เพื่อนแท้ในแดนไกล
หนังสือสารอโศก เดือนกุมภาพันธ์ เดือนมีนาคม
เดือนเมษายน ดอกหญ้าอันดับ ๑๐๐ ผมได้รับเกือบพร้อมกันทั้ง ๔
ฉบับ ขอขอบพระคุณมาก ที่ยังส่งมาให้ จนถึงทุกๆวันนี้ ๒๐ ปีแล้ว
คุณภาพของหนังสือดีขึ้นตลอดมา ขอชมครับ
ดำรงชีพเรียบง่ายเหมือนเดิม หมกมุ่นอยู่กับการทำเกษตรกรรมตลอดเวลา
ปลูกกินเองเกือบทุกอย่าง มีเหลือไม่ยอมขายอีกต่อไป ยินดีให้เลย
คงอยู่ในโอวาทระบบบุญนิยมของพ่อท่าน
เงินสวัสดิการที่ได้รับจากรัฐบาล ถึงจะน้อยไม่พอใช้สำหรับเขาคนอื่น
แต่สำหรับผมมันเหลือเฟือ ที่เหลือไม่เก็บไว้ ยิ่งปล่อยไปยิ่งสบายใจจะบอกให้
เห็นน้องเขยกับน้องสาวทำงานตลอดชีวิตเงินดี กักตุนไว้เป็นหุ้นส่วนตลาดหลักทรัพย์
หรืออะไรทำนองนั้น สุขภาพของเขาไม่ดี แล้วตลาดหลักทรัพย์ตกต่ำ
สุขภาพยิ่งไม่ดีลง
ปลูกมันฝรั่งหัวเล็ก ๑๖๐ หัว หนักประมาณ
๔ กิโล บนพื้นที่ ๔๐ ตารางเมตร ใส่ปุ๋ยหมัก รดน้ำหมักชีวภาพละลายน้ำ
๑ ต่อ ๕๐๐ ผสมน้ำปัสสาวะ ๑ ต่อ ๒๐ ได้มันหัวโตๆ ๒๐๐ กว่าโล ธนาคารที่ไหนในโลกจะได้กำไรขนาดนั้น
แค่ออกแรงทำงานสนุกๆ ใจและกายแข็งแรงขึ้น
ไม่เป็นโรคไม่ต้องไปหาหมอให้เปลืองเงินทอง ตู้เย็นไม่ต้องมี
มีอาหารสดให้กินตลอดปี ไร้สารพิษ ไร้สารบาป
อีกหลายๆอย่างไม่ต้องมี ทีวีไม่ต้องมี
เพลิดเพลินอยู่ในสวน ชื่นใจกับการเติบโตของต้นไม้ การสังเกตวิธีดำรงชีพของบรรดานก-หนู-แมลงศัตรูพืช
แรกๆ สมัยก่อนผมโกรธ ที่มันกัดกินพืชผลไม้ เดี๋ยวนี้ไม่มีปัญหา
สมมติว่ามันกัดกินลูกพรุน ผมเอามีดตัดทิ้งส่วนที่โดนปากมันกัด
แล้วกินส่วนที่เหลือก็หมดเรื่อง ไม่ผูกพยาบาทกับใคร ถ้าใช้สมองคิดสักน้อยจะเข้าใจ
เห็นว่าในโลกนี้มีแต่ความทุกข์ แต่เวลาทำงานอยู่ในสวนรู้สึกว่า
อยู่บนสวรรค์
บ้านผมมีโถส้วม แต่ผมไม่ได้ใช้เลย เก็บอุจจาระรวมกับเศษพืช
เปลือกมัน ฟาง ธัญพืช ฝักถั่ว และอื่นๆ พอให้มีความสมดุลระหว่างธาตุ
N กับธาตุ C ไม่ค่อยเหม็น ปัสสาวะเก็บไว้ในถังปิดได้ ทุกๆ ๔-๕
วัน ผมจะข้ามหมู่บ้าน เอาไปทิ้งบนกองปุ๋ยหมัก
ขอเล่าแค่นี้ก่อนครับ
- Jean Pierre / Belgium -
เพื่อนร่วมอุดมการณ์บุญนิยม ไม่ว่าจะชนชาติใด อยู่ประเทศไหน
เป็นเพื่อนแท้ หากมีหัวใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแล้ว ย่อมทำเหมือนกันเสมอ
-บ.ก.-
เหนื่อยแต่มีสุข
เมื่อวันที่ ๓๐ สิงหาคม - ๓ กันยายน
๒๕๔๕ โรงเรียนบ้านหนองฮะ อ.สำโรงทาบ ได้พานักเรียนจำนวน ๙๔ คน
