๔. ร่วมกันสู้ หน้า ๔๙ - ๕๔

ฉลาดอดข้าว

การคัดค้านพลเอกสุจินดา เป็นนายกฯ เริ่มมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

เช้าตรู่ของวันที่ ๘ เมษายน เรืออากาศตรีฉลาด วรฉัตร อดีตส.ส. ได้ เริ่มอดข้าวประท้วง บริเวณตรงข้ามรัฐสภา ติดกับสวนสัตว์เขาดิน มีป้ายสีดำ แขวนข้อความว่า "ข้าขอพลีชีพเพื่อประชาธิปไตย นายกรัฐมนตรี ต้องมาจากการเลือกตั้ง"

ซึ่งก่อนหน้านี้ เรืออากาศตรีฉลาด วรฉัตร ได้ทำการเรียกร้อง ในประเด็นดังกล่าวมาก่อน แต่ไม่เป็นผล เขาเปิดเผยว่า "ผมรู้สึกสบายใจมาก หากจะตายในครั้งนี้ เพื่อให้ชาวโลกรู้ว่า เมืองไทยก็ยังมีนักต่อสู้ ที่ไม่ได้มีอะไร เคลือบแฝงใดๆ และผมไม่ได้สังกัด พรรคการเมือง… ผมเรียกร้องให้ประชาชน ลุกขึ้นมาต่อสู้รอบด้าน และอยากจะเน้น ให้พรรคการเมือง ที่เคยประกาศว่า นายกรัฐมนตรี ต้องมาจากการเลือกตั้ง ให้มาเคลื่อนไหว อย่างจริงจัง" เป็นที่สนใจของผู้คน ที่ผ่านไปมา และมีป้ายคัดค้าน ไปติดเพิ่ม มากขึ้นเรื่อยๆ

ครูประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ ครูรางวัลแมกไซไซ ได้แวะเยี่ยม เรืออากาศตรีฉลาด และเห็นด้วยอย่างยิ่ง ที่จะต้องร่วมกัน คัดค้านอย่างเต็มที่

เวลาประมาณเก้าโมง ครป. ประกอบด้วย นักวิชาการ ตัวแทนองค์กรเอกชน และนักศึกษา จำนวนประมาณ ๕๐ คน ได้เดินทางไปรวมตัว หน้าพระบรมรูปทรงม้า และเคลื่อนขบวนไปยัง หอประชุมกองทัพบก เพื่อยื่นจดหมาย คัดค้าน การเข้ารับตำแหน่ง ของ พลเอกสุจินดา คราประยูร และให้ลาออก

ครูประทีปตัวแทนผู้คัดค้านคนหนึ่ง ได้พยายาม เข้าไปยื่นจดหมายต่อ พลเอกสุจินดา คราประยูร ในหอประชุม กองทัพบก แต่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาการณ์ ประมาณ ๓๐ นาย ห้ามไว้ โดยได้นำแผงเหล็กมากั้น

พรรคประชาธิปัตย์ ออกแถลงการณ์เรียกร้อง ให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงบทบาทที่แท้จริง ของตนเอง ในการเสนอบุคคล เป็นนายกรัฐมนตรี

พรรคพลังธรรม ได้ประชุมกัน มีมติให้ ส.ส.พรรคพลังธรรม แต่งชุดดำไว้ทุกข์ ให้กับนายกฯ ที่ไม่ได้มาจาก การเลือกตั้ง โดยแต่งชุดดำทุกครั้ง ที่ไปสภา พร้อมกับ ทำเครื่องหมายคัดค้าน ติดที่อกเสื้อว่า "เสียชีพอย่าเสียสัตย์" ออกเผยแพร่ แก่บุคคลทั่วไป

พรรคความหวังใหม่ และ พรรคประชาธิปัตย์ ตกลงไว้ทุกข์

คุณจรัส พั้วช่วย ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังธรรม ได้แต่งชุดสูทสีดำ พร้อมกับใช้ถุงพลาสติกสีดำ คลุมหน้า เดินประท้วงไปมา หน้ารัฐสภา และที่ หน้าอกด้านซ้าย มีกระดาษ เขียนข้อความว่า "อาย" ติดอยู่ เพื่อประท้วง ให้คนนอก ที่มารับตำแหน่งนายกฯ เกิดความละอายใจ

