล เข้าสลาย การชุมนุมฯ ทุบตีทำร้าย พันธมิตรฯ ที่ไม่ได้ต่อสู้ แม้เป็นหญิง ไม่เว้นแม้หน่วยกาชาด ทำลายสิ่งของ เครื่องใช้ ร่วม ๑๖ ล้านบาท รวมถึงเงินบริจาค ที่มีในตู้ หายไปเกลี้ยง ตำรวจกลายเป็นโจร ทำให้ศาลแพ่ง สั่งงดการบังคับคดี เหตุตำรวจ ปฏิบัติไม่ชอบ ด้วยกฏหมาย ทุบตีประชาชน หากบังคับคดีต่อ จะเสียหาย ให้รอจนกว่า ศาลอุทธรณ์ จะมีคำสั่ง
สร้างสถานการณ์ฉุกเฉิน สส.หุ่นเชิด นำมวลชน นปก.นับหมื่น ฝ่าด่านตำรวจ ๓๐๐ ที่มีโล่ ไร้กระบอง ไร้แก๊สน้ำตา ทำให้นปก. ผ่านเข้าปะทะ การ์ดพันธมิตรฯ ได้โดยง่าย
๒ ก.ย. นายกฯหุ่นเชิด ประกาศใช้พรก.ฉุกเฉิน นปก.สลายตัวทันใด หวังใช้ทหาร จัดการพันธมิตรฯ ทหารไหวทัน ดึงถ่วงไม่ใช้กำลัง สลายการชุมนุม ขัดขืนอย่างสุภาพ อ้างการเมือง ต้องแก้ด้วยการเมือง
-คดีชิมไปบ่นไป ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเป็นเอกฉันท์ ๙ เสียง นายกฯหุ่นเชิด กระทำผิด มาตรา ๒๖๗ เป็นเหตุให้ ความเป็นรัฐมนตรี ของนายกรัฐมนตรี สิ้นสุด
๙ ก.ย. ไม่ทันข้ามวัน โฆษกพรรค ออกมาประกาศ พรรคโหวตเลือก นายกฯหุ่นเชิด ให้กลับมา เป็นนายกฯอีก เป็นความท้าทาย ฝืนกระบวนการ ยุติธรรม ฝืนฟ้า ฝืนดิน ฝืนลิขิตแห่งกรรม ด้วยเชื่อในอำนาจ เสียงข้างมากในสภาฯ ทั้งหมดข้างต้นนี้ เป็นเพียง เศษเสี้ยวของ การเมืองสามานย์ ทำให้ผู้รักความเป็นธรรม ทั้งหลาย นิ่งดูดายไม่ได้ ผนึกรวม เข้ากับพันธมิตรฯ มากขึ้นเรื่อยๆ สหภาพแรงงาน รัฐวิสาหกิจ นักเรียน นิสิต นักศึกษา ชาวนา ชาวสวน ฯลฯ
คุณเคลลี่ นักร้องชาวออสเตรเลีย ที่ขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ขับร้องดนตรี ให้กำลังใจเนืองๆ ได้เล่าถึงเพื่อน คริสตชนไทย ที่ไม่ออกมา ร่วมกับพันธมิตรฯ ด้วยเหตุผลว่า ไม่อยากยุ่ง เป็นเรื่องการเมือง หมายถึง การแย่งชิงอำนาจ และผลประโยชน์-คุณเคลลี่ ตอบกลับไปว่า มันไม่ใช่เรื่องการเมือง นี่มันเป็นเรื่องของ พระเจ้า GOD กับซาตาน Satan เป็นเรื่องของ ธรรมะกับอธรรม
เป็นการมองภาพรวม ของความขัดแย้ง ที่ชัดเจน เป็นเรื่องของ ธรรมะกับอธรรม ขณะที่นักวิชาการบางส่วน มองการขัดอำนาจอธรรม ของพันธมิตรฯว่า คลั่งชาติ ราชนิยม อำมาตธิปไตย อนาธิปไตยฯลฯ เป็นการนำผลส่วนย่อย ชูเป็นประเด็นใหญ่ ไม่นำเหตุ ทุจริตกรรม ของรัฐหุ่นเชิด และบริวาร มาประกอบเหตุ ที่เป็นเช่นนี้ เพราะบางส่วน ยึดติดอุดมการณ์ ล้มเจ้า บางส่วน ขายตัว บางส่วนเกาะตำรา เป็นกลางตามทิฐิ
