|
เกร็ดความรู้ จาก แกลบดิน ฟางข้าว และถั่วงา คุณสมบัติของแกลบดิบ มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับฟาง ข้อเสียของแกลบดิบ มีธาตุชิส์กอนที่ยังไม่ย่อยสลาย ซึ่งจะเป็นตัวดึงก๊าซออกซิเจนและไนโตรเจน ที่มีอยู่ในอากาศไปใช้ในการย่อยสลาย ซึ่งก็คือการแย่งอาหารจากต้นพืชผักของเรานั่นเอง คุณสมบัติของแกลบเผา ๑. มีแร่ธาตุโปตัสเซียมและแคลเซียม ๒. มีรูมากมายซึ่งจะเป็นที่อยู่อาศัยของจุลินทรีย์ ๓. ทำให้คลุมดินหรือนำไปผสมกับอินทรีย์วัตถุอย่างอื่น ช่วยลดความร้อนที่เกิดขึ้นเนื่องจากผ่านการย่อยสลาย ๔. ช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้แก่หน้าดิน ประโยชน์ของฟางข้าว ๑. เป็นหัวปุ๋ยชั้นดี ๒. ช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ดิน ๓. ปรับโครงสร้างของดินที่เป็นกรด-ด่าง ให้มีความสมดุลลงตัวพอดี ๔. เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ต่างๆ เช่น ไส้เดือน แมลง และจุลินทรีย์ ๕. เมื่อนำไปคลุมดิน ทำให้ดินร่วนซุย โดยไม่ต้องพรวนดิน ๖. เมื่อนำไปคลุมดิน วัชพืชหรือหญ้าต่างๆจะไม่เกิดขึ้น ๗. ทำให้เกิดเห็ดฟางตามธรรมชาติ ประโยชน์ของพืชตระกูลถั่ว ๑. ให้แร่ธาตุไนโตรเจน ซึ่งช่วยส่งเสรมการเจริญเติบโตของใบและลำต้น ๒. ให้ร่มเงาแก่พืชชนิดอื่น ๓. ช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของแมลงและหนอนในพืชผักเป็นอย่างดี ๔. เป็นอาหารชั้นดีของมนุษย์ ประโยชน์ของงา ๑. ให้แร่ธาตุโปแตสเซียมและแคลเซียม ๒. ใบ-ลำต้น และผล เมื่อย่อยสลายเป็นปุ๋ยแล้ว ช่วยป้องกันโรคใบด่าง-ใบหงิกงอ ๓. มีแคลเซียมมากกว่าผักทุกชนิด ๔๐ เท่า ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ๔. มีวิตามิน E ทำให้แก่ช้า, มีธาตุเหล็กช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงและวิตามินตัวอื่นอีกมากมาย ปุ๋ยเคมี เป็นปุ๋ยที่ละลายน้ำได้ดี และพืชสามารถนำไปใช้ได้ทันที แต่ปุ๋ยเคมีสามารถให้สารที่พืชต้องการได้จำกัดเพียง ๓ ตัว คือ ไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรัส (P) โปแตสเซียม (K) จุดอ่อนของปุ๋ยเคมี จะส่งผลให้สัตว์เล็กๆที่อยู่ในดินตาย ระยะเวลาที่ปุ๋ยเคมีจะมีคุณค่าต่อพืชผักค่อนข้างสั้น
ปุ๋ยเคมี ๔ ส่วนที่เราหว่านลงไปในดิน พืชผักจะมีโอกาสได้รับแร่ธาตุเพียง
๑ ส่วน อีก ๓ ส่วน จะกลายเป็นสารพิษตกค้างอยู่ในดิน ผลที่ตามมาคือ ดินจะเป็นกรดแข็ง
ปลูกพืชอะไรก็จะไม่เจริญเติบโต |
|