หน้าแรก >สารอโศก

บันทึกจากปัจฉาสมณะ ตุลาคม ๒๕๔๔



ขณะที่ข่าวพระชื่อดัง มีเรื่องเกี่ยวข้องกับสีกา เป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ ๑๙ ต.ค. ๔๔ ที่ สันติอโศก พ่อท่าน ได้รับการติดต่อ ขอสัมภาษณ์ ทำรายการ itv talk พ่อท่านบอกเล่า ให้ฟังภายหลังว่า ได้บอกกับผู้ติดต่อ ขอถ่ายทำรายการไปว่า " ...ถ้าจะสัมภาษณ์ทำข่าว เกี่ยวกับวิถีชีวิต การปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนก็ได้ แต่ถ้าจะสัมภาษณ์เกี่ยวกับ พระอิสสระมุนี ก็ไม่ขอพูดถึง เพราะอาตมารู้ตัวว่า เราเล็กเราน้อย ไม่ควรจะไปพูดถึง ผู้ที่เป็นอาจารย์ของท่านนายกฯ"

พ่อท่านกล่าว อย่างนอบน้อมถ่อมตนดีจัง ฟังแล้วน่าประทับใจดีออก ถือเป็นบทเรียนรู้การ ใช้สัปปุริสธรรม อีกบทหนึ่ง

๒๒ ต.ค. ๔๔ ที่สันติอโศก คณะถ่ายทำของ itv มาดักถ่ายทำบันทึกภาพแต่เช้า ขณะพ่อท่าน และสมณะ กำลังบิณฑบาต เสร็จจากบิณฑบาตแล้ว นักข่าวสนทนา ซักถาม หาข้อมูล เพื่อหาแนวคำถาม ที่จะใช้ถ่ายทำ รายการจริงวันพรุ่งนี้ (๒๓ ต.ค.) ต่อมา พ่อท่านพาเดินดูสถานที่ เพื่อบันทึกภาพ ประกอบรายการ ดูพ่อท่าน มีฉันทะ ที่จะอธิบาย เล่าบอกไปทุกเรื่อง แม้จะเป็นเรื่อง เล็กน้อย ...ป้ายโรงเรียน... ที่กลับรถหน้าป้าย... สวนหย่อมข้างโรงเรียน... ที่พระวิหารหินแกรนิต ทำอย่างดี ใช้สแตนเลสอ๊อก... ทองคำเจดีย์ขี้เหร่... หรือ อาจเป็น เพราะพ่อท่าน วางบุคคลิกกันเอง เพื่อให้นักข่าว จะได้ไม่เกร็ง จึงพูดอธิบายไปหมด

๒๓ ต.ค. ๔๔ ที่สันติอโศก การถ่ายทำรายการ itv talk เป็นไปด้วยดี ประเด็นคำถาม ที่นำเสนอก็ดี พ่อท่าน ก็ตอบได้ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคดี ที่ถูกทางมหาเถรสมาคมกล่าวหา หรือ แนวทางบุญนิยม ที่ต่างกับทุนนิยม หรือเรื่องทำไม ชุมชนอโศกจึงเข้มแข็ง แม้แต่เรื่อง พระกับสีกา ตามที่เป็นข่าว มีวิธีป้องกันอย่างไร ประเด็น สุดท้าย ก็น่าสนใจว่า แนวทางบุญนิยม จะขยายไปทั่วสังคมได้หรือ

หลายประเด็น พ่อท่านตอบ อย่างอ่อนน้อมดี น่าศึกษาเรียนรู้อย่างยิ่ง เช่น คำถามว่า คดีของท่านกับ มหาเถรสมาคม จบอยู่ที่ตรงไหนครับ "...จบลงตรงที่ อาตมาเป็นผู้แพ้ อย่างราบคาบ แพ้ตามคดีทางกฎหมาย แต่ไม่ได้แพ้ทางธรรมวินัย เพราะด้านธรรมวินัย ไม่ได้ทำการพิจารณา..." จากบางส่วน ที่พ่อท่านตอบ

กับคำถามที่ว่า "ไหนๆอาจารย์ก็ถือวัตรปฏิบัติ เป็นนักบวชที่เคร่งครัด ในพระพุทธศาสนา ทำไม ถ้าจะอยู่กับ มหาเถรสมาคมไปเลย มันไม่ได้ใช่ไหมครับ "...