เพื่อให้เห็นภาพ ซาตาน ตามพระคัมภีร์ ไม่ใช่คำด่าให้สะใจ จากวิกิพิเดีย สารานุกรมเสรี บางส่วน ที่กล่าวถึงซาตาน ดังนี้.. ซาตานคือ ผู้ที่เป็นศัตรู ของพระเจ้าในคริสต์ เป็นตัวต้นตอของ ความชั่วร้ายปิศาจและความมืด คือมารร้าย ที่ล่อหลอกมนุษย์ ให้หลงผิด และการทำความชั่ว-เมื่อมาพูดถึงซาตาน คนทั่วไป มักจะนึกถึง ตัวประหลาด ที่มีเขา ๒ เขา หรือผีที่มี รูปร่างหน้าตา น่าเกลียดน่ากลัว แต่แท้จริงแล้ว พระคัมภีร์บอกว่า ซาตานนั้น เป็นทูตสวรรค์ชั้นสูง
มีรูปร่างงดงาม ฉลาด เป็นทูตสวรรค์ ที่สมบูรณ์แบบ เจ้าอยู่ในเอเดน พระอุทยานของพระเจ้า เพชรพลอยทุกอย่าง เป็นสื่อของเจ้าคือ ทับทิม บุษราคัมน้ำอ่อน เพชร เพทาย โกเมน และมณีโชติ ไพฑูรย์ มรกต และเบริล เพชรพลอยเหล่านี้ ฝังในทองคำ และลวดลายแกะสลัก ก็เป็นทองคำ สิ่งเหล่านั้น จัดเตรียมไว้ ในวันที่สร้างเจ้าขึ้นมา
พระเจ้าไม่ได้สร้างซาตาน พระองค์สร้างแต่ฑูตสวรรค์ ซาตานเกิดขึ้นจาก ความหยิ่งผยอง ของฑุตสวรรค์ ตนหนึ่ง ที่สมบูรณ์แบบ ที่คิดว่าตนเอง รูปร่างงดงาม มีตำแหน่งสูงกว่า บรรดาฑูตสวรรค ์องค์อื่นๆ และฉลาดที่สุด ดังนั้น ตนจึงสมควร ที่จะได้รับการยกย่อง ได้รับการนมัสการ แทนพระเจ้า -ความข้างต้นนี้ ทำให้เข้าใจกล่าวของคุณเคลลี่ ชัดเจนยิ่ง นั่นคือ รัฐบาลหุ่นเชิดและบริวาร เปรียบดั่ง ซาตาน ความมั่นคั่งร่ำรวย ยศ อำนาจ ความชาญฉลาดแกมโกง ทำให้หลงตน และหยิ่งผยอง เมื่อไร้ธรรมะ จึงใร้ศีลธรรม.. จึงใช้อำนาจ ในทางที่ผิด หรือใช้อำนาจในทางอธรรม ท้าทาย อำนาจแห่งสวรรค์
การต่อสู้ซาตาน ของพันธมิตรฯ มีเพียงสมองและสองมือ อาศัยความจริง ความอดทน มีธรรมะเป็นอาวุธ ขณะที่ซาตาน ผู้ทรงเกียรติ มากมีไปด้วยทุน -อำนาจรัฐ -บริวารอันธพาล และเลศเล่ห์สารพัด ขัดขืนอำนาจซาตาน ไม่ว่าจะเป็น การชุมนุมประท้วง ปิดถนน การเคลื่อนไปประท้วง ที่หน้าสถานที่ ทำการต่างๆ ล่าสุด การบุกเข้าไป ในทำเนียบฯ เหล่านี้ ภาษาวิชาการ เรียกว่า อารยะขัดขืน Civil Disobedience ความไม่เชื่อฟัง ในฐานะพลเมือง คือเป็นการละเมิดกฏหมาย เชิงสัญลักษณ์ หรือเป็นพิธีกรรม ผู้ปฏิบัติอารยะขัดขืนย่อมพร้อมที่จะถูกลงโทษตามกฏหมายและการลงโทษตามกฏหมาย และการลงโทษนี่แหละ ที่จะทำให้รัฐบาล เสียความชอบธรรม ในสังคม