ที่สหรัฐอเมริกา นายอนุสรณ์ ธรรมใจ ผู้ประสานงาน สหพันธ์นักศึกษาไทย ในสหรัฐอเมริกา แถลงว่า สหพันธ์นักศึกษา ได้ร่วมมือกับ สมาคมคนไทย ในรัฐวอชิงตัน แมรี่แลนด์ และ เวอร์จิเนีย ออกแบบสอบถาม ถึงความต้องการ ของคนไทย เกี่ยวกับนายกฯ และครม. ที่คนไทยต้องการ และคาดว่า จะสรุปผล ในกลุ่มคนไทย ที่อยู่ในสหรัฐ ได้ภายในวันที่ ๑๑ เมษายน

และในวันที่ ๑๖ เมษายน สหพันธ์นักศึกษา จะยื่นหนังสือถึงสถานทูตไทย ในวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อเรียกร้อง ให้นายกฯ ที่ไม่ได้มาจาก การเลือกตั้ง ลาออก พร้อมกันนั้น นักศึกษาไทยจาก บอสตัน และ นิวยอร์ค จะนำหรีดดำ ไปมอบให้รัฐบาล รสช. โดยมอบผ่านสถานทูต พร้อมทั้งปิดข้อความ ไว้อาลัยที่ สถานทูตด้วย

ทางด้านฝ่ายสนับสนุน มีกิจกรรมหลายแห่ง ในวันเดียวกันนั้น เช่นที่ จังหวัดเพชรบุรี และลำปาง มีการเกณฑ์ผู้คนไปชุมนุมกัน ที่หน้าศาลากลางจังหวัด สนับสนุนพลเอกสุจินดา เป็นนายกฯ โดยที่จังหวัดเพชรบุรี มีประมาณ ๖๐๐ คน และลำปาง มีประมาณ ๑,๐๐๐ คน

ช่วงเช้าของวันที่ ๙ เมษายน พรรคพลังธรรม ได้แถลงข่าวที่รัฐสภา คัดค้านนายกฯ ที่ไม่ได้มาจาก การเลือกตั้ง สรุปได้ว่า พรรคจะต่อสู้ ทั้งในและนอกสภา เพื่อให้นายกรัฐมตรี มาจากการเลือกตั้ง พรรครู้สึกผิดหวัง เช่นเดียวกับประชาชน ที่พรรคการเมืองบางพรรค สนับสนุนคนนอก เป็นนายกรัฐมนตรี

ในตอนเย็นของวันที่ ๙ เมษายนนั้น พรรคพลังธรรม ได้ปราศรัยพร้อมๆ กัน ๙ แห่ง เป็นการหาเสียง เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และรณรงค์ คัดค้านคนนอก เป็นนายกฯด้วย

วันเดียวกันนั้น เวลาประมาณสี่โมงเย็น ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน กลุ่มนักศึกษา ประมาณ ๒๐ คน นำโดย เลขาธิการสหพันธ์นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย ได้วางหรีดดำ เพื่อไว้อาลัยต่อประชาธิปไตย หรีดดังกล่าว ทำด้วยกระดาษ เป็นรูป พลเอกสุจินดา คราประยูร พร้อมข้อความว่า "ขอไว้อาลัยแด่ประชาธิปไตย นายกรัฐมนตรี ที่มาจากผู้ทำรัฐประหาร คือ เผด็จการปกครองเมือง"

อาจารย์สุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดี มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้แถลงว่า นักวิชาการ ได้พร้อมแล้ว ที่จะออกแถลงการณ์ ให้ประชาชนทราบว่า การเข้ารับตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ของพลเอกสุจินดา ไม่ถูกต้องอย่างไร

วันที่ ๑๑ เมษายน คณะกรรมการรณรงค์ เพื่อประชาธิปไตยโดย นายวิทิต มันตราภรณ์ ได้ออกมาเรียกร้อง ให้ประชาชนสวมชุดดำ ไปยืนที่หน้ารัฐสภา ในวันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๓๕

พร้อมทั้งได้ออกแถลงการณ์ฉบับหนึ่ง เรียกร้องให้ "ทุกส่วนของสังคม ร่วมคัดค้าน การรัฐประหารซ้ำ ในวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๓๕" และเรียกร้องให้ ส.ส.ทำหน้าที่ อย่างมีศักดิ์ศรี เพื่อให้ระบอบประชาธิปไตย ปลอดจาก การแทรกแซง ของอำนาจ นอกระบบโดยเร็ว

รวมทั้งให้ พลเอกสุจินดา คราประยูร ใช้ดุลยพินิจ คืนอำนาจให้แก่ประชาชน และผู้แทนของประชาชน โดยเห็นแก่ ความสามัคคี และประโยชน์ ของส่วนรวม