"ต้องขออภัยต่อสาธารณะชนทั้งหลาย พูดไปแล้วเหมือนกับจะกลายเป็นบังอาจ จึงต้องขออภัยก่อน ที่อาตมาต้องลาออก มานั้น อาตมารู้ว่า ในกลุ่มนั้น โดยหลักธรรมวินัยต่างๆ ก็ถูกปฏิรูปไปแล้ว ทางโน้นเป็น อำนาจปกครอง อาตมาเป็นพระเล็ก เมื่ออยู่ในปกครอง อาตมาจะทำอะไร ให้ถูก ตามที่เราคิดว่า อย่างนี้สมควร อย่างนี้ถูกต้อง ทำไม่ได้ทั้งปวง ที่ผ่านมา อาตมาได้พยายาม อนุโลมปฏิโลม ต่อรอง หลายนัยแล้ว เรื่องไม่ใช่เพิ่งเกิด เรื่องเกิดมานานแล้ว กว่าจะมาถึงขั้น... (พิธีกร: ครับ สู้ในศาล)..."

และกับคำถามที่ว่า "ช่วงหลังนี้ มหาเถรสมาคม ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ จากสังคมหลายฝ่าย เรื่อง ปกครอง คณะสงฆ์ ด้วยกันเอง ว่ามีข้อบกพร่อง ควรจะปฏิรูป อย่างโน้นอย่างนี้ อาจารย์คิดว่า สิ่งที่มหาเถรสมาคมเอง ต้องปรับเปลี่ยน อย่างขนานใหญ่ ในช่วงนี้นี่ คืออะไรครับ"

"..อาตมาไม่บังอาจ ที่จะไปบอกหรอก เพราะว่าบอกแล้ว มันจะกลายเป็นว่า เราไปดูถูก ดูแคลน หรือว่าไป กล่าวผิด กล่าวจาบจ้วง อะไรต่างๆ ซึ่งถ้าเข้าใจ โดยปฏิภาณแล้ว ก็เราเอง เราทำตามอย่างนั้นไม่ได้ เราออกมาทำ ตามที่เราคิด เห็นแล้วนี้ มันก็เป็นคำตอบในตัวแล้ว ว่าทางโน้น ควรจะทำอะไร อย่างไร ซึ่งความจริงแล้ว จะไปให้แก้ให้เปลี่ยนนั้น อาตมาว่า ยาก ยากมาก..."

เมื่อถูกถามว่า ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ตั้งแต่เริ่มตั้ง จนถึงปัจจุบัน สันติอโศกถือว่าเติบโต ในระดับไหน

"เราไม่กล้าที่จะพูดว่า เติบโตได้ระดับไหน เรารู้แต่เพียงว่า มันมีอัตราการก้าวหน้ามาอยู่ ตามลำดับ แม้จะมีอะไร มาต้านมาทาน อาตมาว่าสิ่งเหล่านั้น กลับทำให้พวกเรา มีเรี่ยวมีแรง มีกำลังดีขึ้นด้วยซ้ำ..."

และเมื่อถูกถามว่า ผมเข้ามาในนี้ ก็เห็นเครือข่ายของสันติอโศก อยู่หลายอย่าง ทั้งโรงพิมพ์ พวกร้านขาย บริษัทต่างๆ คราวนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างนี่ มันเกี่ยวพันร้อยกันอยู่อย่างไร ในขบวนสันติอโศก ทำธุรกิจอย่างไร ว่าง่ายๆ

"...ร้อยกันอยู่ในลักษณะของทฤษฎีเดียวกัน เราเรียก ทฤษฎีนี้ว่า บุญนิยม ซึ่งจะแตกต่างกับ ทุนนิยม เมื่อกี้คุณใช้คำว่า ต่อสู้กับลักษณะของโลกทั่วไป ที่เป็นลักษณะทุนนิยม อาตมาก็ออกจะตกใจ คำว่าต่อสู้ เพราะเราเองนี่ รับรองว่า เราแย่กว่าบิน ลาเดน นะ เราแยกว่า เพราะว่าเราไม่มีความอาจหาญ ที่จะไปต่อสู้ กับยักษ์ใหญ่ หรือ กับทุนนิยม นี่ยักษ์ใหญ่น่ะ เราไม่ต่อสู้ และไม่เคยคิด จะไปต่อสู้เลย เป็นแต่เพียง เราป้องกันตัว และก็หลบๆเลี่ยงๆ แล้วก็ไม่โต้ตอบ คือ ไม่ไปยิง ไม่ไปฆ่า ไม่ไปท้าทาย อยู่อย่างสงบ บุญนิยมนี่เป็นลักษณะ ที่มาละลดกิเลส ความเห็นแก่ตัว อย่างแท้จริง..."

