ภิกษุณีเมืองไทย ควร...ไม่ควร อย่างไร?

             contact me: sudinc@yahoo.com

      ประจำเดือน มิถุนายน 2545

หนังสือพิมพ์ เราคิดอะไร ฉบับที่ 131 เดือน มิถุนายน 2544

ใครๆ ก็รักศาสนา ถ้าทุกๆ ฝ่ายต่างเข้าใจความรักศาสนาของกันและกันได้ แม้จะมีมุมมอง และเหตุผลที่แตกต่างกันออก ไป แต่รักย่อมเข่าใจในรัก โดยเฉพาะความรักในพุทธ ซึ่งสะอาดบริสุทธิ์กว่าความรักทั่วๆไป แม้จะมีความเชื่อมั่นที่แตกต่างกัน ก็ย่อมจะไม่มีปัญหาอะไร คงมีแต่ปัญญาที่จะพยายามเข้าใจ ซึ่งกันและกันให้ได้ยิ่งๆ ขึ้นไปเท่านั้น

เพราะปราชญ์ย่อมเห็นความผิดของคนผิดว่าถูกแล้ว ส่วนคนโง่ย่อมเห็นความถูกของคนถูกว่าผิดอยู่

เรื่องของภิกษุณีในเมืองไทย นับว่าเป็นกรณีศึกษานานาเหตุผลจากปราชญ์หลายๆ ฝ่ายด้วยกัน ซึ่งน่าจะได้บันทึกไว ้เป็นข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษากันต่อไป


สามเณรี ธัมมนันทา ภิกษุณีมีการสืบสายกันมาแต่พุทธกาล

สามเณรีฉัตรสุมาลย์ กบิลสิงห์ ได้อธิบายให้ฟังว่า "สำหรับการบวชของอาตมาเอง ที่มีการยืนยันว่า ต้องบวชจากคณะสงฆ์ ๒ ฝ่าย จึง ทำให้ต้องไปบวชที่ศรีลังกา ซึ่งบวช โดยภิกษุณีสงฆ์ของศรีลังกา และภิกษุสงฆ์ในฝ่ายสยามนิกาย ก็นับว่าถูกต้องตามพระวินัยบัญญัติ ที่บวชโดยสงฆ์ ๒ ฝ่ายแล้ว ทีนี้เงื่อนไขขัดแย้งที่คิดกันว่า คณะภิกษุณีสงฆ์ในศรีลังกาหมดสายไปนานแล้ว

ราว พ.ศ.๙๐๐ กว่า คณะภิกษุณีสงฆ์ที่ศรีลังกา ได้ไปบวชให้ผู้หญิงจีนที่เมืองนานกิง วัดป่าใต้ เป็นการสืบทอดการบวช ภิกษุณีสงฆ์ จากศรีลังกาไปประเทศจีน

ราวปี พ.ศ.๑๕๐๐ กว่า ฝ่ายภิกษุณีสงฆ์ สูญหายไปจากศรีลังกา เพราะการรุกรานของกษัตริย์ฮินดูจากอินเดียใต้ บัดนี้ คณะภิกษุณีสงฆ์จากฝ่ายศรีลังกา ก็ไปรับการบวชมาจากภิกษุณีสงฆ์จากไต้หวัน ซึ่งเป็นสายจีนที่บวชจากศรีลังกานั่นเอง สายการบวชสายนี้ จึงนับว่าเป็นสายเดียวกันโดยปริยาย

เพราะฉะนั้นการบวชจากพระภิกษุ และพระภิกษุณีสงฆ์ในศรีลังกา จึงนับว่าใกล้เคียงกับพุทธบัญญัติมากที่สุด เท่าที่สังคมปัจจุบัน จะเปิดโอกาสให้ "ผู้หญิง" บวชได้

สามเณรีดีกรีดอกเตอร์ กล่าวถึงกระแสการไม่ยอมรับ ของกรมการศาสนา และวงการสงฆ์ที่ตามมา หลังจากการเปิดใจให้สัมภาษณ์ว่า ตนพร้อมที่จะรอฟังคำตัดสินใจ ของทางมหาเถรสมาคม แต่ปัญหาของมหาเถรสมาคมในขณะนี้คือ การไม่ได้ศึกษา ค้นคว้า และรู้ถึงประวัติศาสตร์ ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ต่อการกำเนิดภิกษุณีอย่างแท้จริง จึงได้เชื่อว่าภิกษุณีได้ดับสูญ หมดไปจากพุทธศาสนาแล้ว