เพราะผู้ปฏิบัติอารยะขัดขืน เชื่อว่ามีหลักการบางอย่าง ที่อยู่สูงกว่ากฏหมาย นั่นคือธรรมะ หรือศีลธรรม หรือความเป็นธรรม ในความเป็นมนุษย์ การปฏิบัติอารยะขัดขืน จึงต้องไม่ใช้ ความรุนแรง เพราะเป็นการต่อสู้ ทางศีลธรรม การใช้ความรุนแรง ย่อมทำให้สูญเสีย สถานะทางศีลธรรม
ข่าวนักรบศรีวิชัย บุกเอ็นบีที ๘๒ คน ถูกจับ พร้อมปืนมีดไม้ ๒๖ ส.ค. ทำให้พันธมิตรฯ เสียความชอบธรรม ในสังคมไปไม่น้อย รัฐบาลหุ่นเชิด ออกหมายจับ ๙ แกนนำ ในข้อหากบถทันที แต่ก็พลาด ที่รุกไล่ด้วยการใช้กำลังตำรวจ เข้าสลายการชุมนุมฯ ทุบตีทำร้าย มวลชนพันธมิตรฯ และทุบทำลายข้าวของ เกิดอำนาจที่ศาลให้ ๒๘ ส.ค. รัฐหุ่นเชิด จึงถูกประฌาม ไปทั่วทุกสารทิศ
ทั้งสองเหตุการณ์ และเหตุกาณ์ล่าสุด วันที่ 7 ตุลาคม ๒๕๕๑ เป็นสิ่งยืนยัน ชัดเจนว่า ใครใช้ความรุนแรงเมื่อใด ก็จะสูบเสีย สถานะทางศีลธรรม ทันที.. ทางรัฐบาลหุ่นเชิด และบริวาร จะต้องรับผิดชอบ การกระทำทั้งหมด โดยไม่มีเงื่อนไข.. นั้นคือเสียงร้อง จากประชาชน ชาวไทยทุกๆคน.. ในบางส่วนนั้น ยอมรับว่า ทั้ง อหิงสาและ อารยะขัดขืน พันธมิตรฯ ยังปฏิบัติได้ไม่ครบถ้วน ตามหลักการ ไม่ว่าจะเป็น การก่นด่า สาปแช่ง การใช้วัตถุสิ่งของ ตอบโต้ ทำร้ายอีกฝ่าย ฯลฯ ข้อบกพร่องเหล่านี้ ทำให้พันธมิตรฯ สูญเสียความชอบธรรม ในสังคมไปเหมือนกัน มีปัจจัยสองประการ ที่ทำให้เกิด ข้อบกพร่องนี้
หนึ่ง มวลชนพันธมิตรฯ มาจากการรวมตัวของ ความหลากหลาย ส่วนใหญ่ ก็ย่อมมีธรรมะ มากบ้างน้อยบ้าง คละกันไป
สอง ความสามานย์ ของซาตานหุ่นเชิด และบริวารนั้น ก็สุดๆ มารผนึกรวมตัว หลอกดิน ย่ำยีฟ้า เย้ยศาล ไร้สำนึก ละอายหน้าแข็ง ผิดซ้ำผิดซาก ตำรวจก็เป็นใจ ร่วมมือ ทำให้มวลชนพันธมิตรฯ บางส่วน ที่ด้อยธรรม สุดจะทน
การประกาศของนายกฯ สมัคร จะสลายการชุมนุมฯ เมื่อ ๓๑ พ.ค. พ่อท่านฯบอกสมณะ และชาวกองทัพธรรม หากตำรวจ มาสลาย การชุมนุมฯ ประนมมือสงบนิ่ง ถ้าตำรวจจะจับขึ้นรถ เพื่อนำไปคุมขัง ก็ให้ประนมมือ แล้วเดินขึ้นรถ ไปอย่างสงบ ซึ่งได้บอกเช่นนี้ มาตั้งแต่การชุมนุมฯ ปี ๒๕๔๙ แล้ว หลังประกาศจับ ๙ แกนนำ ในข้อหากบฏ ๒๗ ส.ค. พ่อท่านฯนำสมณะ ไปนั่งล้อมรอบแกนนำ ตลอดคืนยันรุ่ง และแนะสมณะ หากตำรวจ เข้ามาจับแกนนำ ให้สมณะประนมมือ สงบนิ่ง เป็นวิธีการขัดขืน อย่างสมณะ
