[เลือกหนังสือ]      ปก | คำนำ | สารบัญ | ภาคผนวก | คัชนี | ผู้เขียน
page: 7/7
จบแล้ว The End

[สงคราม] [เราข้ามเวลามาพบกันแล้ว] [กับคู่กาม] [กับคู่กัด] [กับคู่แข่ง] [กับคู่เกื้อกูล] [ในความเป็นคู่]


[7] ในความเป็นคู่

ตราบมนุษย์ไม่สามารถกำเนิดจากรูกระบอกหรือดอกไม้ ชีวิต! ย่อมเป็นผลผลิตของคนคู่ แต่พรตบางผู้กล่าว…

ชีวิตเป็นกากเดนของความใคร่!

ไม่…ไม่ใช่เพียงใคร่ของใครสองคน หากหมายรวมใคร่ของผู้แสวงอภิรมย์บนโลกกลมๆใบนี้ที่มาเกิดด้วย โดยนัยเยี่ยงนี้ ชีวิตเกิดแล้วจึงดำเนินไปด้วยแรงเร้าของความใคร่ที่ใจปรารถนา ซึ่งปัญญาชนรู้ดีว่า

ชีวิตยิ่งมากใคร่มากปรารถนารสโลกีย์หรือบรรดามีในโลก
ชีวิตย่อมมีอุปสรรคมากยิ่ง! คู่กามคู่กัดคู่แข่งมากยิ่ง!

ต่อเมื่อมนุษย์ศึกษา เข้าใจปรารถนาที่ควรปรารถนา แล้วปรารถนาเฉพาะเหมาะควร อุปสรรค อุปัทวะ หายนะ คู่ล้าง คู่ผลาญ โดยนัยต่างๆย่อมลดลง มีคู่เกื้อกูลทั้งเกื้อกูลคนอื่นได้มากขึ้น

โดยจริงหากต่อมเจ็บช้ำไม่ด้านชา ย่อมจำได้ว่าเราต่างเคยซ้ำแล้วซ้ำเล่าในโศกนาฏกรรมเลวร้ายหลายครั้งหลายหน ดูได้ที่โทษนิสัยอันหนาในกมล และแม้มิต้องให้ใครสะกดจิตระลึกชาติก็อาจแก้ไขได้เอง ฟังสิพระบรมปราชญ์ศาสดาตรัสว่า…

ผู้ใดมีรักผู้นั้นมีโศก ผู้ใดมีรักผู้นั้นมีภัย
บุคคลใดไม่ถูกครอบแล้วด้วยรัก
ทุกข์ภัยโศกเศร้าเสียใจย่อมไม่มีเพราะเหตุนี้
ผู้ใดมีใคร่ผู้นั้นมีโศก ผู้ใดมีใคร่ผู้นั้นมีภัย
บุคคลใดไม่ถูกครอบแล้วด้วยใคร่
ทุกข์ภัยโศกเศร้าเสียใจย่อมไม่มีเพราะเหตุนี้
ผู้ใดมีทะยานอยากผู้นั้นมีโศก
ผู้ใดมีทะยานอยากผู้นั้นมีภัย
บุคคลใดไม่ถูกครอบแล้วด้วยทะยานอยาก
ทุกข์ภัยโศกเศร้าเสียใจย่อมไม่มีเพราะเหตุนี้
บุคคลไม่ควรครอบงำตนด้วยรักหรือไม่รัก
การพลัดพรากจากสิ่งรักเป็นทุกข์
การพานพบแต่สิ่งไม่รักเป็นทุกข์
ผู้ใดไม่ครอบงำใจให้รักหรือชังแล้ว
พันธนาการย่อมถูกหักรานรื้อสางไปสิ้น.

หากผู้ใดเจ็บแล้วกับรับประโลมโลก ล้าแล้วจากตอแหลของโลกีย์ สัจธรรมคำกล่าวเหล่านี้ย่อมเสมือนชี้ทางสว่างไสวยิ่ง โดยจริงคนเรามิได้เกิดมาเพื่อทุกข์ระทม แม้ใยรัญจวนตรวนเวรมัก ไม่ยินยอมก็ตาม!