ข้างต้นทั้งหมดนี้ เป็นตัวอย่าง ของคำตอบบางส่วน ที่ข้าพเจ้ารู้สึกว่า มีลักษณะ ของความอ่อนน้อม ถ่อมตน ที่เด่นชัด กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ซึ่งดูเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง ของการออกรายการในครั้งนี้ ทำให้มีผลตอบรับ ที่ดีจากสังคม

นอกจากนี้ ยังมีคำถามที่น่าสนใจ และคำตอบก็ดูหนักแน่น จริงจังชัดเจน

เมื่อถูกถามว่า มีพระสงฆ์หลายต่อหลายรูป ในเมืองไทยเป็นข่าว เป็นคาว เรื่องไปมีเรื่องกับสีกา อาจารย์ป้องกัน เรื่องนี้อย่างไร

"ตอบกำปั้นทุบดินเลยน่ะ ถ้าจะป้องกัน ก็คือ ต้องปฏิบัติธรรมะของพระพุทธเจ้า ให้ได้มรรคได้ผล เรื่องนี้ สำคัญน่ะ เรื่องกามราคะ เรื่องกามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหาต่างๆพวกนี้ ถ้าเรียนรู้ไม่จริง แล้วก็ปฏิบัติ ไม่ถูกต้อง ไม่สัมมาทิฐิ กามก็ไม่ลด ที่เป็นเรื่องเป็นราวนี้ก็ เพราะว่าปฏิบัติโดย ไม่สัมมาทิฐิ ไม่เข้าใจถูกต้อง ทฤษฏี ของพระพุทธเจ้าจริงๆ ปฏิบัติไปแล้ว ก็ไปเอายอด ไปเอาปลาย ไปเอาของสูงสุด อะไรนี่มาคุย โอ้โห! เทศน์ธรรมะสูง แหม! ไม่มีตัวตน ละตัวละตน ไม่ยึดมั่นถือมั่น อะไรต่างๆนานา นี่เป็นภาษาดูเหมือนสูง ซึ่งเราศึกษา ภาษาได้ แต่ว่าความจริงแล้วนี่ มันมีเบื้องต้น ท่ามกลาง บั้นปลาย พระพุทธเจ้า ท่านตรัสสอน เหลือเกินว่า ต้องละเอียด ต้องสมบูรณ์ ด้วยเบื้องต้น ท่ามกลาง บั้นปลาย เพราะฉะนั้น การปฏิบัติที่ไม่จริงนี่ มันก็เลยต้องไปป้องกัน โดยวิธีปลายเหตุกันทั้งนั้น"

อีกคำถามหนึ่งที่น่าสนใจ ที่หลายคนจะคิดจะมองว่า เมื่อแนวทางบุญนิยม ที่ทำในหมู่ชาวอโศกนี่ ดีแต่ค่อนข้างจะเข้มๆ แล้วจะเผยแพร่กว้าง ไปยังสังคมได้หรือ ครั้งนี้พิธีกรก็นำมาถาม "แนวทางบุญนิยม แนวทางสันติอโศก แบบที่ทำอยู่ที่นี่นี่ คิดว่ามันจะได้รับความนิยม ขยับขยายไป จนกระทั่งถึงคนทั่วไป ในสังคมไทย ได้ยึดถือปฏิบัติกัน ได้ไหมครับอาจารย์"

"อาตมาดูที่สัจจะนะ สัจจะที่แท้จริง นี่เป็นความยั่งยืน เป็นความถาวรเหมือนกัน สัจจะ ทุกอย่างเป็นนิรันดร์ หรือเป็นอมตะ ไม่มีอะไรมาหักล้างได้ สิ่งที่ดีจริง และได้จริงแล้วนี่ จะไม่มีเปลี่ยนแปลง ไม่มีอะไรมาล้มล้างได้ อาตมามั่นใจว่า อันนี้จะยั่งยืน และเห็นว่า พวกเราชาวอโศกที่ได้ปฏิบัติ ประพฤติตามธรรมะ ของพระพุทธเจ้า มาแล้ว จนถึงวันนี้ เป็นกลุ่ม เป็นหมู่ มีชุมชนหลักๆ ประมาณสิบกว่าแห่ง มีเครือข่ายส่วนย่อยๆ ๙๐ กว่า เกือบร้อย ประมาณนั้น