การเข้าร่วมชุมนุมฯ ของพ่อท่านฯ และสมณะ เพื่อช่วยให้เกิด ความสงบ อหิงสา ให้มากที่สุด พ่อท่านฯเพียรบอก การเมืองกับศาสนา เป็นงานที่มีเป้าหมาย อย่างเดียวกัน ขจัดทุกข์ บำรุงสุข เพื่อประโยชน์สุข แก่ปวงชน เป็นงานเสียสละ เป็นงานที่ทำเพื่อ ช่วยเหลือผู้อื่น ไม่ใช่งาน ทำมาหากินเพื่อตน เพื่อครอบครัว เพื่อพรรค พร้อมกับบอกถึง หลักการประชาธิปไตย ที่แท้จริง ๑๐ ประการ ทั้งพิมพ์ หนังสือแจก แต่สังคมส่วนใหญ่ ยังไม่ได้รับรู้ ไม่ได้รับฟัง จึงยังเห็นว่าศาสนาไม่ควรมายุ่งกับการเมือง แม้ในมวลชน พันธมิตรฯเอง หลายส่วน ก็มีความเห็นเช่นนั้น เพราะทัศนะเดิมๆ การเมืองเป็นเรื่องของ การแย่งชิง อำนาจ และผลประโยชน์ พ่อท่านฯ และสมณะ จึงได้รับคำตำหนิ ด่าว่า มากกว่าคำสรรเสริญ
ศูนย์พิทักษ์ พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย และรายการ ความจริงวันนี้ เป็นหัวหอก ในการกล่าวโทษ จากข้อกล่าวหาเก่าๆ ปี ๒๕๓๒ ขุดขึ้นมา บอกเล่าใหม่ เพื่อทำลาย ความน่าเชื่อถือ ของกองทัพธรรมฯ ครั้งนั้น คณะเถรสมาคม ได้กล่าวโทษ แล้วตัดสิน พ่อท่านฯ และสมณะ โดยไม่เคยเรียก ไปสอบถาม -ทั้งตัดสินลับหลัง ไม่มีผู้ถูกกล่าวหาอยู่ด้วย ผิดหลัก สัมมุขาวินัย ผิดทั้งหลัก การพิจารณา คดีความโลกทั่วไป เป็นการใช้อำนาจ ที่มิชอบของเถรสมาคม ผิดทั้งหลักธรรมวินัย ละเมิดหลัก นานาสังวาส
-ผิดทั้งหลักกฏหมาย รัฐธรรมนูญ มาตรา๓๘ ที่บัญญัติว่า บุคคลย่อมมีเสรีภาพบริบูรณ์ ในการนับถือศาสนา นิกายศาสนา หรือลัทธินิยม ในทางศาสนา และย่อมมีเสรีภาพ ในการปฏิบัติ ศาสนาบัญญัติ หรือปฏิบัติตามพิธีกรรม ความเชื่อถือของตน เมื่อไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อ หน้าที่พลเมือง และไม่เป็นการขัดต่อ ความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดี ของประชาชน
ในการใช้เสรีภาพดังกล่าว ตามวรรคหนึ่ง บุคคลย่อมได้รับความคุ้มครอง มิให้รัฐกระทำการใดๆ อันเป็นการรอนสิทธิ หรือเสียประโยชน์ อันควรมีควรได้ เพราะเหตุที่นับถือศาสนา นิกายของศาสนา ลัทธินิกายของศาสนา ลัทธินิยม ในทางศาสนา หรือปฏิบัติตาม ศาสนาบัญญัติ ในการแสดงความเชื่อถือ แตกต่างจากบุคคลอื่น-( รัฐธรรมนูญ ๒๕๕๐ เป็นมาตรา ๓๗ )
