วิมุตตินันทะ

หยุดก่อนประเทศไทย

หนังสือพิมพ์ เราคิดอะไร ฉบับที่ 130 เดือน พฤษภาคม 2544
หน้า 1/1

งานหนักสาหัสสากรรจ์ของรัฐบาลคิดใหม่ทำใหม่ ที่ตั้งใจทำสงคราม กวาดล้างยาบ้า ปราบการฉ้อราษฎร์บังหลวง และ แก้ไขความยากจน สามอย่างนี้เป็นต้น ฟังแล้วมัน น่าอ่อนใจกับความจริงประเทศไทย เคราะห์ดีที่มีนักสู้ผู้น่าชมน้ำใจ อย่างนายกฯ ทักษิณเป็นต้น แม้ไม่รู้จะหวังผลสำเร็จสักเท่าไรได้ อย่างน้อย เมื่อตั้งใจทุ่มเต็มที่โถมสุดชีวิต นั่นย่อมเป็นสิ่งดีที่สุดแล้วในชาติหนึ่ง

อะไรๆ คงไม่เกินความพยายามไปได้ดอก ดังพระพุทธภาษิตว่าไว้ คนจะล่วงทุกข์ได้ เพราะความเพียร เฉพาะอย่างยิ่ง ทุกวันนี้ มีการกล่าวขวัญถึง ชุมชนเข้มแข็ง ขบวนการกลุ่ม หรือ พลังแผ่นดิน คือเมื่อใดผู้คนไม่ต่างคนต่างอยู่ ไม่มุ่งหน้าเอาตัวรอด ของกูเท่านั้นเป็นพอ ตรงกันข้าม เกิดรวมพลังหันหน้าเข้าหากัน ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ผลสำเร็จในการกอบกู้ชาติ มีให้เห็นอยู่บ้างเหมือนกัน แม้จะยังไม่มากราย เป็นกลุ่ม ก้อนใหญ่โตทีเดียว แต่เมื่อทำให้หมู่บ้านเล็กๆ ได้ ย่อมอาจขยายวง สู่หมู่บ้านใหญ่ หรือเกิดเอาอย่างตามๆ กันขึ้นมาหลายบ้าน หลายบาง อันนี้ไม่ใช่เรื่องประหลาดอันใด ทำนองเดียวกับ เรื่องชั่วร้ายที่มันเกิด แรกๆ มันย่อม ผุดบางจุด แล้วกระจายแพร่ระบาด จนเต็มบ้านเมืองขณะนี้

ท่ามกลางภาวะวิกฤติรอบด้าน เราจะเห็นว่าหลายหมู่หลายกลุ่ม ไม่ยักเดือดร้อน กับปัญหาข้าวของแพง เพราะพวกเขา กินน้อย อยู่ง่าย ปลูกกินเอง หรือเรื่องยาบ้าไม่น่าห่วง เพราะเหล้าบุหรี่ ก็ไม่เอาอยู่แล้ว พื้นฐานภูมิคุ้มกันที่เข้มแข็งเหล่านี้ เป็นไปได้ง่าย ในหมู่กลุ่มที่เคร่งครัดศาสนา เป็นชีวิตจิตใจ

ทุกวันนี้ เรามีสื่อสารข้อมูลเพียบ ไม่น้อยแล้วกระมัง ขนาดมีคนอายุยืนที่สุด กี่คน อยู่ไหนบ้าง เรายังรู้เลย ตามไปดูได้ว่า เป็นเพราะเขา อยู่ในหมู่บ้าน ขยัน อารมณ์ดี กินอาหารดีๆ คือ ข้าวกับผัก จิ้มน้ำพริก อะไรเหล่านี้ เป็นต้น

การตื่นตัวของชุมชนต่างๆ ทั่วไทย นับว่าเป็นการลุกขึ้นมาตั้งหลักที่ดีมาก มารวมตัวกัน คิดอ่านหางานทำ มีการรวมทุน อดออมเพื่อพึ่งตัวเอง โดยไม่งอมืองอเท้า คอยแต่แบมือเป็นคนขี้ขอ ไม่ใช่เลย การหมั่นประชุมกันเนืองนิจ พร้อมเพรียงกันประชุม พร้อมเพรียงกันเลิก และพร้อมเพรียงกันทำกิจธุระ ของหมู่ให้สำเร็จลุล่วงไป เพียงเท่านี้ เชื่อว่าการระดมสติปัญญา และพลังต่างๆ จะช่วยให้เกิดอะไรใหม่ขึ้น ในบ้านเมือง สำคัญ ขอให้มีตัวอย่างหมู่บ้านนำร่องสักกี่แห่งก็ได้ ลองหยิบมาเป็นกรณีศึกษา ให้แจ่มแจ้ง เสร็จแล้วทางสว่างคงจะเกิดขึ้น พร้อมกับผลักดันขบวนการ ขับเคลื่อนทุกอย่างต่อไป เว้นเสียแต่ว่า ผู้นำชุมชนจะมืดบอด ด้วยมิจฉาทิฐิเกินไป คำตอบคงอยู่ที่คนในหมู่บ้านต่างๆ นั่นเอง ว่าจะเอาไหนอย่างไรบ้าง

