นับเป็นการถืออุบัติขึ้นในวันที่ ๗ สิงหาคม
๒๕๑๙ จากนั้นจึงเกิด "มูลนิธิธรรมสันติ" ขึ้นในปีถัดมาคือ พ.ศ.
๒๕๒๐ หลังจากนั้น ก็เกิดองค์กร ตลอดจนกิจการต่างๆ ดังที่เป็นอยู่
ทุกวันนี้ |
|
|
เรือนทรงไทย
เดิมที่เคยใช้เป็น สถานที่ทำกิจการงาน ของมูลนิธิธรรมสันติ
ได้ถูกรื้อถอนออก เพื่อสร้างศาลาพระวิหาร
|
|
ทุกอย่างย่อมมีการเสื่อมไปตามสภาพธรรม
เรือนทรงไทยหลังนี้ ได้รับการใช้ประโยชน์ อย่างมากมาย เพื่อมวลมนุษยชาติมานาน
จนกระทั่งชำรุดทรุดโทรม ต่อมาเมื่อคุณตะวัน สิริวรวิทย์ ได้มาสำรวจจึงพบว่า
เสาเรือนเกือบทุกต้นมีปลวกกัดกิน จนกร่อน น่ากลัวว่าจะพังลงมา
จึงได้มีการประชุมตกลงกัน เพื่อรื้อถอน และสร้างพระวิหารหลังใหม่ขึ้นมาแทนที่
เรือนทรงไทยหลังนี้ จึงถูกรื้อถอนออกไปทั้งหลัง ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์
พ.ศ. ๒๕๓๖ และทำการก่อสร้าง "พระวิหารพันปีเจดีย์บรมสารีริกธาตุ"
ซึ่งออกแบบโดย คุณอภิสิน สิวยาธร และกำลังก่อสร้างอยู่ทุกวันนี้
โดยพ่อท่านได้กำหนดประเด็นอัน |
เป็นเป้าหมายสำคัญในการ ก่อสร้างพระวิหารไว้
๓ ประการ คือ
๑. ให้เกิดความสัมพันธ์กับธรรมชาติและศิลปะ
๒. เป็นอาคารใช้สอยที่เนื่องเกี่ยวกับทางด้านศาสนาให้มาก
๓. ให้มีผลกระทบทางจิตวิญญาณ |
|
|
ส่วนยอด ของพระวิหารพันปี
|
พ่อท่านทำพิธีบรรจุ พระบรมสารีริกธาตุ
|
|
ในปี ๒๕๓๙ เป็นปีที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่
๙ ทรงครองสิริราชสมบัติเป็นปีที่๕๐ สมณะโพธิรักษ์และชาวอโศก จึงได้ถือเอาพระวิหารฯ
อันเป็นที่เคารพสักการะบูชาสูงสุดนี้ เป็นราชสักการะแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
โดยเมื่อวันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๓๙ ซึ่งตรงกับ วันวิสาขบูชา สมณะโพธิรักษ์ได้นำพาหมู่สงฆ์
สิกขมาตุและญาติธรรม กระทำพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ขึ้นประดิษฐานไว้ในพระเจดีย์ทองคำ
พร้อมทั้งพระพุทธรูปปางต่างๆ หลายสมัยรวม ๑๐ องค์ แล้วอัญเชิญเจดีย์ทองคำ
ขึ้นสู่ยอดโดมสูงสุดของพระวิหารฯเพื่อเตรียมเฉลิมฉลอง และในวันที่
๙ มิถุนายน ๒๕๓๙ อันเป็น "วันกาญจนาภิเษก" พ่อท่านก็พาหมู่กลุ่มประกอบพิธี
มีการทำวัตรเช้า การแสดงธรรมก่อนฉัน และกิจกรรมภาคบ่าย ส่วนญาติธรรมก็ได้ร่วมใจกันเปิด
'โรงบุญมังสวิรัติ' หลายร้านตลอดแนวถนน เพื่อเฉลิมฉลองวาระอันเป็นมิ่งมหามงคลครั้งนี้ด้วย
"พุทธสถานสันติอโศก" จึงเป็นที่ประดิษฐานของสิ่งสักการะบูชาอันสูงสุด
เป็นส่วนน้อมนำให้เกิดจิตศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา อันเป็นเส้นทางแห่งโลกุตระทั้งแก่ชาวอโศก
และผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลายตลอดจนผู้เข้ามาเยี่ยมเยือน ดังที่ผู้ถวายที่ดินแปลงนี้
ซึ่งได้จากไปเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๐ ได้เกิดจิตศรัทธาเลื่อมใสอย่างมั่นคงตราบชีวิตหาไม่.
|