[เลือกหนังสือ]      ปก | คำนำ | สารบัญ | ภาคผนวก | คัชนี | ผู้เขียน
page: 5/7

[สงคราม] [เราข้ามเวลามาพบกันแล้ว] [กับคู่กาม] [กับคู่กัด] [กับคู่แข่ง] [กับคู่เกื้อกูล] [ในความเป็นคู่]


[5] กับคู่แข่ง

โลกนี้มีสังเวียนมากมายท้าทายให้คนเข้าสู่ เพื่อต่อสู้เพื่อแข่งขัน หากผู้ใดไม่รู้เท่าทันความคึกคะนองของใจ ไม่คำนวณคำนึงถึงวัย และวันคืนแห่งชีวิตที่ต้องทุ่มโถมลง ทั้งความสามารถอันตนมี ที่สำคัญคือรางวัลหลังชัยชนะบนสังเวียนนั้นกำนัลมา มีคุณค่าคู่ควรรับคำดวลเข้าต่อสู้สู่ชัยชนะจริงหรือ ผู้นั้นอาจต้องกลายเป็นนักสู้ไม่รู้เสร็จสำส่อนสังเวียนไม่รู้สร่าง บางทีนักสู้ดังกล่าวยิ่งมีชีวิตยืดยาว ยิ่งมากมีเรื่องราวนึกแล้วปวดร้าวไม่น้อยเรื่อง ลองถามไถ่ผู้ล่วงกาลผ่านวัยอย่างไม่ธรรมดา ไม่ไร้ปัญญาพินิจดู…ย่อมรู้ดี

การต่อสู้แข่งขันบนสังเวียนเยี่ยงนั้น มีเหตุปัจจัยมากอยู่ แต่ที่นำโทษภัยมาสู่อย่างสำคัญคือ…
ลุ่มหลงความเหนือกว่า เหนือกว่าใครใดหมด

โดยเฉพาะคู่เก่งหรือคู่แข่งของตน เฉกเช่นจิวยี่ที่โอดร้องฟ้องฟ้าว่า…โลกให้ข้าจิวยี่มาเกิดแล้วไฉนต้องให้ขงเบ้งมาเกิดด้วยเล่า
บอกต่อท่าน… ตราบใดใจยังถูกสนตะพายด้วยปรารถนา

คู่แข่งที่จะมีมา หรือว่าต้องไปเผชิญย่อมมิใช่น้อย!

เคยไหมใครบางคนที่ตนเจอ หรือเพียงทราบกิตติศัพท์แล้วสยบลงให้ไม่ได้ ประมาณว่า ชะชะจะซักเท่าไรกันวะ! หรือชะชะใครวะจะเก่งกว่า… หรือดู ดูสิคนอย่างฉันจะแพ้ใครกัน ประมาณนั้น นั่นแหละคู่เก่งหรือคู่แข่ง ซึ่งแน่นอนเราข้ามเวลามาพบกันแล้ว

และใครคนนั้นมีสิทธิ์ท้าทายเราท่าน อาจด้วยการดำรงอยู่ สายตาลีลา หรือวาจาเช่นว่า มา! ใครกินเหล้าดุกว่ากัน มา!เธอกันฉัน ใครแต่งหน้าทาปากทำผมได้จัดจ้านจี๋จ๋าหนังหน้าหนากว่ากัน มา!ใครดีดดิ้นหากินได้เก๋าโก๋โจ๋แจ๋กว่ากัน มา!ใครเตะฟุตบอล ต่อยมวย ตีสนุ๊ก คลั่งกีฬา บ้าพนันฯลฯ เก่งกว่ากัน หรือ มา!…ให้มันรู้กันไปใครหยาบคายร้ายกาจชั่วชัดสาหัสกว่ากัน

อีกมากนัยยิ่ง ทั้งแข่งกันหล่อ สวย ร่ำรวยหรูหราโอ่อ่ามั่งคั่งในตำแหน่งแต่งตั้ง โดดเด่น โด่งดัง ทั้งสำเริงสำราญการกิน การใช้ การอยู่ ส่งตาดูสังเวียนมนุษย์ที่สู้กันอุตลุดยามนี้สิ เห็นได้ทั้งสังเวียนการเมือง การบ้าน การบันเทิง ธุระกิจระเริงยามค่ำ แวดวงวรรณกรรม อุตสาหกรรม เทคโนโลยี กีฬา การศึกษา นักเลง แม้ที่สุดวงการศาสนา

ซึ่งในการต่อสู้แข่งขันเพื่อเหนือกว่า ต้องผลาญเวลาและวัยมากน้อยแค่ไหน? ต้องทุ่มโถมจ่ายทุนอีกเท่าไร?