บอกต่อพี่น้อง หากท่านแสวงสุขจากคู่กาม ความแปรปรวนจะกวนใจอีกมากอยู่ เพราะในความเป็นคู่ไม่เที่ยง! แม้คู่เกื้อกูล หากไม่รู้เท่าทันชั้นเชิงตัณหาอุปาทานก็แปรเปลี่ยนเป็นคู่อื่นไปได้

คู่กาม ยิ่งแปรปรวนง่าย เพราะสัมพันธ์ภาพของคู่นี้อยู่ที่กำหนัดใคร่เป็นต้นเค้า หากอยู่ร่วมด้วยแล้วไม่สมดังใจดั่งให้ค่า ไม่นำพาเสวยสวรรค์ ไม่กำนัลกันให้อยู่ดี อาจด้วยคู่ของตนเป็นคนเห็นแก่ตัว เกียจคร้าน โง่เขลา เอาแต่ใจ ความเบื่อหน่ายจะค่อยๆถูกสั่งสม ความเก็บกดจะค่อยๆถูกก่อ…รอวาระระบายระเบิด แล้วคู่กามก็กลายเป็นคู่กัดไปได้

คู่กาม ที่มากด้วยมานะทิฎฐิ (สำคัญแต่ความเห็นของตน)มากด้วยมานะอัตตา (สำคัญแต่ตัวตนของตน) แม้ว่าแรกเจอหวานเจี๊ยบจี๋จ๋าปานใด ครั้นอยู่ร่วมกันไปหากไม่รู้เท่าทันโทษภัยสองมานะที่กล่าว จุดสุดทนยังคงต้องมาถึง จากนั้นก็กลายเป็นคู่แข่งเอาชนะคะคานกันอยู่ร่ำไป จนกว่าจะแยกย้ายเลิกลา หรือว่าตายจาก มีมากแม้เลิกลาแล้ว ยังกลายเป็นคู่แข่งบนเส้นทางอื่นกันต่อด้วยอวดดื้อถือมั่นสำคัญตน ลักษณะคนเยี่ยวนี้ ที่มากมีมานะหากดูกันเพียงปีสองปีใช่จะเห็นได้ง่าย เพราะคนเราเมื่อแรกรักมักทำเป็นดีเข้าหลอก ครั้นได้เธอมาสาสมใจแล้วลายจึงออก

คู่กาม ผู้สนใจให้ค่าศาสนาเห็นสำคัญในการยกระดับชีวิตจิตวิญญาณ ตราบไม่ถอนศรัทธา มีเพียรพัฒนาตนอยู่เสมอ ผู้นั้นจะเป็นฝ่ายเกื้อกูล ยิ่งบารมีธรรมมาก ก็จะหน่วงเหนี่ยวนำพาอีกฝ่ายให้เสาะแสวง

สัจธรรม หากทั้งคู่เป็นผู้สนใจให้ค่าศาสนา เห็นสำคัญในการยกระดับชีวิตจิตวิญญาณด้วยกันทั้งสองฝ่าย แม้ต้องมาเสพวิบากกรรมเป็นคู่กามทั้งสองจะเป็นคู่เกื้อกูลที่ดีต่อกัน ส่งเสริมกันเพื่อความเจริญในธรรม และนำพากันสู่ดีที่สูงสุด เยี่ยงพระกัสสปกับพระนางภัททาปิลานี ที่เป็นสามีภรรยากันมาก่อนมาออกบวชได้สนใจในธรรม ปฏิบัติธรรมถึงสมาทานศีล8ทั้งที่ยังอยู่ร่วมเรือน แล้วด้วยเห็นไร้สาระในชีวิตครองเรือน ทั้งคู่จึงได้พากันออกประพฤติพรหมจรรย์ ฝ่ายชายไปเฝ้าพระศาสดาขอบวชเป็นภิกษุ ฝ่ายหญิงไปสำนักภิกษุณีขอบวชเป็นภิกษุณี นี้เป็นการยกระดับชีวิตคู่ที่สวยงาม เป็นการยกระดับรักให้สูงส่ง เป็นการเปลี่ยนสัมพันธ์ภาพจากคู่กาม สู่คู่เกื้อกูลอันบริสุทธิ์โดยส่วนเดียว

คู่กาม แม้มอมเมาเร้าใคร่ให้กันและกันอย่างไร ที่สุดยังต้องเป็นอื่นไป เพราะความอิ่มเต็มด้วยกามไม่มี กามเหมือนทะเล ไม่เคยล้นเพราะฝนหลั่ง ดั่งห้วงเหวไร้ก้น ทั้งในบันเทิงเริงกาม ต่างได้รู้เห็นความเป็นตัวตนอันฉ่ำคาวผ่าวทุรนของอีกฝ่าย ซึ่งกรรมนี้ได้ทอนเคารพยำเกรงเชื่อถือในกันลง…การแปรปรวนเป็นอื่นง่ายแล้ว

