อ่านฉบับที่ : พระรมณียวิหารีเถระพระรมณียวิหารีเถระพระรมณียวิหารีเถระ | พระเอกุโปสถิกาเถรีพระเอกุโปสถิกาเถรีพระเอกุโปสถิกาเถรี |

กว่าจะถึงอรหันต์ โดย ณวมพุทธ ตอน...
พระเอกุโปสถิกาเถรี
หนังสือพิมพ์สารอโศก อันดับที่ 231
หน้า 1/1

พระเอกุโปสถิกาเถรี

ในอดีตชาติ ของ พระเถรีชื่อ เอกุโปสถิกา รูปนี้ ได้สร้างสมบุญบารมีเอาไว้แม้ในสมัย ของ พระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ มาแล้ว โดยได้เกิด เป็นกุมภทาสี (หญิงรับใช้ที่ทำหน้าที่นำหม้อไปตักน้ำ) อยู่ในเรือน ของ กุฎุมพี (คนร่ำรวย) คนหนึ่ง ในพระนครพันธุมดี ซึ่งปกครอง โดยกษัตริย์ผู้ทรงธรรมพระนามว่า พันธุมา

ทุกๆ วันเพ็ญ (วันพระขึ้นและแรม ๘ ค่ำกับ ๑๕ ค่ำ หรือ ๑๔ ค่ำในเดือนขาด) อันเป็นวันอุโบสถ พระเจ้าพันธุมาทรงรักษาอุโบสถศีล (ศีล ๘) เป็นประจำมิเคยขาด แม้เวลาก่อนเสวยพระกระยาหารเช้า ก็ทรงทำบุญทำทานเสียก่อน เมื่อเสวยเสร็จแล้ว จึงเสด็จไปฟังธรรม ทำให้ผู้คนอื่นๆ พลอยประพฤติถือศีล ๘ ในวันพระไปด้วย

วันหนึ่ง.....จู่ๆ นางกุมภทาสีก็ได้บังเกิดแสงสว่างแห่งกุศลขึ้นในจิตใจว่า"ในวันอุโบสถ พระราชาทรงละราชกิจมาถือศีล ๘ แม้เสนาอำมาตย์และมหาชน เป็นอันมาก ก็พากันถือศีล ๘ เหมือนพระราชาทรงปฏิบัติทุกอย่าง แสดงว่า การกระทำอย่างนั้นต้องมีผลดีแน่นอน ทุกๆ คน จึงล้วนพากันเบิกบานใจยิ่งนัก"

นางได้คิดอย่างแยบคาย กระทั่งพิจารณาเห็นทุคติ (ทางที่พาไปสู่ชั่ว) และความที่ต้อง เป็นคนยากไร้ ทั้งเห็นทางที่จะพาให้พ้นทุกข์ไปได้ จึงทำให้ร่าเริงใจ ตั้งจิตรักษาอุโบสถศีล ในพระศาสนา ของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ได้พากเพียรประพฤติศีล ๘ ให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ดี ตราบกระทั่งสิ้นอายุขัย

ศีลอุโบสถ

อริยอุโบสถ อันบุคคลรักษาศีล ๘ อย่างนี้แล้วย่อมมีผลบุญมาก มีประโยชน์มาก มีความรุ่งเรืองมาก มีความแผ่ไพศาลมาก คือ

๑.ละการฆ่าสัตว์ เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ วางโทษภัย วาง ของ มีคมแล้ว ความละอายต่อการทำบาปมีความเอ็นดู มีความกรุณา หวังประโยชน์แก่สัตว์ทั้งปวงอยู่ แม้ด้วยการกระทำอย่างนี้ ตลอดคืนหนึ่งกับวันหนึ่งในวันนี้ เราก็ชื่อว่าได้ทำตามพระอรหันต์อยู่

๒. ละการลักทรัพย์ เว้นขาดจากการลักทรัพย์ รับแต่ ของ ที่เขาให้ ต้องการแต่ ของ ที่เขาให้ ไม่ประพฤติตน เป็นขโมย ประพฤติตน เป็นผู้สะอาดอยู่ แม้ด้วยการกระทำอย่างนี้ ตลอดคืนหนึ่งกับวันหนึ่งในวันนี้ เราก็ชื่อว่าได้ทำตามพระอรหันต์อยู่

๓. ละการกระทำ เป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์ เพียรประพฤติพรหมจรรย์ตลอดชีวิต ประพฤติห่างไกลจากเมถุน เว้นขาดจากเมถุนอัน เป็นกิจ ของ ชาวบ้าน แม้ด้วยการกระทำอย่างนี้

ตลอดคืนหนึ่งกับวันหนึ่งในวันนี้ เราก็ชื่อว่า ได้ทำตามพระอรหันต์อยู่

๔. ละการพูดโกหก เว้นขาดจากการพูดโกหก พูดแต่คำจริง ดำรงคำสัตย์ พูด เป็นหลักฐานเชื่อถือได้ ไม่พูดลวงโลก แม้ด้วยการกระทำอย่างนี้ ตลอดคืนหนึ่งกับวันหนึ่งในวันนี้ เราก็ชื่อว่าได้ทำตามพระอรหันต์อยู่

๕. ละการเสพ ของ มึนเมาให้โทษ อัน เป็นที่ตั้งแห่งความประมาท เว้นขาดจาก ของ มึนมาให้โทษ แม้ด้วยการกระทำอย่างนี้ ตลอดคืนหนึ่งกับวันหนึ่งในวันนี้ เราก็ชื่อว่าได้ทำตามพระอรหันต์อยู่