สามเณรีธัมมนันทากล่าวต่อว่า พร้อมที่จะเอาใบปริญญาที่เรียนมา เป็นเครื่องรองรับและการันตีว่า ถ้าหากไม่ได้ศึกษามาอย่างดี คงไม่ตัดสินใจบวชอย่างผู้ที่ไม่รู้แน่นอน "ปริญญาของอาตมาที่ได้มา ไม่ใช่แค่ปริญญาทางโลกเท่านั้น เพราะสิ่งที่อาตมาเรียน และประสบการณ์ในชีวิตการสอน ต่างๆ สามารถบอกได้ว่า อาตมาได้ทำการศึกษาอย่างลึกซึ้ง ทั้งในประวัติพระพุทธศาสนา ถึงแม้จะ ไม่ได้เป็นพระก็จริง แต่ในส่วนของพระธรรมวินัย ก็เรียนรู้โดยละเอียด

ในชีวิตสอนพุทธศาสนศึกษา สอนพระเปรียญ ๙ ประโยค ทำวิทยานิพนธ์ทั้งปริญญาโทและเอก เรื่องภิกษุณี และเขียน หนังสือธรรมะ เป็นภาษาอังกฤษขายในตลาดต่างประเทศ คุณสมบัติตรงนี้น่าจะทำให้อาตมา ไม่ได้รู้เรื่องเรื่องการบวชภิกษุณีเพียงแค่ตื้นๆ หรือเพียงแค่นึกอยากจะทำก็ทำเพียงอย่างเดียว โดย ไม่สนใจแนวทางพระพุทธเจ้าแน่"

ธัมมนันทากล่าวทิ้งท้ายว่า ตนล่วงรู้ถึงความเป็นตัวเองว่า มีความพร้อมต่อการบวช เพื่อเป็นภิกษุณีมากน้อยแค่ไหน หากไม่แน่ใจจริงและไม่พร้อม คงไม่อาจหาญกล้าพลิกชีวิตบวชอย่างเด็ดขาด

"ผู้หญิงเราถ้าจะลุกขึ้นมาเล่นเรื่องนี้จริงๆ อย่างอาตมา ก็ต้องแม่นในพระคัมภีร์ด้วย ไม่ใช่แค่บอกว่า เถรวาทไม่มีภิกษุณีแล้ว ถ้าไปเปิดดูในพระไตรปิฎกดู ก็จะรู้ว่าผู้หญิงก็สามารถสืบทอดพระศาสนาได้ ฉะนั้นการไม่ยอมรับผู้หญิงบวช คงต้องถือว่า เป็นเรื่องที่ขัดแย้งกับพระธรรมวินัย ขัดแย้งกับกฎหมายรัฐธรรมนูญ และขัดต่อพระพุทธศาสนาแน่

(จาก เอ็กซ์-ไซท์ ไทยโพสต์ พ.ค.๒๕๔๔)


พระเทพดิลก (มหาระแบบ) การบรรลุธรรมไม่จำเป็นต้องบวช

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับปัญหาเรื่องภิกษุณี พระเทพดิลกกล่าวว่า ทางสงฆ์ไทยไม่คัดค้านผู้หญิง ที่เดินทางไปบวช สามเณรีหรือ ภิกษุณี จากต่างประเทศแล้วกลับมาเมืองไทย แต่ทางสงฆ์ไทยไม่มีหน้าที่ดูแลผู้หญิง ที่บวชมาจากต่างประเทศ คนเหล่านี้ต้องให้อยู่ในความดูแล ของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งก็ต้องแล้วแต่กระทรวงมหาดไทยว่า จะให้อยู่ในฐานะอะไร มีทั้งนักบวช นักพรต ยกตัวอย่าง ถ้าเป็นพระพม่าเข้ามาอยู่ในประเทศไทย ต้องเป็นเรื่องของกระทรวงมหาดไทยดูแล

"แต่ประเด็นที่อยากให้ประชาชนได้ทราบและเข้าใจ คือ ไม่ใช่ว่าพระสงฆ์ไม่ยอมบวชให้สามเณรี หรือภิกษุณี แต่พระไม่มี สิทธิที่จะบวชให้คนเหล่านี้ ทางออกในเรื่องนี้จึงไม่มี เพราะพระธรรมกำหนดไว้เช่นนั้น ส่วนเรื่องของพระธัมมนันทา หรือสามเณรี ฉัตรสุมาลย์ กบิลสิงห์ นั้นเขาสร้างกันขึ้นมาเองไม่ใช่ทางออก มีวัตถุประสงค์แค่มาแก้แค้นแทนแม่ ตอนรุ่นแม่ ก็ป่วนศาสนามาตลอด ถ้านางฉัตรสุมาลย์รู้เรื่องการปฏิบัติธรรมให้บรรลุ ไม่จำเป็นต้องบวช ทุกคนมีสิทธิ์ปฏิบัติธรรมได้เหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องมีรูปแบบ แค่จิตใจอยู่ในศีล สมาธิ ปัญญา ก็จบแล้ว ทำไมจะต้องบวช ในเมื่อทำไม่ได้ ทำไมต้องมาบังคับพระด้วย เท่าที่นางฉัตรสุมาลย์ออกมาตั้งแต่ต้น ต้องการมาป่วน บ้านเมือง หาเรื่องด่าพระ" พระเทพดิลกกล่าว