ตัวอย่างข่าวขุดทองกระดาษ หรือพันธบัตรในถ้ำลิเจีย เมืองกาญจน์ ซึ่งคงไม่มีท่าอะไร นอกจากตลกหลอกต้มเปื่อยกันไป เท่านั้นเอง แทนที่จะไปเพ้อฝันกับทองแท่ง ทองก้อน ทองแผ่นชนิดไหนๆ ก็ตามที่มันจะลอยฟ้าหล่นใส่มือ ต่อให้มันได้มาอย่างนั้นพี่ ไทย คงจะผลาญต่อสบายๆ ไม่นานมีหวังจนดักดาน เหมือนเดิมเป็นแน่เลย

น้อยคนจะกล้าเชื่อว่า ทองจริงๆ อยู่ที่สองมือลงแรงขุดปลูกทุกอย่างในแผ่นดิน ตามที่จำเป็นต้องกินใช้ของตัวเอง ถ้าปลูกให้ครบเครื่องแบบเศรษฐกิจพอเพียง มันคงไม่อดอยากปากแห้ง ส่วนที่ล้มเหลว น่าจะเป็นเพราะขี้โลภโดยกู้หนี้ ซื้อปุ๋ยทำ พืชเชิงเดี่ยว แทนที่จะพึ่งตัวเองทำธรรมชาติ ให้สมบูรณ์ยั่งยืน เพิ่งสี่สิบปีหลังมานี่เอง ที่เราทิ้งภูมิปัญญาไทย เสร็จแล้วกรรมทันตา เห็นบ้างหรือยัง... กสิกรแข็งขลัง เป็นกระดูกสันหลังของชาติ ไทยจะเรืองอำนาจเพราะไทยเป็นชาติกสิกรรม!

ครับ คงต้องคิดใหม่ทำใหม่กันจริงๆ ชาวนาชาวไร่ จากที่ตั้งหน้าทำเพื่อเงิน ปลูกแล้วดินตาย น้ำเน่า สิ่งแวดล้อมเสียหมด ต้นทุนสูงขึ้นทุกปี สุดท้ายเจ๊ง คนกินซวยด้วยสารพิษแถมให้อีก น่าสังเวชเหลือทน เลิกกันเสียที สาปส่งได้แล้ว กับวิธีบ้าๆของฝรั่งที่ คลั่งไคล้เงิน มาหลอกคนไทยเป็นเหยื่อ เสียหลายสิบปี

อย่างไรก็ตาม เบื้องหลังการถ่ายทำ ทุกอย่างเพื่อเงิน เพราะทุกคนอยากรวย ถ้ารวยแล้วจะได้กินมากใช้เปลือง แบบนี้มันจะได้ทันรวยตรงไหนหว่า... นายกฯ ทักษิณที่รวยสำเร็จ จะช่วยชาวบ้านได้ไหมเนี่ย!

ชาวบ้านคงจะต้องจนจมดินทั้งชาติ หากยังเห็นช้างขี้ จะขี้ตามช้างอยู่เรื่อยๆ นิสัยเสียที่แก้ไม่หาย หรือไม่เคยคิดแก้กันสักที คือ ค่านิยมชอบเป็นหนี้ โรคร้ายอันนี้ เมื่อแก้ไม่ตก ต่อให้พักหนี้สามปี เสร็จแล้ว คงจนหนักกว่าเก่าหลายเท่า

ในหมู่บ้านใกล้เขื่อนราษีไศล ที่ชาวบ้านยกพวกมากับสมัชชาคนจนบ่อยๆ มีตัวอย่าง หนุ่มใหญ่โสดตายด้วยเอดส์ ญาติไม่มีเงินถังอะไรเลย จัดงานศพผลาญเงินไปกว่าแสน ฟังเท่านี้มันชวนปลง สัตวโลกเป็นไปตามกรรม คนตายขายคนเป็น ประเพณี จมปลักดักดานมานานนม เออหนอ เมื่อไหร่ผู้คนจะหายจนหัวคิด อันนี้สักที ไม่รู้ซี!