ในตอนบ่าย ครป. ร่วมกับองค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้จัดอภิปราย ในหัวข้อเรื่อง "นายกฯ คนนอก : วิกฤตการณ์ การเมืองไทย"

ผมได้ไปเยี่ยม เรืออากาศตรีฉลาด วันที่ ๑๒ เมษายน เรืออากาศตรี ฉลาดได้แนะนำผมว่า ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้ง ควรจะแสดงจุดยืน ในการรักษา ระบอบประชาธิปไตย โดยการไม่เข้าร่วมประชุมสภา ทุกนัด ที่มีพลเอก สุจินดา คราประยูร เข้าร่วมประชุม หรือถ้าพลเอกสุจินดา คราประยูร เข้าร่วมประชุม ก็ให้เดินออกจาก ห้องประชุมทันที เพื่อเป็นการประท้วง ตนเชื่อว่า พลังเงียบ ที่เป็นพลังประชาธิปไตย พร้อมแล้วทุกจุด ขาดแต่ผู้นำ และ เรืออากาศตรี ฉลาด ยังกล่าวว่า ทางมหาดไทย พยายามเกลี้ยกล่อม ญาติมิตร พ่อแม่ ของตนที่ตราด เพื่อให้ตน เลิกอดข้าวประท้วง แต่การกระทำดังกล่าว จะไม่ได้ผล เพราะการเสียชีวิตของตน เพื่อเปลี่ยนสำนึกทางการเมือง ของประชาชนชาวไทย ได้ก็คุ้ม

นางสาวจิตราวดี วรฉัตร ลูกสาวเรืออากาศตรี ฉลาด วรฉัตร ประกาศจะสานต่อ เจตนารมณ์ของพ่อ ทันที ถ้าพ่อเป็นอะไรไป

เรืออากาศตรีฉลาด ได้ฝากฝัง ให้ผมดูแลลูกสาวด้วย หากต้องเสียชีวิต เพราะการอดข้าวครั้งนี้ ผมรับปาก จะช่วยดูแลให้ แต่ผมไม่เห็นด้วย ที่จะให้ ส.ส.ฝ่ายค้าน ลาออกทั้งหมด

อาจารย์พรศักดิ์ ผ่องแผ้ว แห่งคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า แม้ว่าการออก แถลงการณ์ ของกลุ่มนักวิชาการ จะไม่มีผลมากนัก แต่ก็เป็นมาตรการคัดค้านวิธีหนึ่ง และคงจะออกมาเรื่อยๆ เป็นระยะๆ เช่น การผูกเนคไทสีดำ เข้าห้องสอนนักศึกษา ทั้งนี้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ ถึงความรู้สึกร่วมกัน ของประชาชน และมาตรการสุดท้าย คือ การเรียกร้องให้ พลเอกสุจินดา คราประยูร ลาออกจากนายกรัฐมนตรี โดยจะเริ่มจาก ๒ ขั้น ตอน คือ

๑.การตำหนิ ๕ พรรคการเมือง ที่ไม่มีอุดมการณ์ และ
๒.ผลักดันให้ พลเอกสุจินดา คราประยูร ลาออก

หกโมงเย็น นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ อดีตที่ปรึกษา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาเยี่ยม เรืออากาศตรี ฉลาด วรฉัตร เพื่อขอร้อง ให้เลิกอดอาหาร

เรืออากาศตรีฉลาด กล่าวว่า จะอดข้าวต่อไป ไม่กลัวอันตราย และ อยากให้เกิดอันตรายมากๆ เพราะถ้าตนตาย เมื่อใด คนจะยอมรับ พร้อมทั้ง แถลงว่า "ผมทำเช่นนี้ ต้องการเรียกร้อง ให้คนเพียงไม่กี่คน ที่จะทำให้เกิด การนองเลือด กลับเข้ากองทัพ หากมีการผูกขาดอำนาจ เป็นวงศ์ตระกูล เหมือนสมัย จอมพลถนอม กิตติขจร มีนายกฯ ที่เป็นคนของทหาร ส.ส.คือ สมุนรับใช้ ถูกอิทธิพลมืดครอบงำ ใช้อำนาจมืด แบบนักเลง คุกคาม ส.ส. ไม่ให้มีสิทธิมีเสียง ก็ไม่มีทาง ที่จะได้ประชาธิปไตย ที่สมบูรณ์


 

อ่านต่อ ๕
เขียนถึงพี่ที่เป็นนายกฯ

 

จากหนังสือ... ร่วมกันสู้ ...พลตรี จำลอง ศรีเมือง *ฉลาดอดข้าว* หน้า ๔๙ - ๕๔