หน้าแรก >[09] การสื่อสาร > การเผยแพร่ธรรมะ >เราคิดอะไร

 

เรื่องอย่างนี้ต้องช่วยกันเผยแพร่ โดย นิติภูมิ นวรัตน์ บรรยาย ณ สถานบันราชภัฏ อุบลราชธานี วันที่ ๒ กันยายน ๒๕๔๓

เปิดเล่ห์ ข้ามโลก (ตอนที่ ๓)

 

ตอนที่อเมริกาเชิญอันวาร์ อิบราฮิม ไปประเทศอเมริกา ไม่เชิญนายกรัฐมนตรี แต่เชิญรองนายกฯ ไป คนที่ไม่ได้เป็นประมุข ของรัฐ เขาไม่ปูพรมแดงต้อนรับ แต่อเมริกากลับปูพรมแดงต้อนรับอันวาร์ อิบราฮิม เท่านี้ก็รู้ว่าอเมริกาคิดอย่างไร

สุดท้ายยิงสลุต คนเป็นรองนายกฯเขาจะยิงไม่เกิน ๑๔ ครั้ง คนเป็นนายกฯ ยิง ๑๖ ครั้ง แต่อเมริกายิงสลุตให้รองนายกฯ ๑๖ ครั้ง เอาเหตุการณ์หลายอย่างมาประมวลกัน ด็อกเตอร์มหาเธร์ เลยปลดอันวาร์ ตอนนี้จับขังคุก ไม่มีข้อหา ก็ยัดข้อหาขึ้นไป ไม่รู้ จริงหรือไม่จริง ข้อหา ตุ๋ย นี่ แต่ว่าเอาใส่ไว้ก่อน จำกัดไว้ก่อน ตอนนี้ยึดอำนาจได้ และจัดการประเทศไปตามที่ตัวเองต้องการ ฝรั่ง ทำอะไรไม่ได้ เพราะเขาไม่มีจิตใจ เป็นฝรั่งและรอบๆข้างด็อกเตอร์มหาเธร์ โมฮัมหมัด เขาก็ไม่ได้ใช้คนที่จบอะไรมาหรูๆ หราๆ เขา เอาคนที่จบมหาวิทยาลัยในประเทศทั้งนั้น แล้วก็มาทำงานรักษา ชาติบ้านเมือง

ตอนนั่งเครื่องบิน ผมอ่านหนังสือด็อกเตอร์มหาเธร์ โมฮัมหมัด ประกาศว่า ภายใน ๑๐ ปี หรือในทศวรรษนี้ เขาจะทำให้การ เจริญเติบโตของมาเลเซียโต ๗ % ตลอดไป ไม่ต้องการ ๘ , ๙ , ๑๐ อย่าให้ลงเหลือ ๖ , ๕ , ๔ , ๓ เขาต้องการ ๗ ไปเรื่อยๆตลอดไป ให้ ๗ ยืนถึง ๑๐ ปีถ้าถึง๑๐ ปี เมื่อไหร่ เขาจะกลายเป็นประเทศที่ พัฒนาแล้ว เขากล้าทำเพราะมีความเป็นตัวของตัวเองสูง

บ้านเรานี่ตามตลอด แล้วตามในสิ่งที่ฝรั่งเขาต้องการจะทุบทิ้งเสียด้วย พอจอร์จ โซรอส ทุบบ้านเราเสร็จ ก็ไปทุบประตูของ จีน คราวนี้บุกถึงจีน อะไรเป็นประตูของจีน จีนทำมาค้าขายได้เพราะฮ่องกง ก็เลยไปซัดฮ่องกง ฮ่องกงสู้ยิบตา สู้กันวินาทีต่อวินาที และฮ่องกงชนะ จอร์จ โซรอส แพ้ฮ่องกง อาทิตย์ต่อมาไก่ฮ่องกงเป็นโรคระบาด สงครามเชื้อโรค ต้องฆ่าไก่เป็นสิบๆ ล้านตัว เศรษฐกิจย่ำแย่ไปหมด สงครามอย่างนี้ ถ้ามองโลกอย่างผมที่ผ่านโซเวียตมา ผ่านสถาบันอย่างนี้มา ผมก็ว่าพอจะมองออก