รัฐบาลไหนๆ ตั้งท่าจะแก้จนทั้งนั้น โดยมักจะตั้งหน้าเพิ่มรายได้ มีใครบ้างไหม ที่เข้าใจอุดรูรั่วของตุ่มเสียก่อน ที่จะหาน้ำใหม่ใส่ลงไป...

ผู้เขียนยังงงๆ อยู่เหมือนกัน รัฐบาลคุยโขมงว่า คิดใหม่ทำใหม่ จริงๆแล้ว คิดเป็นแค่ไหนเอ่ย เช่น ข่าวอยากหาเงินเข้าคลัง เพื่อมาจัดสวัสดิการรักษาโรค ๓๐ บาท หาทุนหมู่บ้านละล้านทำนองนั้น มันหมดท่าถึงขนาดจะออกหวยเพิ่ม อากาศคงร้อนเกินไปกระมัง ถึงทำให้คิดไปบ้าบวมปานนั้น

เรื่องของเรื่อง มันคงจะไม่ง่ายเลยนะ ที่ผู้คนจะตื่นตัว รู้จักประหยัด กินน้อยใช้น้อยให้สำคัญ แม้หลังเศรษฐกิจฟองสบู่แตก ลัทธิทุนนิยม จะโดนถล่มทลายหนัก กระทั่งลัทธิเศรษฐกิจพอเพียง เจ้าเก่า กลับคืนมาให้เห็น เป็นตัวเลือกบ้าง ถึงกระนั้นจะมีกี่คน ที่ซาบซึ้ง อันตรายของลัทธิบริโภคนิยม อันคือคนละเรื่องเดียวกัน กับลัทธิทุนนิยม เฉพาะอย่างยิ่งนักเศรษฐกิจทุนนิยม เมื่อคนมี เงินจับจ่ายกินใช้กันมากๆ เศรษฐกิจจะดี เราเคยทำมาได้และหลงฟู่ฟ่า แบบนั้นไม่ทันไร ก็ต้องจอดเมื่อฟองสบู่แตก เสร็จแล้วยังไม่ยอมเข็ด ยังเพ้อฝัน อยากจะมีวันที่หวานชื่นกลับคืนมาอีก!!

ลึกๆ แล้ว การยั่วยุให้คนกินมาก ใช้เปลืองเท่าไหร่ มันย่อมฉิบหายเท่านั้น ยิ่งส่งเสริมอบายมุข และพวกฟุ่มเฟือย ยิ่งเห็นได้ชัด คือเมื่อแข่งขันกันลงทุนผลิตอบายมุข ของฟุ่มเฟือย มอมเมาฟุ้งเฟ้อ เหล่านี้ แม้ถูกลงและคนจน ก็กินเหล้าเบียร์ได้ง่ายขึ้น ปัจจัยการผลิตอันมีจำกัด เมื่อถูกดูดไปทำของผลาญพร่ากันเช่นนี้ ข้าวของจำเป็นมันจะกลับแพงขึ้นอีก เมื่อสิ่งจำเป็นเช่นปัจจัยสี่แพง เศรษฐกิจจะดีไปไม่ได้เลย

ดังนั้น การขึ้นภาษีเหล้า เพื่อให้คนกินน้อยลง นับว่าน่าสาธุ ใช่เลย แม้แต่ปัจจัยสี่ คนควรประหยัดจนวันตายอยู่นั่นเอง ขอให้กินใช้กันน้อยๆ หน่อย แม้ผลิตได้เหลือเฟือมากๆ คนจนจะได้มีกินอิ่มทั่วถึง เศรษฐกิจไทยจะไปโลด เมื่อปัจจัยสี่แสนถูก ในขณะที่อบายมุขเป็นของหายาก และแพงหูดับไปเลย เมื่อไหร่กะหรี่ค่าตัวขึ้นเป็นแสน เพราะสาวไทยรักจะเป็นน้องนางบ้านนากันหมด คนจนอดเที่ยวและหายอยากไปเอง เมื่อนั้นสวรรค์ประเทศไทย...

 
อ่านฉบับ 129   อ่านฉบับ 131

หยุดก่อนประเทศไทย วิมุตตินันทะ ( เราคิดอะไร ฉบับ ๑๓๐ พ.ค. ๔๔ หน้า ๗๑ - ๗๓ )