(มติชน ๑๗ พ.ค. ๒๕๔๔)


พระศรีปริยัติโมลี การบวชทำให้ง่ายในการบรรลุธรรม

พระศรีปริยัติโมลี รองอธิการบดีฝ่ายต่างประเทศ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) ให้สัมภาษณ์เรื่อง ภิกษุณีในเมืองไทย หลังการบรรยายว่า โดยหลักการแล้ว พุทธศาสนาเป็นศาสนาที่ส่งเสริมการบวช ถือว่าเป็นวิธีที่ง่ายต่อการให้บรรลุธรรม และกำจัดกิเลส และพุทธศาสนาส่งเสริมให้คนบวช ทั้งผู้ชาย-ผู้หญิง เพราะบวชแล้วได้บุญ ถ้ามีผู้หญิงอยากบวชถือเป็นเรื่องดี ดีกว่าผู้หญิงไปประกวดนางสาวไทย ไปประกวดขาอ่อนที่เป็นเรื่องของราคะ

พระศรีปริยัติโมลี กล่าวอีกว่า ทำอย่างไร จะให้ผู้หญิงบวชได้ในนิกายเถรวาท ตนเห็นมี ๒ ประเด็นคือ มส. จะต้องประชุมผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องของภิกษุณี และศึกษามาให้ได้ ว่าข้อห้าม ที่ให้ผู้หญิงต้องบวชจากผู้หญิง พระสงฆ์ไทยจะเอาอย่างไร ระหว่าง หลักการของพระธรรมวินัย กับประโยชน์ที่จะให้ผู้หญิงบวช อาจต้องยอมได้อย่างเสียอย่าง อันนี้คณะสงฆ์ต้องเชื่อมั่นมาก และตัดสินไปเลย มีพระพุทธพจน์ เปิดช่องไว้แล้ว ถ้าภิกษุสงฆ์อยากแก้สิกขาบทก็แก้ได้ แต่สมัยนั้นท่านไม่แก้ สมัยนี้โลกเปลี่ยนไป แล้วพัฒนาไปแล้ว คณะสงฆ์ต้อง กล้าตัดสิน ถ้าไม่มีก็ต้องหาทางออกให้ผู้หญิง อย่าให้เขาไปหาเอง และถ้าผู้หญิงที่เขาอยากบวช มีเพิ่มขึ้น ถ้าใหญ่โตขึ้นมา จะเป็นปัญหายาว และผู้หญิงเอง อาจมีอคติต่อพระสงฆ์

(มติชน ๑๔ พ.ค. ๒๕๔๔)

\n"; print "\n"; print "$Title\n"; print "\n"; print "\n"; print "\n"; print "\n"; print "

\n"; print "

\n"; mysql_free_result($result); MYSQL_CLOSE(); ?> \n"; print "\n"; print "\n"; print "\n"; print "\n"; print "
 แสดงความคิดเห็น:
\n"; print "
$Note
\n"; print " โดย:\n"; print " $Name\n"; print "ICQ: $ICQ วันที่: $Day\n"; print "\n"; print "
\n"; print "
\n"; print "
\n"; print "
\n"; } } else { print "

"; } mysql_free_result($result); MYSQL_CLOSE(); ?> \n"; print "

\n"; print "\n"; print "\n"; print "\n"; print "\n"; print "\n"; print "\n"; print "\n"; print "
ร่วมด้วย ช่วยกัน เสนอความคิดเห็น
\n"; print "\n"; print "\n"; print "\n"; print " \n"; print "\n"; print "\n"; print "\n"; print " \n"; print "\n"; print "\n"; print "\n"; print " \n"; print "\n"; print "\n"; print "\n"; print " \n"; print "\n"; print "\n"; print "\n"; print " \n"; print "\n"; print "\n"; print "\n"; print " \n"; print "\n"; print "\n"; print "\n"; print "\n"; print "\n"; print "\n"; print "\n"; print "\n"; print "
\n"; print "
คำนี้ กำลังใจให้คุณ: 
\n"; print "
\n"; print "\n"; print "
\n"; print "
ชื่อผู้ตอบ: 
\n"; print "
\n"; print "\n"; print "
\n"; print "
E-Mail: 
\n"; print "
\n"; print "\n"; print "
\n"; print "
ICQ UIN: 
\n"; print "
\n"; print "\n"; print "
\n"; print "
ตอบ เสนอแนะ: 
\n"; print "
\n"; print "\n"; print "
  \n"; print "\n"; print "\n"; print "
\n"; print "
\n"; print "
 กรุณาคลิกปุ่มส่งคำถาม เพียงครั้งเดียว

 

\n"; print "
\n"; print "
\n"; print ""; ?>