ส่วนประเทศมาเลเซียเจอหมู คนมาเลเซียเขามีอยู่ ๓ สังคมใหญ่ๆ คือสังคมใหญ่ สุดเป็นมุสลิม สังคมรองลงมา เป็นสังคม คนจีน สังคมรองลงไปเป็นสังคม อินเดีย ทางมุสลิมกับจีน ทะเลาะเบาะแว้ง กันตลอด เพิ่งมาสงบไม่นาน คนจีนเลี้ยงหมูเยอะ ก็ อะไรไม่ทราบ ต้องมาเกิดกับหมูมาเลเซียเสียด้วย หมูคนจีนล้มตายเป็นแสนๆ ตัว สุดท้ายต้องฆ่าตาย เป็นล้านๆ ตัว คนจีนก็ไป ระแวงมาเลเซีย ซึ่งนับถืออิสลาม สงสัยคนมุสลิม เพราะมุสลิมไม่ชอบหมู สงสัยคนมุสลิมเล่นหมูกูแน่เลย เอาเชื้อโรคมาปล่อยเต็มไปหมด เศรษฐกิจคนจีนเจ๊งหมด คนจีนเตรียมจะเล่นงานคนมุสลิมแล้ว เตรียมจะซัดกัน อย่างในประเทศอินโดนีเซีย ด็อกเตอร์ มหาเธร์ โมฮัมหมัด ออกไปปราศรัยกับประชาชนว่า ข้าพเจ้าสงสัยอะไรบางอย่าง แล้วก็มีการบอกกันลับๆ ว่า มันคือ อาวุธเชื้อโรค เป็นสงครามเชื้อโรค มันมาปล่อยเชื้อโรค เพื่อจะให้คนสองกลุ่มในประเทศเรา ทะเลาะเบาะแว้งกัน คนจีนเลยเงียบไป ไม่ทำอะไร แล้วก็แล้วไป หมูตายก็เลี้ยงใหม่ เล่นกันด้วยอาวุธ เล่นด้วยสงครามเศรษฐกิจไม่ได้ ซัดกันด้วยสงครามเชื้อโรค

ดังนั้นในอนาคต มันมีสงครามมากมายหลายแบบ ที่เรานึกไม่ถึง เดี๋ยวนี้ ขนาดทิ้งระเบิดไปตูม สิ่งมีชีวิตตายหมด แม้แต่มดก็ตาย แต่บ้านเรือนยังอยู่

ที่อินเดียมีคนตายบางหมู่บ้าน บางทีตายกันห้าร้อยกว่าศพ ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร เขาบอกว่ามันร้อนจัดแล้วก็ตาย ลูกเล็กเด็กแดงตายหมด ทีละห้าร้อยกว่า ตายมาหลายปีซ้ำๆ ซ้อนๆ หาสาเหตุไม่เจอ ทางรัสเซียวิเคราะห์ว่า ทางอเมริกาคงจะใช้ อาวุธแบบใหม่ อาวุธแบบใหม่ พอยิงขึ้นไป มันจะไปทำลายโอโซน แล้วทำลายเป็นวงรัศมี แล้วรังสีแสงต่างๆ ที่ส่องมายังโลก มันมี พวกชั้นบรรยากาศกรองอยู่ แต่ทำลาย ข้างบนทำให้อากาศร้อนจัด อินเดียก็บอก แปลก มันร้อนเป็นตำบลๆ แล้วทั้งตำบล คนตายเกลี้ยง ตั้งแต่รัสเซียออกมาอธิบาย การทดลองอย่างนี้ก็ไม่มีต่อไป