ยิ่งจัดจ้านปรนเปรอบำเรอกัน ความวิปริตผิดเพศมักตามมา เยี่ยงชายหลายชายที่กลับกลายไปหลงไหลแก้มตู และรูต เพื่อบริโภคกาม รสเผ็ดร้อนจากชายด้วยกัน ซึ่งเฉพาะคู่หญิงที่ไร้ปัญญาหากไม่หาคู่กามคนใหม่ มักหงุดหงิดกลัดกลุ้มคลุ้มคลั่งกับการปันใจไปอื่นของคู่กาม

โดยจริงหญิงควรประพฤติพรหมจรรย์ เพราะธรรมชาติไม่สนับสนุนกามสุขแด่หญิงเท่าไรนัก สุขในกามรสของหญิงต้องขึ้นตรงต่ออารมณ์ต้องการของชาย หากชายไร้ประสงค์หญิงก็หง่าว เว้นแต่เจ้าตัว

จะข่มเหงตนเอง สำหรับชายเพียงตนมีประสงค์ แม้คู่หญิงไร้อารมณ์ยังบรรลุโลกียสุขบนเรือนร่างหล่อนได้ นี่มิใช่ความซวยสาปส่งฝ่ายหญิง แต่เป็นกุศลจัดสรร บีบคั้นให้เห็นความไม่ควรครองคู่แด่หญิง

ส่วนชายที่จัดจ้านร่านเสพชาย ถึงจุดหนึ่งย่อมกลับกลาย เพราะต้องการยิ่งรุนแรง หึงหวงยิ่งรุนแรง แรงกว่าหญิงหลายเท่า ฆ่ากันตายมากแล้ว…คู่กามไม่เที่ยง แปรปรวนเป็นอื่น จากพรากเป็นที่สุด

คู่กัดต่างเพศ ที่ไม่หง่อมเฒ่าเหลาเหย่หรือขี้เหล่เกินทนไหว หากทั้งสองไม่รู้เท่าทันกลไกลอบเสพของราคะจริตซึ่งเป็นโทษนิสัย ครั้นมีการชิดใกล้บ่อยหน พฤติการณ์ทั้งสองคนจะค่อยๆเปลี่ยน จากกัดกันบ่อยๆมาสู่เลียปากกัน กัดกันบ้างเลียปากกันบ้าง หนักเข้าเลียปากกันบ้างดูดปากกันบ้าง สุดท้ายดูดปากไม่อยากปล่อย คู่กัดเลยกลายเป็นคู่กามไป

คู่กัดเพศเดียวกัน หากสองฝ่ายมีมานะเป็นเจ้าเรือนใจใหญ่กว่าโทสะคู่นี้แม้เป็นคู่กัด ครั้นกัดกันมากัดกันไป ถ้าฝ่ายหนึ่งฝ่ายในไม่ไร้กึ๋นเสียทีเดียว มักชอบใจในคมเขี้ยวของกันและกัน จากนั้นแทนที่จะแสวงหาความเหนือกว่าด้วยการกัดกัน ซึ่งเป็นการแสวงศักดิ์ที่ Lowe class ก็จะมาแสวงหาความเหนือกว่าในเชิงชิงชัย มิใช่เอ็งอยู่ข้าตายเอ็งตายข้าอยู่ แต่เป็นใครเหนือกว่าใครคือกลายเป็นคู่แข่งกันไป เพราะธรรมดาผู้หนักด้วยมานะบางประเภทมักชอบเอาชนะ ชื่นชมคนไม่ยอมต่ำกว่าตนโดยง่าย เยี่ยงนี้มีบ้างกลายเป็นคู่เกื้อกูลกัน ส่วนเกื้อกูลไปทางไหนอยู่ที่เห็นสำคัญอะไร พัฒนาไปทางไหน

คู่กัด ที่ใจไม่ด้านชาเกิน เพียงอีกฝ่ายพ่ายแพ้สยบยอม รู้แล้ว หรือรู้ซะบ้างใครเป็นใคร การเห็นใจมักปรากฏ ความเป็นผู้เกื้อกูลก่อน

(ยังมีต่อ)

 

   [เลือกหนังสือ]
page: 7/7
   Asoke Network Thailand