ดังนั้น เมื่อมีลักษณะ ที่แข็งแรง มั่นคง ยั่งยืนดี กับมีอัตราการก้าวหน้านี่นะ คุณว่าจะขยาย ไหมล่ะ ไม่มีหาย ไม่มีล้มล้าง พระพุทธเจ้าท่านตรัส เป็นหลักธรรม ชัดเจนว่า นิจจัง ธุวัง สัสสตัง อวิปริณามธัมมัง มันแปลว่า ความยั่งยืน เที่ยงแท้ มั่นคง ไม่แปรเปลี่ยน อสังหิรัง ไม่มีอะไร มาหักล้างได้ อกุปปัง ไม่มีการกลับกำเริบ เช่นหมดกามแล้ว ยังไปมีกามใหม่ ไม่มีแน่นอน เพราะฉะนั้น ความเที่ยงแท้ ยั่งยืนมั่นคงนี่แหละ เป็นหลัก เมื่อไม่ถอยอยู่แล้ว และมีอัตราการก้าวหน้าได้จริง อาตมามั่นใจว่า จะก้าวหน้าไปในอนาคต ประกอบกับเหตุผล อีก ๔ ประการ
          ๑. ทุกวันนี้สังคมแบบที่เป็นกันอยู่นี่ มันทุกข์มากแล้ว ทุกข์จริงๆ
          ๒. เขาไม่มีทางไป ทุกวันนี้ ต่างก็หาทางออกไม่ได้ มีแต่วนอยู่ในวงเวียนโลกียะเดิมๆ หรือ ในระบบทุนนิยม ที่ยิ่งซับซ้อนสุดโหด
          ๓. วัตถุดิบ ทรัพยากรของโลกก็ร่อยหรอลง มันไม่มักน้อย สันโดษ เหมือนอย่างที่เราทำ
          ๔. มีตัวอย่างยืนยัน นี่เราทำตัวอย่างเป็นทางเลือกให้แล้วด้วย

อาตมาจึงมั่นใจว่า จะเจริญงอกงามในอนาคต แต่มันต้องอาศัยเวลา อาตมาประเมินให้ว่า อีกสัก ๕๐๐ ปี จะรุ่งเรือง คุณอย่านึกว่า ๕๐๐ ปีนี้มันนานนะคุณ! "

ผลที่เกิดขึ้นหลังรายการ itv talk ได้แพร่ภาพออกอากาศ ในคืนนั้น (๒๓ ต.ค.) ช่วงดึก มีรายการธรรมะ ของสถานีวิทยุ แห่งหนึ่ง เป็นการตั้งข้อสงสัย จากพระผู้ดำเนินรายการว่า ทำไม itv จึงนำเอาสันติอโศก มาแพร่ภาพ ออกอากาศบ่อย (มีรายการ วิถีธรรม ของท่านจันทร์ ทุกวันอังคาร เวลา ๕.๐๐-๖.๐๐ น. ซึ่งเป็นการซื้อเวลาสถานี)

วันรุ่งขึ้น ๒๔ ต.ค.๔๔ รายการ "ธรรมส่องโลก" ของสถานีวิทยุยานเกราะ ๕๔๐ ดำเนินรายการโดย พระมหาเดวิด ยสโส ได้มีการวิพากษ์ วิจารณ์ ถึงรายการ itv talk เมื่อคืน จากบางส่วนที่กล่าวถึงดังนี้

