ไต้ร่มอโศก: ศูนย์รวมข่าวคราวของญาติธรรมจากทั่วสารทิศ เพื่อเสริมสร้างกำลังใจ ให้กรรมฐานและแก้ปัญหาของนักปฏิบัติธรรม หนังสือพิมพ์สารอโศก อันดับที่ 228 ฉบับ เดือนกันยายน 2543
หน้า 2/2

ท้อได้แต่ไม่ถอย !
        ญาติธรรม จุฑารัตน์ ตัดสินใจอีกครั้ง ขอมาสู้ในวัด ตายในวัด !

        "คงมีโอกาสตอบครั้งนี้อีกเป็นครั้งสุดท้าย เพราะดิฉันตัดสินใจเข้าวัดอีกครั้งอย่างมั่นคงและแน่นอน ตัดห่วงกังวลจนเหลือแค่ใยบางๆ ได้รับสารอโศก ฉบับเพื่อฟ้าดิน อ่านบทความท่านกลางดิน ใยบางๆยังไม่หมด แต่ยิ่งมั่นคงชัดแจ้งที่จะ

        ก้าวไปบนเส้นทาง ทางที่พ่อพาเดิน

        สร้างประโยชน์มากเหลือเกิน ต่อสรรพสิ่งในโลกา

        เปลี่ยนใจผู้เบียดเบียน ให้เพ่งเพียรทางสัมมา

        ดำเนินชีวิตอย่างเมตตา โลกกลับมาสู่สุขคือเดิม..."

        สาธุ ๆ ยินดีต้อนรับวัวงานตัวใหม่อีกครั้งหนึ่ง! "วิบาก"คนเราก็ต่างกัน "บารมี"ก็ไม่เท่ากัน จึงต้องอยู่กันอย่าง"เห็นใจ"และ"เข้าใจ"

    อยู่กับหมู่ ยิ่งนานยิ่งเห็นข้อบกพร่อง ของคนอื่น ของหมู่กลุ่ม จะเกิดผล ๒ ด้าน คือ ยิ่งเห็นใจ รักหมู่คณะ หรือ ยิ่งเกลียดชัง เบื่อระอา!

    ทั้งนี้เพราะเราอยู่อย่าง ศึกษา หรือ ถือสา

"คนมองตน"เท่านั้นที่ฝ่าด่านอรหันต์นี้ได้ มองโจทย์ทุกข้อเป็นการฝึกตัดกิเลสของตัวเอง

เราจะเล็กลงๆๆๆๆ ไปสู่สุญญตาในที่สุด จุ๊ย์ๆๆ

เรื่องของเทวฑูต ๔
    เทวทูต ๔ เป็นนิมิต ที่ทำให้เจ้าชายสิทธัตถะ ฉุกคิดเรื่องชีวิต และสุดท้ายเกิดนิพนิทาญาณ ออกเนกขัมมะ

    จากญาติธรรม สงวน (อ.โนนสอาด อุดรธานี)

    "ผมต้องทุกข์ทรมานกับโรคนี้ทุกวัน แต่ก็ไม่เป็นไรผมเป็นลูกพ่อทนได้ ถ้าผมไม่ได้พบกับอโศก ผมจะมีความทรมานมากกว่า เนื่องจากว่าทำใจไม่ได้ ผมนึกถึงคำพูดของพระท่านหนึ่งที่ว่า อย่าไปเสียดายชีวิตเลย เพราะว่าไม่ดีเหมือนเดิม รูปร่างก็โทรมลง ปวดนั่นปวดนี่อยู่เนืองๆ รูปร่างก็ไม่หล่อเหลาเหมือนเมื่อก่อน อะไรๆก็ไม่ดีเหมือนเมื่อก่อนแล้ว คงเป็นไปตามกรรม เราทำกรรมอันใดไว้เป็นบุญหรือเป็นบาป จะได้รับผลของกรรมนั้นๆแล้ว

    ผมก็คิดว่าเรามีกรรมแต่ชาติปางก่อนจึงมาเสวยกรรมตอนนี้ เกิดชาติหน้าคงจะเกิดมาดีกว่านี้ ผมยังไม่สบายเจ็บกระดูกอยู่ในระหว่างการพักฟื้นอยู่ ผมขอตอบรับเพียงแค่นี้..."