ในอนาคตการทำลายผู้คนเผ่าพันธุ์อื่น เกิดขึ้นตลอดเวลา ในโลกนี้ไม่เคยเข้ากันได้ ในระหว่าง ๓ เผ่าพันธุ์ ท่านทั้งหลายที่นั่งข้างล่างนี้ ผมดำๆ ผิวเหลืองๆ ผมก็เหมือนกัน เราเป็นคนเผ่าพันธุ์เดียวกัน เป็นพวกมองโกลอยด์ พวกตาสีฟ้า พวกตาสีน้ำข้าว พวก ผมทอง ผิวขาวๆ พวกคอเคซอยด์ อีกทวีปหนึ่งอัฟริกา ผมหยิกเป็นก้นหอยติดหนังหัว ผิวดำๆ เป็นพวกนิกรอยด์ เป็นนิโกร ๓ เผ่าพันธุ์นี้ ในประวัติศาสตร์ไม่เคย เข้ากันได้ ในลักษณะที่ว่า ความคิดเข้ากันได้ ผลประโยชน์ลงรอยกันได้ ไม่มี แล้วรบกันมาตลอด ไม่มีทางเลยว่า ในอนาคตจะกลมกลืนกัน ดังนั้น เขาจึงพยายาม ทำลายอีกเผ่าพันธุ์หนึ่ง ตลอดเวลา และเขาร่วมมือกัน

ผมเพิ่งไปเวียดนามมา กับด็อกเตอร์ อรรถ ตอนแรกเราก็สงสัยว่า สงครามเวียดนามเกิดได้อย่างไร จะว่าเกิดจากการยับยั้ง คอมมิวนิสต์ มันก็เป็นเหตุผล เล็กๆ น้อยๆ หลังๆไปคุยกับผู้คนเวียดนาม คุยกับผู้หลักผู้ใหญ่ ถึงรู้ว่า ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนั้นเลย เกี่ยวกับเรื่องการถ่ายทอดภารกิจ เดิมเป็นการรบกัน ระหว่างฝรั่งเศสกับเวียดนาม ฝรั่งเศสเป็นมหาอำนาจ สมัยหนึ่งใหญ่กว่าอเมริกาอีก ฝรั่งเศสมีอาณานิคมไปทั่วโลก แล้ววันหนึ่งโดนญวนต่อต้าน และญวนชนะ ทำให้พวกฝรั่งเสียหน้า พอฝรั่งเศสหมดอาณานิคม พวกอาณานิคมในอัฟริกา เอเชีย เลยพยายามประท้วง เพื่อจะหาเสรีภาพ ทำให้พวกฝรั่งเสียหน้า เขาเลยโอนภารกิจนี้ ไปให้มหาอำนาจตัวใหม่คือ อเมริกา อเมริการบเวียดนาม ไม่ได้รบเพื่อป้องกัน ลัทธิคอมมิวนิสต์ นั่นเป็นเหตุผลรอง แต่จริงๆ เป็นการถ่ายโอนภารกิจ เท่านั้นเอง ซัดให้อยู่ เพราะเอ็งเคยทำพวกฝรั่งด้วยกัน คราวนี้ข้าจะมาซัดเอ็งมั่ง ไทยเราเป็นเอเชียด้วยกันแท้ๆ ยังไปร่วมซัดเวียดนามด้วย เราไม่ค่อยทราบ ว่าอะไรอยู่ข้างหลัง เพราะเราไม่ได้เตรียมคน การที่เราไม่ได้เตรียมคน ทำให้เรามองโลกไม่ลึก

คนในบางประเทศ เขาสอนคนให้มองโลกค่อนข้างจะลึก คำพูดของคนในแต่ละประเทศ เกี่ยวพันกับภาษาด้วย ภาษาไทยของเรา ถูกรัดมัดบ่วงด้วยราชบัณฑิตยสถาน ทำให้ภาษาของเราแคบลงไปเรื่อยๆ ผมบังเอิญโชคดีว่า เป็นคนเขียนได้หลายภาษา เขียนภาษาอังกฤษก็ได้ เขียนภาษาไทยก็พอไปได้ เขียนภาษารัสเซียก็ได้ การเขียนได้หลายภาษา ทำให้เปรียบเทียบระหว่าง แต่ละภาษา แล้วภาษามีอิทธิพล ต่อชีวิตมนุษย์ คนญวน คนยิว คนเยอรมัน และคนญี่ปุ่น คนที่ขึ้นต้นด้วยตัว ย นี่ ภาษาของเขา จะแปลก จะลึกและเต็มไปด้วยจินตนาการ เต็มไปด้วยตัวเลข ทำให้คนค้าขายเก่ง ทำให้คนคิดอะไรออก