"เมื่อเช้าตรู่ ก็ได้มีโทรศัพท์ จากพระคุณเจ้า และท่านสาธุชน ประมาณเกือบ ๒๐ สายบอกว่า เมื่อคืนนี้ itv เอาอีกแล้ว หลายฝ่าย ได้ติดต่อเข้ามา อาตมาภาพ ไม่ได้ดูรายการ itv talk เกี่ยวกับการได้สนทนา กับสมณะโพธิรัษ์ ของสันติอโศก ปรากฏว่า ช่วงเช้าโทรศัพท์ก็มา ปรารภว่า itv ได้มีการสัมภาษณ์ ซึ่งได้ประมวลภาพ ให้อาตมาฟัง อาตมาก็ยังไม่เข้าใจ จนอาตมาได้ติดต่อ สถานีโทรทัศน์ itv ปรากฏว่าทาง itv ผู้ที่รับผิดชอบในด้าน เทปเสียงไม่อยู่ อาตมาภาพ ก็ได้ติดต่อไปยัง สันติอโศก ปรากฏว่าได้ส่งเทปเสียงให้ รายการธรรมะส่องโลกของเรา ซึ่งเกี่ยวข้องกับเมื่อคืนนี้ จึงได้ทราบเรื่องราวทั้งหมด ซึ่งท่านที่โทรศัพท์เข้ามา ก็ได้ห่วงใยกับพระศาสนา ในแง่มุมต่างๆ อาตมาภาพบอกว่า จะต้องฟังให้ครบถ้วน และ มีการสอบถามว่า อาตมานี่เห็นอย่างไร เห็นด้วยหรือไม่ หรือว่า itv ทำเกินกว่าเหตุ ซึ่งอาตมาเอง ก็ไม่สามารถ จะตอบได้ เพราะช่วงแรก ยังไม่ได้ดูรายการ และไม่ได้ฟังเสียงรายการ เพื่อให้ท่านทั้งหลาย ได้รับทราบข้อมูล เป็นเพียงเบื้องต้น ในบางส่วน วันหน้า เราก็จะได้ติดต่อ เป็นบางช่วง ซึ่งวันนี้เราก็จะได้พบ กับทนายวุฒิชัย ได้มาวิจารณ์ ในประเด็น เดียวกันนี้ เกี่ยวกับ itv ได้ออกอากาศ เมื่อคืนนี้ ว่าเป็นอย่างไร วันนี้ ทนายก็จะได้ เข้าสาย ก่อนที่ทนายวุฒิชัย จะได้เข้าสายกับเรา ก็จะขอเชิญท่านทั้งหลายเชิญ รับฟังรายการ itv โดยคุณกิตติ สิงหาปัด ร่วมกับสมณะโพธิรักษ์ ว่ามีแง่คิดมุมมองสนทนา กันอย่างไร จึงมีข้อวิพากษ์ วิจารณ์กัน มากมาย ขนาดนั้น ขอให้ท่านทั้งหลาย ตั้งใจฟัง เป็น สัมมาทิฐิ ก็แล้วกัน อย่าเพิ่งมีอคติใดๆ เพราะว่าจะเป็นการปิดกั้น ข้อมูลข่าวสารเสียก่อน ก็ขอให้ท่านทั้งหลาย ร่วมได้รับฟังต่อไป

...เท็ปเสียงตัดการสนทนาในช่วงต้น ที่กล่าวถึงเรื่องคดี และคำถามที่วิพากษ์วิจารณ์ ถึงมหาเถรสมาคมออกไป เริ่มมาสู่ประเด็น เกี่ยวกับการเติบโต ของสันติอโศก ปัจจุบันอยู่ในระดับไหน... แล้วก็มาสู่ประเด็น เครือข่ายของ สันติอโศก ทั้งโรงพิมพ์ ร้านขาย บริษัทต่างๆ ทำธุรกิจกัน อย่างไร... เรื่อยมาถึง พ่อท่านอธิบาย ระบบสาธารณโภคี มีกองกลาง กินใช้ร่วมกัน ไม่รับบริจาค จากคนทั่วไป... แล้วก็มาสู่ ประเด็นคำถาม ทำไมชุมชนอโศกจึงเข้มแข็ง ประเด็นคำถามสุดท้าย ที่ทางรายการนำเสนอก็คือ เกี่ยวกับข่าวพระกับสีกา อาจารย์ป้องกันเรื่องนี้ อย่างไร หลังจากจบคำอธิบาย ตอบคำถามของพ่อท่าน...