๖. กินอาหารมื้อเดียว เว้นการกินอาหารในเวลามืดค่ำ งดการกินอาหารนอกมื้อนอกเวลา แม้ด้วยการกระทำอย่างนี้ ตลอดคืนหนึ่งกับวันหนึ่งในวันนี้ เราก็ชื่อว่าได้ทำตามพระอรหันต์อยู่

๗. เว้นขาดจากการฟ้อนรำขับร้อง การประโคมดนตรี ดูการเล่นอันเป็นข้าศึกแก่กุศล ทัดทรงประดับตกแต่งร่างกาย ด้วยดอกไม้ ของ หอม และเครื่องประเทืองผิว อันเป็นฐานะแห่งการแต่งตัว แม้ด้วยการกระทำอย่างนี้ ตลอดคืนหนึ่งกับวันหนึ่งในวันนี้ เราก็ชื่อว่าได้ทำตามพระอรหันต์อยู่

๘. ละการใช้ที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่ เว้นขาดการใช้ที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่ ให้สำเร็จการนอนบนที่นอนอันต่ำเล็ก คือเตียงหรือเครื่องปูลาดที่ทำด้วยหญ้า แม้ด้วยการกระทำอย่างนี้ ตลอดคืนหนึ่งกับวันหนึ่งในวันนี้ เราก็ชื่อว่าได้ทำตามพระอรหันต์อยู่.

ด้วยผลบุญแห่งการถือศีลไว้ดีแล้วนั้น ทำให้นางได้สวรรค์ (สภาวะสุข ของ ผู้มีจิตใจสูง)

ชั้นดาวดึงส์ มีวิมานสวยงามสูงถึง ๑ โยชน์ (๑๖ ก.ม.) ประกอบด้วยเรือนยอด มีที่นั่งใหญ่โตประดับประดาอย่างดี พร้อมนางฟ้า (ผู้มีจิตใจสูง) แสนนางคอยบำรุงบำเรอให้ตลอดเวลา ส่วนตัว ของ นางเอง ก็มีความงามรุ่งเรือง ยิ่งกว่านางฟ้าทั้งปวงเหล่านั้น

ผลบุญแห่งการถือศีลอุโบสถ ยังส่งผลให้ได้มาเกิดในสมัย ของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์สมณโคดม กำเนิดในตระกูลเศรษฐี ของ กรุงสาวัตถี มีผิวพรรณงามดั่งทองคำ เป็นผู้ประเสริฐในที่ทุกสถาน ครบพร้อมด้วยเครื่องหอมชนิดดี ดอกไม้ จุรณ (แป้งฝุ่น) สำหรับลูบไล้ ผ้าไหม ผ้าขนสัตว์ ผ้าเปลือกไม้ ผ้าฝ้ายและผ้าราคาแพง ภาชนะเงิน-ทอง-แก้วผลึก-แก้วทับทิม ข้าว น้ำ ของ ขบเคี้ยว ที่อยู่อาศัยอันเป็นเรือนยอด ปราสาท มณฑป เรือนโล้นและถ้ำ แม้ยานช้าง ยานม้า และยานรถ ได้ทุกอย่างมากมายถ้วนทั่วทุกสิ่ง

เมื่อนางอายุได้แค่ ๗ ขวบ รู้เดียงสาดีแล้ว พอได้ฟังธรรมก็เกิดศรัทธาแรงกล้าในพระพุทธศาสนา จึงขอบวช เป็นบรรพชิต บวชแล้วไม่ถึงครึ่งเดือน ก็ได้บรรลุธรรม เป็นพระอรหันต์ ผู้เผากิเลสสิ้นเกลี้ยงแล้ว ถอนภพทั้งหมดได้แล้ว บัดนี้ภพใหม่ไม่มีอีกต่อไป ไม่มีทุคติ (ทางไปชั่ว) อีกเลย นี้ เป็นผลแห่งอุโบสถศีล โดยแท้

ครั้นบรรลุธรรมแล้ว พระเอกุโปสถิกาเถรีได้กล่าวคาถานี้ขึ้นว่า

"กิเลสทั้งปวงเราเผาได้แล้ว ภพทั้งหลายเราถอนได้แล้ว เครื่องผูกพันทั้งหมดเราตัดขาดแล้ว ดุจพญาช้างตัดเครื่องพันธนาการได้ แล้วอยู่อย่างอิสระ ฉะนั้น

การที่เราได้มาในสำนัก ของ พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด เป็นการมาดีแล้ว โดยแท้ วิชชา ๓ (คือ ๑.ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ รู้ระลึกชาติได้ ๒.จุตูปปาตญาณ รู้การเกิดและดับ ของ สัตว์โลก ๓.อาสวักขยญาณ รู้ความสิ้นไป ของ กิเลส) เราได้บรรลุแล้ว โดยลำดับ

แม้คุณวิเศษเหล่านี้คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ เราก็ได้ทำให้รู้แจ้งแล้ว คำสั่งสอน ของ พระพุทธเจ้าเราได้ทำสำเร็จจบสิ้นแล้ว"

end of column

กว่าจะถึงอรหันต์ โดย ณวมพุทธ (สารอโศก อันดับ ๒๓๑ หน้า ๘๐-๘๓)

อ่านฉบับที่ : พระรมณียวิหารีเถระพระรมณียวิหารีเถระพระรมณียวิหารีเถระ | พระเอกุโปสถิกาเถรีพระเอกุโปสถิกาเถรีพระเอกุโปสถิกาเถรี |