ผิดทั้งหลัก ปฏิญญาสากล ว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ข้อที่ ๑๘ ที่ว่า บุคคลย่อมมีสิทธิเสรีภาพ แห่งความคิด มโนธรรม และศาสนา สิทธินี้ รวมถึง เสรีภาพที่จะเปลี่ยนศาสนา หรือความเชื่อถือ และเสรีภาพ ที่แสดงในศาสนา หรือความเชื่อถือ และเสรีภาพ ที่แสดง ในศาสนา หรือความเชื่อถือ และเสรีภาพที่แสดงในศาสนา หรือความเชื่อถือ ประจักษ์ในรูปของ การสั่งสอน การปฏิบัติศาสนกิจ ความเคารพ สักการะบูชา สวดมนต์ และการถือปฏิบัติพิธีกรรม ไม่ว่าโดยลำพังตนเอง หรือร่วมกับผู้อื่น ในประชาคม และในสาธารณะ หรือส่วนตัว เป็นการใช้ กฏหมายเล็ก พรบ.การปกครองคณะสงฆ์ ๒๕๐๕
ที่ขัดกับพระธรรมวินัย หลายมาตรา ข้ามผ่านหลักกฏหมายใหญ่ ทั้งรัฐธรรมนูญ และปฏิญญาสากล ว่าด้วยสิทธิมนุษยชน เมื่อผู้ใหญ่ ใช้อำนาจที่มิชอบ ความเป็นใหญ่ โดยธรรม ย่อมมลายหายไป จากหัวใจของ ผู้รักความเป็นธรรม ผู้น้อยที่เปี่ยมไม่ด้วยธรรม แม้จะถูกกระทำ ย่อมแปรเปลี่ยนร้าย เป็นดีได้ว่า เป็นโอกาสดี ที่จะได้บำเพ็ญบารมี มากขึ้น อาจต้องใช้เวลา อีกยาวนาน กว่าสังคมส่วนใหญ่ จะเข้าใจ และยอมรับ ต่ำสุดๆ.. อาจตลอดชีวิต ก็ยังไม่ได้รับ ความยอมรับ
ปราชญ์ ศาสดา หลายท่าน กว่าจะได้รับการยอมรับ จากสังคม ผ่านการถูกคุมขัง หลายท่านถูกทารุณกรรม หลายท่านถูกฆ่า ดังนั้น เสียงก่นด่า ความลำบาก จากการชุมนุมฯ จะ ๔ เดือนอยู่แล้ว ยังเป็นเพียง เศษเสี้ยวนิดน้อย เมื่อเทียบกับ จอมปราชญ์ ไม่คาดคิด มาก่อนว่า หนทางสู่ฝั่งพระนิพพาน จะต้องฝ่าด่าน การเมืองสามานย์เช่นนี้ ยังมองไม่ออกว่า จุดสุดท้าย ของการฝ่าด่าน การเมืองสามานย์นี้ จะเป็นอย่างไร การเมืองใหม่ จะเป็นอย่างไร จะใช้เวลา อีกนานเท่าไร แต่นับจากนี้ไป เหนื่อยแน่ หนักแน่ หนักแน่ ยิ่งถ้ามองจาก สิ่งที่พ่อท่านฯ เคยกล่าว
คู่ต่อสู้ที่แท้จริง คือทุนนิยม การเมืองสามานย์ ในวันนี้ จึงเป็นเพียงทางผ่าน พระโพธิสัตว์ ที่จะเพิ่มระดับ ย่อมจะต้องผ่านโจทย์ ที่ยากขึ้นเรื่อยๆ สานุศิษย์ก็ย่อมเผชิญ โจทย์ที่ยากขึ้นๆตาม เตรียมตัวเตรียมใจ ไว้ได้เลย เพราะทุนนิยมสามานย์ มีอยู่เต็มโลก
-จากกข่าวอโศกรายปักษ์ -