พระมหาเดวิด : ที่ท่านทั้งหลายได้ฟังไปนี้ ก็เป็นรายการนำเสนอของรายการ itv talk ที่ถือว่าเป็นกระแส ที่เป็นการวิพากษ์ วิจารณ์กันอยู่ แต่เราไม่สามารถ จะนำเสนอได้ทั้งหมด เพราะว่าเสียงอาจจะไม่ชัดเจน รวมทั้งเวลาค่อนข้างจะน้อยไป ถ้าหากว่า ท่านผู้ฟังจะฟังอีก ก็สามารถติดต่อเข้ามาได้ โดยเราจะได้ติดต่อ ให้กับผู้เกี่ยวข้อง ได้นำเอาฉบับที่มีเสียง ชัดเจนนำมาเพิ่มให้ ก็ถือว่า เป็นส่วนหนึ่ง ที่เราได้ยิน ได้รับทราบจริงๆ ข้อมูลข่าวสารใดก็ตาม ถ้าเราไม่ได้มีข้อมูล อย่างเพียงพอ ก็จะทำให้เรา ได้ตกเป็นผู้ถูกชักนำ ไปในทิศทาง ต่างๆ เพราะว่า เราไม่มีผู้นำข่าวสารให้ แต่รายการ ธรรมส่องโลก ก็เป็นส่วนหนึ่ง ในการเป็นทางออกให้กับท่าน นั่นคือ ข้อมูลข่าวสาร ช่วงนี้ก็จะได้พบกับ ทนายวุฒิชัย ซึ่งก็ได้อยู่ในสายของเรา เรียบร้อยแล้ว เจริญพร

วุฒิชัย : กราบนมัสการครับพระมหาเดวิด

พระมหาเดวิด : วันนี้ก็มีประเด็นหนึ่งที่จะสอบถามทนายวุฒิชัย ซึ่งรายการโทรทัศนของ itv เมื่อคืนไม่ทราบว่า โยมทนาย ได้ดูได้ฟังไหม เมื่อคืนนี้

วุฒิชัย : อ๋อ เมื่อคืนเป็นรายการ itv talk นะครับ เขาสัมภาษณ์ บทสรุปข่าวของ ท่านโพธิรักษ์ แห่งสำนัก สันติอโศก ผมได้ดูตั้งแต่ต้น จนจบนะครับ มันก็เป็นข้อคิด มันทำให้มองข้อเปรียบเทียบ ระหว่างคณะสงฆ์ ซึ่งถูกต้องตามกฎหมาย กับคณะสงฆ์ ซึ่งถูกคัดออกจาก มหาเถรสมาคม ไม่อยู่ภายใต้การดูแล ของคณะสงฆ์ ในความปกครอง ของมหาเถรสมาคม มันเป็นเรื่องที่น่าคิด เพราะว่าทางสันติอโศกนั้น เขาถือว่า เขาตั้งข้อ ปฏิบัติธรรม ตามแนวทาง ของพระพุทธเจ้า เขาไม่ได้สนใจว่า เขาจะมีสมณศักดิ์ หรือจะมีตำแหน่งหน้าที่อะไร เขาตั้งใจที่ปฏิบัติธรรม แล้วในแนวทาง การรับบริจาค เขาค่อนข้างชัดเจนแน่ว่า ถ้าคุณไม่เคยไปวัดถึง ๗ ครั้ง และไม่อ่านหนังสือเขา ๗ เล่ม หรือ ไม่เคยฟังเท็ปเขากี่ครั้ง เขาจะไม่ยอมรับบริจาคเงินของคุณ อันนี้มันเป็นเรื่องอันน่าสนใจ และอีกประเด็นหนึ่ง เขาเน้นในเรื่อง บุญนิยม ปัจจุบันนี้ โลกเขาใช้ทุนนิยม บุญนิยมหมายความว่า ใช้บุญมาส่งเสริม