    พวกเราใครว่าง ก็เยี่ยมเยียนเป็นกำลังใจกันบ้าง แต่เจ้าตัวก็มี"ปัญญา"ทำความเข้าใจกับ"วิบาก"ของตัวเองได้ดี

    นึกถึงพวกเราหลายคน ที่กระทบเรื่องโน้นเรื่องนี้ นอกจากจะฝึก "มองตน" แล้ว (ประโยชน์ในการลดละ) จิ้งจกก็อยากให้คิดถึง "กฎแห่งกรรม"บ้างนะฮะ เป็นวิบากของเรา หัดท่องไว้บ้างก็น่าจะดี  จะได้ไม่ต้องบ่น ทำไมต้องเป็นเรา? จุ๊ย์ๆๆ

มัจฉาบ้านราชฯ
    วัดไหนมีคลอง ปลาก็มักจะมีสัมผัสที่ ๖ มาออกินอยู่กันอย่างสนุกสนาน ญาติมิตรสารทิศหลายคลอง ทยอยมาสังสรรค์ กระโดดเพี้ยพะ ตูมตามกันสลอน

    บ้านราชฯของเราก็เหมือนกัน ปลาตัวโตตัวเล็ก เชื่องเหมือนลูกหมา! ลูกหัวเล่นได้ มีอะไรก็กินง่าย แต่บรรดาอาหารสุดปลื้ม ข่าวแจ้งว่า คือ "ข้าวเหนียว"นั่นเอง

    อ๋อ แน่นอน ปลาบ้านราชฯ คือปลาลาวธรรมดาเด๊อ !  จุ๊ย์ๆๆ

เจโตต้องมีปัญญา
    "ดิฉันกินมังสวิรัติตั้งแต่ ๓๑ ส.ค.๒๕๔๑ กิน ๒ มื้อบ้าง ๓ มื้อบ้าง ตั้งแต่กินมังสวิรัติ มันทำให้ไม่โมโหง่าย ใจเย็น ไม่อืดท้องแน่นท้องเหมือนแต่ก่อน ความโกรธก็ไม่ค่อยมี..."     ญาติธรรม อำไพ (อ.สุวรรณคูหา หนองบัวลำภู)

    "ก็มีความรู้สึกเหมือนเพื่อนๆสมาชิกหลายๆท่านได้รายงานมา คือ ทำให้จิตใจสงบขึ้น ลดความโมโหความโกรธ ทำอะไรก็มีสติขึ้น รู้สึกมีกำลังใจที่จะทำความดียิ่งๆขึ้น..."   ญาติธรรม ส.๒๕๔๕๖๖ (อ.ดอยสะเก็ด เชียงใหม่)

    ตัวอย่าง ๒ ราย และอีกมากมายที่ไม่ได้นำมาลง ก็เป็นข้อคิดเตือนใจนะฮะว่า เอ๊ะ! เขาปฏิบัติ เขาสบาย แต่บางคนกลับเกรี้ยวกราด อารมณ์เสีย หงุดหงิดง่าย ขี้ทุกข์ คงต้องมีอะไรที่ไม่ถูกไม่ต้องเป็นแน่

    ฮะ ไฟเผาขยะ ตบะเผากิเลส ตบะที่เราประพฤติ ที่เราเคร่งครัด ต้องทำด้วยจิตโยนิโสมนสิการ (ดูใจอ่านใจขณะปฏิบัติ, หยั่งเข้าหาเจตนารมณ์ของตบะที่ประพฤติเสมอๆ) จึงจะสำเร็จผล

    ยิ่งอยู่นาน แล้วยิ่งหดหู่ ยิ่งขี้รำคาญ อโศกไม่ได้ทำร้ายเขา แต่เขาทำร้ายอโศกต่างหาก อย่างน้อย คนที่คบหาก็ต้องดูแคลนสำนักที่เขาปฏิบัติอยู่! จุ๊ย์ๆๆ

ธรรมะกับกายสักขี
    จากญาติธรรม ณัฐกฤตา (อ.ดอยสะเก็ด เชียงใหม่)

    "เมื่อวันเข้าพรรษา ดิฉันก็พาลูกๆขึ้นสังฆสถาน"ภูผาฟ้าน้ำ" นอนพักค้างสองคืน ก็ได้ฟังธรรมจากสมณะเต็มที่ และได้ร่วมตั้งตบะช่วงเข้าพรรษาด้วยค่ะ ดิฉันได้ตั้งตบะไว้ ๓ ข้อด้วยกันค่ะ คือ ข้อ ๑. จะเลิกโกรธ ข้อ ๒. จะไม่ทานขนมหวานทุกชนิด ข้อ ๓. จะตอบรับเมื่อได้รับหนังสือจากสมาคมผู้ปฏิบัติธรรมส่งมาให้ทุกครั้งค่ะ..."

    วันนี้ พวกเรามีกายสักขี เพิ่มขึ้นอะไรบ้าง? จุ๊ย์ๆๆ

ตัวอย่างชีวิตของชาวอโศก
    "...และกินมังสวิรัติครบ ๓ ปี คิดว่ายังน้องเมื่อเทียบกับคนอื่น และคิดว่ายังมีอะไรอีกหลายอย่างที่ควรจะปฏิบัติลดละความโกรธ ความขุ่นใจ การชอบพูดเล่น คิดว่าจะพยายามดูจิตใจให้มากขึ้น บางทีก็คิดว่าการคิดกับคนอื่นในแง่ร้าย ก็เป็นเรื่องที่ไม่ควร เพราะจิตดิฉันชอบแวบไปคิดในแง่ร้ายกับคนบางคน จิตมันไปเร็ว ยอมรับว่ายังตามไม่ค่อยทันค่ะ แต่จะพยายามค่ะ..."

