ชีวิตนี้มีปัญหา
๒
- สมณะโพธิรักษ์ -
(ตอนท้ายของฉบับที่
๑๕๗)
ถ้ามีแต่ชื่อว่า
ข้าพเจ้านับถือศาสนาพุทธ หรือฉันเป็นพุทธ ทว่าใน"ความประพฤติ"หรือใน
"พฤติกรรม" ของคนผู้นี้ ไม่มีแม้ "จรณะข้อที่ ๑"
คนนั้นก็ไม่ใช่ผู้มีศาสนาหรือมีศีลมีธรรม ตามทฤษฎี หรือตามแบบพุทธ
หรือ ตามเนื้อหา เนื้อแท้ ของพุทธเลย ตั้งแต่ข้อแรก คือ "ศีล"แท้ๆ
ก็ไม่ตั้งใจที่จะสมาทาน แม้แต่ข้อเดียว ดังนั้น "จรณะ"
(ความประพฤติ) ข้อต่อๆไปก็ไม่ต้องพูดถึง
[มีต่อฉบับหน้า]
(ต่อจากฉบับที่
๑๕๗)
หากใครที่ถือว่า
ตนเป็นพุทธ แต่ไม่มี"ความประพฤติ"(จรณะ) แม้แค่จรณะข้อ
๑ คือ เป็นคนมี"ศีล" หรือ เป็นคนบรรลุผล ของศีล (ศีลสัมปทา)
หรือแม้แต่จะสมาทานศีล แล้วก็ประพฤติตน ระมัดระวัง ไม่ให้ตน ผิดศีล
ที่ตนสมาทานนั้นๆอยู่ (เป็นผู้ "สังวรศีล")
ก็ไม่ได้ทำเลย คนผู้นี้ก็สักแต่ ว่า มีสลากแปะไว้ว่า ตนเป็นพุทธ
เท่านั้น โดยความจริง ยังไม่มีความเป็นพุทธเลย
เพราะแค่ "จรณะ" ข้อ ๑ ก็ยังไม่มี แล้วมันจะนับเอาตรงไหนกัน
ที่เป็น"พุทธ"..?
ดังนั้น
คนเป็น"พุทธ" หรือคนมี"พุทธ"
จึงไม่ใช่หมายความว่า เราศรัทธาเชื่อศาสนาพุทธ
เราเชิดชูบูชา ศาสนาพุทธ หรือเรานับตนเองว่าเป็นพุทธ จะเพราะสืบทอดมาตามตระกูล
หรือพอใจหรือสมัครใจ ที่จะเป็นคนชื่อ ว่าพุทธศาสนิกชน แม้แต่คนที่ได้ศึกษามีความรอบรู้ในศาสนาพุทธมาอย่างสูงส่ง
เป็นต้น แต่ยังไม่มี"ความประพฤติ" (จรณะ)
เข้าหลัก เข้าเกณฑ์ของ "จรณะ ๑๕" สักข้อเดียว คนผู้เป็นได้อยู่แค่
ที่กล่าวมาแล้ว เป็นต้นนั้น ก็ไม่ใช่"คนเป็นพุทธ-คนมีพุทธ"
เป็นเพียงคนมี "ยี่ห้อ"
(มีชื่อแปะอยู่) ว่า
"พุทธ" เท่านั้น
แม้คนผู้นั้นจะไหว้พระสุดศรัทธา
จะสวดมนต์ ประจำ มีพระเครื่องห้อยคอมากมาย หรือใส่บาตร เป็นประจำ
ไปวัดเป็นประจำ ฟังเทศน์ เป็นประจำ หรือประพฤติตามพิธีกรรมทางศาสนา
เคร่งจารีต เป็นผู้เคร่งครัดตามประเพณีส่วนใหญ่ เป็นต้น ก็ล้วน ยังนับไม่ได้ว่า
"คนเป็นพุทธ-คนมีพุทธ" แล้ว
คนที่จะนับว่า
"เป็นพุทธ-มีพุทธ"กันได้จริงๆ ก็คือ "คนผู้มีเนื้อแท้เนื้อธรรมของพุทธขั้นโลกุตระ"
พระพุทธเจ้า จึงจะนับว่า "สาวกสงฺโฆ" คือต้องเป็น"อาริยบุคคล
๔"หรือ"อาริยสงฆ์"นั่นเอง หรือตามที่เคย กล่าวถึงมาแล้วว่า
ต้องเป็น"สมณะ ๑-๒-๓-๔" ได้แก่
โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์
[มีต่อฉบับหน้า]
(เราคิดอะไร
ฉบับที่ ๑๕๘ กันยายน ๒๕๔๖) |