ในทุนนิยมนั้น การคิดค่าใช้จ่าย มันมีค่าแรงงาน ในค่าแรงงาน บางครั้งมันก็แพง บุญนิยม นั้นก็หมายความว่า ขายของต่ำกว่าทุน ก็คือว่า คิดค่าแรงต่ำที่สุดเท่านั้น จะทำได้คือ ถ้าพูดถึงโดยหลักการค้าทั่วไปนี่ สมมติ ของทุนนิยม ทั้งค่าแรง ค่าของรวมไปแล้ว ๑๐๐ บาท แต่ เป็นค่าแรงเสีย ๔๐ บาท ถ้าหากว่าคิดค่าแรง ๒๐ บาท ราคามันก็ต้องเป็น ๘๐ ฉะนั้น ถือว่าเป็นราคาต่ำกว่าทุน แต่ว่าจะมีผล ที่จะประกอบการออกมา ทีนี้ความหมายของบุญนิยม ของสันติอโศก มันเป็นเรื่องที่น่าคิด ตรงที่ว่า ความเข้มแข็งขององค์กร ในชุมชน ของสันติอโศกนั่น มันเหมือนลักษณะ ของคิบบุช ในอิสราเอล มันมีลักษณะ เหมือนกับหน่วยงาน หรือ หมู่บ้าน หรือชุมชน ซึ่งใช้ระบบ เหมือนคอมมิวนิสต์ คือเป็น สมบัติกลาง คือบางคนทำงาน โดยไม่มีค่าแรง แต่ก็มีความสุข เขามีสิ่งที่เขาพอใจ สิ่งที่ทำให้เขาได้อะไรต่างๆ คือ เป็นการเน้นให้เห็น ถึงลักษณะการเสียสละ เพื่อส่วนรวม จะดีหรือไม่ดี เป็นข้อเปรียบเทียบมา

ถ้ามาดูในสังคม พุทธศาสนาของเรา ในปัจจุบันนี้ มหาเถรสมาคมน่ะ ไม่ได้มีบทบาท ในการเผยแพร่ พระพุทธศาสนา ชัดเจนนัก และข้อวัตรปฏิบัติ ของพระสงฆ์ในปัจจุบัน ก็ไม่สามารถชี้ ให้เห็นว่า แนวทางปฏิบัติต่างๆนั้น ถูกต้องตาม สมัยพุทธกาลหรือไม่ การที่ itv เสนอสกรู๊ปของสันติอโศกนี่นะ มันเป็นข้อเปรียบเทียบ

พระมหาเดวิด : คือตอนนี้ ทนายมองอย่างไรว่า เจตนาของ itv

วุฒิชัย : คือ เจตนาของ itv เขาพยายามมองว่า ปัจจุบันคณะสงฆ์ตามที่มหานิกาย หรือธรรมยุติ ที่ปกครองโดย มหาเถรสมาคมนี่นะ มีแต่ปัญหาวุ่นวาย มีแต่ปัญหาเกี่ยวกับ เรื่องที่ผิดพระธรรมวินัย เกี่ยวกับการละเลิกกิเลส อะไรต่างๆนี่นะ คือไม่ปฏิบัติธรรมที่ เป็นแก่นแท้ของธรรม แล้วขณะเดียวกัน กับมองไปเห็นอีกกลุ่ม อีกหน่วยหนึ่ง ซึ่งไม่ได้อยู่ใน มหาเถรสมาคม แต่เขาจัดองค์กรของเขา มีการขยายองค์กรนี่นะไปเรื่อยๆ กลับมามี อีก ๑๐๐ ชุมชน แล้วเขาอยู่กันอย่างเข้มแข็ง มันก็เป็นที่น่าสนใจ ในภาวะเศรษฐกิจ ปัจจุบัน นะครับ

พระมหาเดวิด : จะถือว่า itv โชว์เป็นทางเลือก ให้กับศาสนิกชนทั่วไปไหม รวมทั้งชาว พุทธ