คนญวนสมมุติว่าป่วย ผมเคยเรียนโรงเรียนญวนในเมืองไทยมา ๖ ปี ที่ชุมชนญวน จะพูดเป็นภาษาตัวเลขตลอด สมมุติว่า ลูกป่วย ภรรยาจะบอกว่าเธอ... ลูกเราตัวร้อนสูงกว่า ๓๗ องศาเซลเซียส พาลูกไปหาหมอ ถ้าเป็นคนไทยเรา ภาษาไทยเราจะบอกไหม เหีย หรือ ถิด (เหียหรือถิดแปลว่าพี่) ถิดรู้สึกว่าลูกเรา ตัวร้อนนะ พาลูกไปหาหมอหน่อย ภาษาเราพูดได้แค่นี้ แต่ภาษาญี่ปุ่น ภาษาญวน ภาษายิว เขาจะบอกเป็นตัวเลข ถิดลูกเราตัวร้อนเกิน ๓๗ องศาเซลเซียสแล้ว พาลูกไปหาหมอหน่อย ร้านหมอรู้สึกอยู่ไกลไปอีก ๓ กิโลครึ่ง ถ้าภาษาบ้านเรา ก็จะบอกเพียงว่า รู้สึกร้านหมอจะอยู่ไกลไปหน่อย ไกลไปอีกนิดหนึ่ง พาไปหาหมอหน่อย บ้านเราถูกภาษารัดมัดบ่วง จนภาษาแคบไปถนัด

ผมเป็นคนเขียนหนังสือทุกวัน บางอย่างอยากจะอธิบาย อธิบายไม่ได้ เพราะภาษาถูกรัด เขียนอะไรไปแหวกแนวหน่อย ท่านราชบัณฑิตยสถาน ก็มีหนังสือมาเตือน ผมก็เลยรู้สึกว่า ขนาดเราเขียนหนังสือ ยังถูกราชบัณฑิต มาเตือนอยู่ตลอดเวลา ผมจะอธิบายภาษาบ้านเราบางอย่าง ยกตัวอย่างง่ายๆ ตอนผมเล็กๆ บ้านผมมุงหลังคาใบจาก พอโตมาหน่อย พ่อผมเริ่มมีฐานะ พ่อก็มุง หลังคาด้วยสังกะสี การมุงด้วยสังกะสีทำให้เกิดออกซิไดซ์ เป็นรูรั่ว วันเสาร์อาทิตย์ ไม่ได้ไปโรงเรียน ผมก็นอนอยู่ในห้องนอน ในห้องนอนบ้านผมก็มีมุ้ง นอนตื่นสาย แสงอาทิตย์ก็ลอด มาตามรูรั่วของสังกะสี ส่องทะลุมุ้งมาลามเลียที่เปลือกตา กว่าจะบรรยาย ให้ท่านทั้งหลายฟัง ผมซัดไปตั้งกี่บรรทัด ในภาษารัสเซียมีคำเดียว ในภาษาอื่นๆ มีคำสองคำเท่านั้นรู้เรื่องกัน อย่างหนึ่งที่รัดมัด บ่วงพวกเราคือเรื่องภาษา ทำให้เรารู้สึกว่า เราถูกรัดถูกตรึงไม่สามารถจะอธิบายต่อกันได้