    อ่านจดหมายของญาติธรรม ดวงดาว (อ.หาดใหญ่ สงขลา) คงพอมองเห็นนะครับ ว่าวันคืนผ่านไป เราจะทำอะไร

    ภาษาของท่านอาจารย์พุทธทาส ต้องบอกว่า จัดการ"ของกู"ก่อน อะไรที่คิดว่าเราจะต้องมีต้องได้ต้องกิน จุดเด่น"ของกู" อยู่ที่ตัววัตถุ(รูปธรรม)

    ใน"ของกู"ก็ยังมีรั้ว คือ ศีลกับอบายมุขกั้นไว้ กันแหกค่าย ต่อมาก็"ตัวกู" จุดเด่นจะเป็นเรื่องของ"อารมณ์"ถือสา ติดตามอารมณ์อ่านใจเสมอ ทุกครั้งที่"โทสะ" เห็นชัดว่า"กิเลส"ในตัวเองคือตัวไหน จับให้ทัน พิจารณาให้มาก โทสะก็จะค่อยๆเบาบางลง จากปฐวีธาตุเขยิบเป็นอาโปธาตุ เป็น วาโย(น้ำ) และไฟในที่สุด

    ญาติธรรมของเราบางคน แค่โทสะก็ยัง"แน่น"เหมือน"แผ่นดิน" ทั้งนี้เพราะยังจับจิตตัวเองไม่ทัน แม้จะอยู่กับอโศกมานานก็ตาม

    สรุปง่ายๆ ก็คือ จัดการโลภะเป็นลำดับแรก โทสะก็เป็นลำดับต่อมา แต่จะจัดการพร้อมกันไปเลยก็ยิ่งดีใหญ่

    ขั้นตอนเหล่านี้ อธิบายเป็นภาษาเก่า เราจะได้คำว่า"สติปัฏฐาน"

    -กายในกาย (สิ่งที่อยู่นอกตัว แต่หลงว่า ต้องมีต้องเป็นต้องได้)

    - เวทนาในเวทนา (เริ่มปฏิบัติจับอารมณ์สุข ทุกข์ชัดเจนว่า ไม่ใช่ของแท้ เป็นแค่เราหลงยึดไปเอง)

    - จิตในจิต (เริ่มจับอารมณ์ชัดเจนขึ้น เห็นจิตปรุงแต่งสังขาร โกรธ-เคือง-ไม่สบายใจ-ทุกครั้งๆไม่เคยโทษใคร เฝ้ามองแต่จิตตัวเอง มันยึดอะไรๆๆๆ)

    - ธรรมในธรรม (เอาชนะมาเรื่อยๆ เราก็ค้นพบตัวเอง เบาว่างขึ้น สบายมากขึ้น โอ้ โลกนี้ไม่มีอะไร มองให้ดีมองทะลุหนังหมาหนังควาย ก็แสนจะไม่มีอะไร!)

    เป็นอย่างไรฮะ ภาษาสมัยเก่า กับภาษาอโศกไปด้วยกันได้ พอเข้าใจ ใช่ไหมฮะ รู้ปริยัติบ้างก็ไม่เสียหายหรอกฮะ จุ๊ย์ๆๆ

เมื่อถึงเวลาดอกไม้บาน
    จากญาติธรรม ประจวน (อ.เดชอุดม อุบลฯ) "ดิฉันเคยปฏิบัติมาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนยังไม่แต่งงานแต่ก็ล้ม ล้มมาหลายปี แต่วันนี้หยิบขึ้นมาอ่าน และสนใจเข้าใจกว่าเดิม"

    ใครที่ไม่มาวันนี้ ก็อย่าด่วนดูถูกนะฮะ ภาษาอจินไตยท่านจะบอกว่า "ยังไม่ถึงเวลา" "ยังไม่ถึงรอบ" อาจจะหมายถึง รอให้แก่แดดแก่ลมกว่านี้ เข้าใจโลกกว่านี้ ถึงค่อยมาก็เป็นได้

        มาแล้วตีลังกากลับ หลายเที่ยว ก็เป็นเรื่อง ที่ต้องหัดเข้าใจ วิถีชีวิตของคน ทุกคนต้องสะสมข้อมูล เมื่อพร้อม เขาก็จะมาเอง                 ขอให้พวกเรามีหน้าที่เป็นกำลังใจก็แล้วกัน นะฮะ จุ๊ย์ๆๆ

                                                                                                        จิ้งจกส์

 

คติประจำเดือนนี้
เด็กทุกคนก็คงจะต้องผ่านการ "ล้ม"

แต่ล้ม...จงลุก

และจงอย่าคลุกคลาน...เป็นอันขาด