วุฒิชัย : มันเหมือนกับ itv ต้องการชี้นำให้คนมีความคิด ซึ่งตอนนี้ มันมีวิกฤติศรัทธาเกิดขึ้นมา เหมือนกับ ชี้นำว่า คุณไม่จำเป็น จะต้องไปปฏิบัติ หรือไปนับถือ ทางสายของพุทธศาสนา ในปัจจุบันนี้หรอก มันมีทางเลือกอีก เป็นมุมมองผม คิดว่าคนรุ่นใหม่ คนที่เขาเข็ดข่าว สารต่างๆ มีทางโน้มเอียง ที่จะไปเลื่อมใส ศรัทธา แล้วก็ทำจริงๆด้วย อันนี้แหละครับ คณะสงฆ์ ต้องมาพิจารณาว่า ถึงเวลาแล้วหรือยัง พระมหาเถระ ซึ่งมีอายุมากๆนะ แล้วก็เป็น พระมหาเถรสมาคม ไม่สามารถที่จะไปปกครอง ให้ทันเหตุการณ์อะไรต่างๆ ต้องพิจารณา ว่ากฎหมายสงฆ์ฉบับใหม่ ควรจะไปแนวทางไหน ถ้าหากว่า ไม่ปรับปรุง แก้ไขกฎหมาย สงฆ์แล้ว พระเองนี่นะ เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น ไม่ดูแล ไม่สอดส่อง ไปเน้นแต่การ สร้างวัตถุ ไปเร่งรัดให้มีการสร้างโบสถ์ วิหาร อะไรต่างๆ โดยที่ว่า เพื่อเป็นการเลื่อนสมณศักดิ์ อันนี้ถือว่า เป็นอันตราย มันสะท้อนกลับมาว่า เมื่อมีการเร่งรัด ในการก่อสร้างวัตถุโบราณ อะไรต่างๆนี่ มันก็ทำให้โน้มเอียงที่ว่า ชาวบ้านเอง ก็จะแสวงหา ผลประโยชน์ คณะสงฆ์เอง ก็จะมีส่วนได้ส่วนเสีย ในเรื่องนี้แหละครับ เราต้องมาพิจารณาว่า จำเป็นหรือไม่ เพียงใด ในการที่จะใช้หลักเกณฑ์ตรงนี้ พิจารณาเลื่อนสมณศักดิ์ จำเป็นไหมว่า พระรูปใด ที่มีการพัฒนา ที่มีการก่อสร้าง สถานโบราณวัตถุ อะไรต่างๆนี่นะ ควรจะได้รับการเชิดชู หรือไม่เพียงใด อันนี้ต้องพิจารณาไหม

พระมหาเดวิด : ก็ถือว่า itv นี่ หลังจากที่ได้ลงข่าวอิสระมุนีไปในทางที่เสียหาย จึงพยายามที่จะชี้นำ หรือว่า หาทาง เลือกใหม่ โดยไม่มองว่า ผู้ที่เขาเสนอนะ อยู่นอก นานาสังวาส ของคณะสงฆ์ของเรา หรือชาวพุทธ ที่วิพากษ์ วิจารณ์กันอยู่ว่า เหมาะสมหรือไม่ ที่จะไปนำเสนอข่าว ของสันติอโศก แต่ว่าถ้ามองในภาพรวม ก็ไม่น่าจะเสียหาย ตามที่โยม ทนายได้เสนอขึ้นมา ในการแสดงความคิดเห็น

วุฒิชัย : คือผมคิดนะครับว่า อะไรก็ตาม ที่ชี้นำประชาชนนี่นะครับ อยู่ที่ศีลธรรมอันดีงามนี่ นะครับ ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ตามทำนอง คลองธรรม ด้วยความผาสุก ไม่โลภโมโทสัน ไม่แก่งแย่ง ชิงดีชิงเด่น ผมถือได้ว่า คือศีลธรรมที่ดีที่สุดนี่นะ ถ้าสมมติว่า ปัจจุบันนี่นะ คุณบอกว่า นับถือศาสนาพุทธ แต่คุณไม่ปฏิบัติ ไม่มีที่ใดที่มาชี้นำ วิธีปฏิบัติที่ จะซึมซับเข้าไป ในวิถีชีวิตประจำวันได้ สุดท้ายนี่นะครับ มันก็คือ ไม่นับถือ ศาสนาอะไรเลย...

ข้างต้นนี้เป็นเพียงบางส่วนจากรายการวิทยุ "ธรรมส่องโลก"

นอกจากรายการวิทยุ ๒ รายการที่วิพากษ์วิจารณ์ ถึงรายการ itv talk จากแง่มุมของ พระที่จัดรายการธรรม ทางวิทยุแล้ว ยังมีปฏิกิริยา จากชาวบ้าน ประชาชน ที่เข้ามาเดินชม สถานที่ของสันติอโศก แล้วบอกเล่า ให้ฟังว่า ได้ดูรายการ itv talk ท่านโพธิรักษ์ ตอบได้กระจ่าง ชัดเจนดี จึงสนใจอยากมาดู แม้แต่การเดินทาง ไปภาคใต้ ร่วมงาน ที่ทักษิณอโศก ก็ได้ฟังคำบอกเล่า จากสมณะว่า ชาวบ้านที่ได้ดูรายการ วิพากษ์วิจารณ์ กันว่าดี

ร่วมงานที่ทักษิณอโศก
เยี่ยมสมณะมนาโป ที่เกาะสมุย

อ่านต่อ หน้า 3/3

(สารอโศก อันดับ ๒๔๓ ธันวาคม ๒๕๔๔)