ดังนั้น ถ้าจะแก้อะไร ต้องแก้หลายอย่าง แก้เรื่องภาษา แก้เรื่องการค้าเสรี แก้เรื่องการเกษตร การที่เราถูกรัด ทำให้เราคิด อะไรไปได้ไม่ไกล แล้วเวลาฝรั่ง โยนอะไรมาให้เรา เรานึกไม่ออก เช่น มีอยู่ครั้งหนึ่ง องค์การการค้าโลก บอกประเทศไทย ออกกฎหมายเกี่ยวกับสิทธิบัตร สิทธิบัตรที่ว่า เป็นสิทธิบัตรพันธุ์พืช ท่านทั้งหลายคงไม่เชื่อว่า ในอนาคตท่านปลูกพืชชนิดใดไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่น ทุเรียนหมอนทอง ท่านปลูกไม่ได้ ดองดึง ท่านก็ปลูกไม่ได้ เพราะพันธุ์พืชเหล่านี้ เป็นของชาวต่างชาติ เขาไปจดสิทธิบัตรไว้แล้ว เป็นประเทศอื่น ถึงแม้เขาจดสิทธิบัตรแล้ว แต่คนในประเทศก็ยังสามารถจะใช้ได้ เพราะไม่มีกฎหมายภายในออกมารองรับ ประมาณปลายปี ๒๕๔๑ ประเทศสมาชิก องค์การการค้าโลกที่พัฒนาแล้ว ออกกฎบังคับประเทศสมาชิก ที่กำลังพัฒนาอย่างพวก เราว่า ให้ไปออกกฎหมายภายในรองรับ เกี่ยวกับสิทธิบัตรพันธุ์พืช ทุกประเทศค้าน ประเทศมาเลเซียก็ค้าน สิงคโปร์มีทุเรียนที่ไหน เขายังค้าน ไม่ออกกฎหมายนี้ ประเทศอินโดนีเซียก็ไม่เอา เกาหลียิ่งไม่เอา ประเทศเดียวในทวีปเอเชีย ที่ออกกฎหมายภายใน สอดคล้องกับ กฎหมายภายนอก ขององค์การการค้าโลก ที่เกี่ยวกับสิทธิบัตรพันธุ์พืช คือ ประเทศไทย พอออกมาปั๊บ เกิดอะไรขึ้น ต่อไปในอนาคต ท่านปลูกพืชไม่ได้ จะปลูกทุเรียน ปลูกไม่ได้แล้ว ผมยังเคยพูดว่า ต่อไปใครอยากจะรวย ไม่ต้องไปเรียนอะไร ให้ส่งลูกหลาน ไปเรียนวิชากฎหมาย จบมาแล้วไปตั้งสำนักงานกฎหมาย ในถิ่นที่มีสวนเยอะๆ ที่ปลูกทุเรียนมากๆ ซื้อมอเตอร์ไซค์ ๓-๔ คัน จ้างคนขับ ขี่ไปตระเวนตามสวน เจอสวนไหนปลูกทุเรียน ก็ลงไปถามว่า เจ๊..ปลูกทุเรียนพันธุ์อะไร ถ้าเจ๊บอก พันธุ์หมอนทอง ก็ให้ย้อนถาม กลับไปว่า เจ๊จ่ายค่าสิทธิบัตรพันธุ์พืชหรือยัง ถ้าเจ๊ยังไม่จ่าย ต้องจ่ายให้รัฐบาลออสเตรเลียนะ เพราะสิทธิบัตรพันธุ์พืชทุเรียน พันธุ์ หมอนทองเป็นของออสเตรเลีย ถ้าไม่จ่าย ตำรวจต้องจับ เพราะถ้าไม่จับ รัฐบาลออสเตรเลีย จะร้องเรียนว่า ประเทศไทยไม่ทำตามกฎหมาย ระหว่างประเทศ ไม่ทำตามกฎหมายองค์การการค้าโลก พอเกิดอย่างนี้ เขาก็ตัด GSPเรา การตัด GSP เป็นเรื่อง ร้ายแรงยิ่งกว่ารบกันอีก เพราะสินค้าเราต้องโดนภาษีเต็มๆ สินค้าอย่างหนึ่ง ราคาสินค้า ๑๐๐ บาท โดนภาษีเต็มๆ ๕๐ บาท ไม่ได้ GSP เขาเก็บภาษีเต็มๆ ๕๐ บาท ไปวางขายในประเทศออสเตรเลีย ราคา ๑๕๐ บาท มันแพงคนไม่ซื้อ พอคนไม่ซื้อ เงินก็ไม่เข้าประเทศ พอเงินไม่เข้าประเทศ ประชาชนก็อยู่กันลำบาก

อ่านต่อฉบับหน้า

 
อ่านฉบับ 129   อ่านฉบับ 131

เปิดเล่ห์ข้ามโลก ( เราคิดอะไร ฉบับ ๑๓๐ พ.ค. ๔๔ หน้า ๓๕ - ๓๘ )