เมื่อฉันเป็นมะเร็ง...
ส.
ลักขิตะ
หลายคนเชื่อในสิ่งที่ดิฉันพูด แต่หลายคนส่ายหน้ารับไม่ได้ ทำตามไม่ได้ก็มี
เพราะใจไม่ถึง
คุณสมศักดิ์ขับรถไปหาดิฉันที่บ้านเช้าวันอาทิตย์ ซึ่ง เป็นวันร้าน
ชมร. หยุดขายอาหาร คุณสมศักดิ์ มาชวนดิฉัน ไปพบ คนกลุ่มหนึ่ง
ซึ่งเรียกกลุ่ม ตัวเองว่า ปูล้านนา สมาชิกในกลุ่ม มีทั้งแพทย์
พยาบาล และ อาจารย์ เป็นที่รู้จักในสังคม อีกทั้งผู้ป่วย เป็นมะเร็งต่างๆ
มาร่วมด้วย
กลุ่มปูล้านนารวมตัวกันทุกวันอาทิตย์ตามแต่สถานที่ นัดหมาย
พวกเขามาแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยว กับโรคมะเร็งสู่กัน
ครั้งนี้กลุ่มปูล้านนารวมตัวที่หอประชุมใหญ่ตัวเวียงเชียงใหม่
คุณสมศักดิ์ให้ดิฉันไปร่วมด้วย เพื่อ เป็นวิทยากร ถ่ายทอด ประสบการณ์
จริงให้คน เป็นโรคร้ายได้รับฟัง
เราไปถึงที่หมายในเวลาไม่นานนัก หอประชุมแห่งนั้นโอ่อ่ามาก
จนทำให้ดิฉันรู้สึกประหม่า แต่หมอ และ อาจารย์ หลายคน กำลังรอคอยที่จะฟัง
คุณสมศักดิ์ เป็นสมาชิกกลุ่มก่อนหน้านี้ พวกเขานั่งล้อมวงอย่างสัมมนาวิชาการ
ดิฉันก้าวเข้าไปนั่งที่ว่า งซึ่งเขาจัดไว้ให้
แพทย์หญิงที่นั่งข้างดิฉัน แนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก และ เล่าความ
เป็นมาของดิฉันคร่าวๆ จากนั้นให้ดิฉัน ถ่ายทอด ประสบการณ์ วิถีชีวิตที่พ้นผ่านโรคร้าย
และ พิชิตมันได้อย่างไร ทุกคนตั้งใจฟัง อย่างใคร่รู้ ดิฉันเล่าทุกอย่างตามที่กระทำจริง
เน้นศาสนา เป็นแกนหลัก จิตวิญญาณคือองค์รวมที่สำคัญ โยงใยกระบวนการรักษาโรค
สุขภาพจิตต้องดีก่อน ด้วยการรักษาศีลธรรม ศึกษาปฏิบัติลดละกิเลส
เหล่านี้จะช่วยใจเราเข้มแข็ง ส่งผลต่อการควบคุมอารมณ์ได้ดี และ
ทำใจให้ยอมรับสภาพจริงที่ เป็น
การคุมอาหารก็สำคัญ หากกินมังสวิรัติได้ ไม่กินอาหารที่ เป็นภัยต่อมะเร็ง
รสจัดจ้านเกิน
ดิฉันบอกให้ดื่มน้ำฉี่ทุกวัน ช่วยรักษาโรค โดยไม่ต้องพึ่งยาปฏิชีวนะเลย
ทำจิตใจให้ร่าเริง ออกกำลังทำงานพอประมาณ
สิ่งที่ดิฉันบอกพวกเขา ออกจะ เป็นเชิงอบรมธรรมเสียมาก สรุปว่า
ที่รอดตายได้ เพราะธรรมของพระพุทธเจ้าช่วยไว้ และ หมู่กลุ่มผู้ปฏิบัติธรรมคอย
เป็นกำลังใจ
กลุ่มปูล้านนาแยกย้ายกันไปประกอบกิจของแต่ละคน หลังการคุยแลกเปลี่ยนความรู้จบลง
แพทย์หญิงกล่าวขอบคุณดิฉัน และ เชิญให้มาร่วมอีกครั้งหน้า ดิฉันบอกจะพยายามมา
หากไม่ติดธุระ จากนั้นคุณสมศักดิ์ก็ขับรถไปส่งดิฉัน ระหว่า งนั่งในรถ
เราคุยเรื่องรักษาสุขภาพมาตลอดทางถึงบ้าน
ปัจจุบันดิฉันยังช่วยงานที่ร้านทุกวัน มีความสุข กับการปฏิบัติธรรม
ช่วยงานศาสนา เสียสละเพื่อสังคม แพทย์หญิง ที่ดิฉันรู้จัก เมื่อครั้งไปพบกลุ่มปูล้านนา
เธอมากินอาหารที่ร้าน ก่อนกลับแวะมาทักดิฉัน
แม่ปรานี หลายคนที่ฟังแม่พูด เขาเริ่มทดลองดื่มน้ำฉี่กันบ้างแล้ว
แพทย์หญิงพูด ดิฉันตอบรับด้วยความยินดี หากพวกเขา ทำได้ตลอด
โรคร้ายจะหายได้แน่ ดิฉันบอก
ณ วันนี้ ดิฉันไม่รู้สึกเสียใจที่
เป็นมะเร็ง
มะเร็งทำให้ดิฉันสูญเสียปอดไปซีกหนึ่ง แต่สิ่งที่ดิฉันได้คือจิตวิญญาณอันกล้าแกร่ง
ดิฉันได้เรียนรู้ชีวิตอย่างไม่มีตำราใดสอนลึกซึ้งถึงเพียงนี้
ได้ทำใจ ได้ฝึกฝน ได้ต่อสู้ ได้อดทน ได้ประสบการณ์ มะเร็งสอนให้ใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า
ไม่ประมาท
กาลที่ผ่านมา ทำให้รู้สึกว่า การมีชีวิตนั้นประเสริฐ ได้มีโอกาสสั่งสมบุญบารมี
บุญ เป็นประตูสู่สวรรค์ เส้นทาง การเสียสละ นำเราไปถึง พระนิพพานได้
พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า สุขอื่นยิ่งกว่า ความสงบไม่มี ดิฉันเชื่อมั่นเส้นทางศาสนา
และ จะก้าวเดินต่อไปตราบสิ้น
|