คนไหนมีเงินคนนั้นมีอำนาจเงิน
พอมีอำนาจเงินก็เริ่มมีอำนาจชุมชน
อำนาจเติบใหญ่และครอบคลุม มีอำนาจสังคมเบ็ดเสร็จ กลายเป็นอิทธิพล
แม้ว่าเงินต้นกระแสธารอำนาจ จะเป็นเงินโสมมปานใด
เมื่อเงินกลายเป็นอำนาจนานไป อิทธิพลก็ฟอกตัวเองแปรเป็นบารมี
ดังที่รู้เช่นเห็นชาติกันอยู่ในสังคมไทย ตั้งแต่ระดับท้องถิ่นยันระดับชาติ
อำนาจนั้นหอมหวานยิ่งนัก
คนมีอำนาจย่อมหวงแหนอำนาจ
ลำพังตนไฉนจะรักษาอำนาจได้ ไฉนจะดำรงบารมีจำแลงได้
จำต้องล่าหาพวกพ้องบริวาร เพื่อสร้างอาณาจักรปกป้องตน
แผ่และดำรงอาณาจักรไว้นานสุด นั่นแหละคือจุดกำเนิดความลำเอียง
คนของกู พรรคพวกของกู คือลมหายใจ "ตัวกูของกู" กำยำพ่วงพีขึ้นทุกวัน
มองออกแต่นอกตัวกวาดไปสุดสายตา
ไม่เห็นว่าตัวเองอัปลักษณ์อัปยศ
ยินดีแต่เสียงประโคมแซ่ซ้อง ไม่ยินยลเสียงมโนธรรมติงเตือน
ทุกย่างก้าวของชีวิต จึงเป็นการทำเลวและทำลาย
ทำลายตน ทำลายสังคม ทำลายชาติ ทำเลวร้ายซ่อนพรางในรูปทำดีทำเด่น
คิดว่าเงิน อำนาจ บารมีจอมปลอม จะเคลือบสีทองพรางสีดำไว้ได้
ความจริงคือความจริงที่แสนจริง
ใครไม่รู้ตนเองก็รู้อยู่แก่ใจ
ความจริงจึงกัดกร่อนกินใจทุกยาม ยามตื่นสู้กับโลก ยามหลับสู้กับตัวเอง
นับวันใจยิ่งอ่อนล้า กายยิ่งอ่อนแรง และที่สุดก็มิอาจฝืนพลังสัจธรรม
เที่ยงตรงควรแก่อกุศลกรรมนั่นแล อย่าโวยวายโทษฟ้าโทษดินเลย
เพิ่งคิดดีทำดีวันนี้ ไยด่วนเก็บเกี่ยว ใช้หนี้เก่าให้หมดเสียก่อนซี
|