โปรดทราบที่เรียกทุนนั้นมิได้หมายเพียงเงิน มีบ้างเป็นชื่อเสียง พันธ์เผ่า มีบ้างด้วยเรือนร่างเข้าเดิมพัน และเพื่อชัยชนะเหนือคู่แข่งนั้นมากนักต้องหักรานมโนธรรมสำนึกของตนลงเป็นทุน

บอกต่อท่าน…เขามีสิทธิ์ท้าทายเรา
แต่เรามีสิทธิ์ไม่ร่วมลงนรกไปกับเขา
และไม่แปลกที่ชีวิตจะมีคู่แข่ง ไม่เสียหายหากต้องต่อสู้
สำคัญว่าสู้เพื่อใคร? รางวัลแห่งชัยคุ้มทุนทุ่มโถมหรือไม่?

เหล่านี้เกี่ยวข้องกับนิยามและความรู้สึก หลายคนนิยามโลกว่า เวทีการต่อสู้ บางผู้นิยามว่าโรงละครตอนระทม ส่วนเหล่าร่ำรวยนิยมนิยามอย่างหนังหน้าหนากว่าถนนว่าธนาคารซึ่งตนเบิกใช้ได้ไม่อั้น

ส่วนพวกจงรักภักดีต่อกระสันก็ว่าวิมานสวรรค์ ที่เราสองอธิษฐานนัดพบกัน และมากคนนิยามอย่างขุ่นเคืองหมองเศร้าว่า โลกเราคือนรกบนดิน โดยเฉพาะผู้พังภินท์สิ้นสลายแพ้พ่ายผิดหวัง ผิดหวังจากสังเวียน พ่ายแพ้แก่คู่แข่งที่เก่งกล้าวิชามารหรือเทพยิ่งกว่า

มีหลายนิยามเกิดแล้วจากคู่แข่ง แข่งขันแล้วให้ความรู้สึกต้องนิยามโลกดังนั้น เพื่อนิยามโลกได้เลิศล้ำกว่ากล่าวแล้ว พึงรู้เถิด…

ธรรมดาการต่อสู้บนสังเวียนโลกีย์
ขอเพียงไม่เลิกลาย่อมมีคติเป็นสอง
คือผู้ชนะย่อมก่อเวร ผู้แพ้ย่อมนอนเป็นทุกข์
พระพุทธองค์กล่าวอย่างนั้น

เหล่าปราชญ์ศาสดารู้แจ้งเยี่ยงนี้แล้ว จึงไม่แคร์แยแสต่อสังเวียนโลกีย์ แต่กลับมาต่อสู้กับกิเลสตัณหาอุปทานที่สิงสู่อยู่ในตน เพื่อปลดปล่อยตนให้หลุดพ้นจากปรารถนาอันโง่เขลา หรือมืดบอดมัวเมาในชัยชนะอันไร้สาระ ท่านรู้แจ้งอยู่มิใช่หรือ…

หากประสงค์ชัยชนะอันสวยซึ้งสูงส่ง
ชัยชนะที่ไม่ก่อทุกข์โทษเวรภัยให้ใครอื่น
ชัยชนะที่ยังใจของผู้ได้ชัยให้สุขสันติอย่างลึกซึ้ง
เปี่ยมรู้อย่างลึกซึ้ง เปี่ยมรักในมวลมนุษยชาติอย่างลึกซึ้ง…
ย่อมเป็นชัยชนะเหนือตนเอง
ตนเองที่ขลาดเขลา อ่อนแอ แพ้ใจใฝ่ต่ำ เห็นแก่ตัว
หากต้องยอมแพ้ในสังเวียน โลกีย์เพื่อมีสุขเย็นในชีวิต
ใครว่าไม่ควร?
จริงอยู่…เราท่านมิอาจเป็นดาวได้ทุกน่านฟ้า
แต่เราท่านสามารถเลือกน่านฟ้า
ที่จะโดดเด่นเป็นคุณค่าแก่ตนและคนอื่นได้มิใช่หรือ?

ถึงเวลาจบลงแล้วใช่ไหม กับการอวดเก่งเอาชัยจากใครอื่น และโลกนี้มีมากไปแล้วกับชัยชนะที่กำนัลภาระพันธะไม่รู้สิ้น ไม่เห็นประเสริฐเป็นรางวัล รางวัลที่คล้ายมือมารซึ่งฉกฉวยความแช่มชื่นและวันคืนอันเสรีมีคุณค่าไปทิ้งไว้ในกองทุกข์

หากพยายามแล้วไม่สามารถท้าทายคู่แข่งเปลี่ยนสังเวียนสู้สู่ชีวิตที่ดีกว่า ปล่อยคู่แข่งของท่านมีชัยในสังเวียนไม่สิ้นเวรไปเพียงลำพังเถิด

ชนะตนเองนั้นแหละดีที่สุด… พุทธศาสดายืนยันดังนั้น

   [เลือกหนังสือ]
page: 5/7
   Asoke Network Thailand