เป็นนักเรียนชั้น ม.๑ - ม.๓ ไปอบรมหลักสูตรสัจธรรมชีวิต เยาวชนคนสร้างชาติ
ที่ราชธานีอโศก อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
ครูภาษาไทยได้ให้นักเรียนเขียนเล่าเรื่องประสบการณ์
คนละ ๑ เรื่อง โดยให้นักเรียนเลือกเรื่องเขียนตามอัธยาศัย นักเรียนส่วนใหญ่
(เกือบทั้งหมด) จะเขียนเรื่องประสบการณ์จากบ้านราชฯ
กระผมขอส่งตัวอย่าง การเขียนประสบการณ์ของนักเรียน
ม.๓ คนหนึ่งมา เพื่อพิจารณาลงในหนังสือของชาวอโศก ตามแต่จะเห็นสมควร
กระผมขอกราบเรียนเพียงสั้นๆว่า เด็กๆ
ที่ไปอบรมทุกคนอยากไปอีก เขาบอกว่าเขาชอบ เขามีความสุข เขาประทับใจมากครับ
- เกษม สันทอง
/ จ.สุรินทร์ -
เหตุการณ์เริ่มขึ้นในตอนเช้าของวันที่ ๓๐ ส.ค. วันนั้นกระผมมีความตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
ที่ได้มีโอกาสไปอบรมที่อื่น ทุกคนไปรอรถไฟที่สถานีสำโรงทาบอย่างพร้อมเพรียง
เมื่อรถไฟเข้าเทียบชานชลาทุกคนก็ขึ้นรถ ในตอนนั้นผมมีความรู้สึกตื่นเต้น
ในใจลึกๆ ก็ใจหายอยู่เหมือนกัน เพราะเราต้องจากคนที่เรารักคือ
พ่อและแม่ เป็นเวลานานถึง ๕ วันเต็มๆ แล้วผมก็คิดอีกว่า ไปถึงที่นั้นจะเป็นอย่างไร
จะลำบากไหม
แต่พอไปถึงหมู่บ้านราชธานีอโศก ความรู้สึกต่างๆ
ก็หายไป เพราะที่นั่นมีการต้อนรับอย่างอบอุ่นเป็นกันเอง มีการปฐมนิเทศ
และให้เราทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งสนุกสนานมาก ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย
เช่น การปลูกต้นกล้วย ปลูกสับปะรด ปลูกสมุนไพร และมีกิจกรรมสนุกสนาน
เช่น กิจกรรม ม่วนซื่นโฮแซว ซึ่งเป็นกิจกรรมการแสดงที่ให้นักเรียนกล้าแสดงออก
ผมรู้สึกว่าการมาอบรมที่นี่ถึงจะเหนื่อย แต่ก็มีความสุข แล้ววันสุดท้ายก็มาถึง
วันนี้ทุกคนได้มีโอกาสทำกิจกรรมร่วมกัน เป็นกิจกรรมสุดท้ายคือ
"พรก่อนลา" เมื่อจบกิจกรรมนี้ผมรู้สึกดีใจ ที่จะได้กลับไปสู่อ้อมอกของพ่อแม่อีกครั้ง
แต่ลึกๆ ในใจผมคิดถึงทุกคนที่นั่น และจะไม่วันใดที่ผมจะไม่คิดถึงพวกเขา
"ผู้ใดทำแต่ความดี ย่อมเป็นที่รักของผู้อื่น"
- นพวงศ์ สิงจานุสงค์
/ ม.๓ ร.ร.บ้านหนองฮะ จ.สุรินทร์ -
การอบรมของชาวอโศก
จะเน้นให้รู้จักศีลมีสัมมาทิฐิ และรู้จักการทำงานในภาคปฏิบัติจริงๆ
งานที่ถูกทางและถูกธรรมอันเป็นสัมมาอาชีพ โดยเฉพาะงานด้านกสิกรรมไร้สารพิษ
ลงไร่นากันจริงๆ แม้เหนื่อยแต่ก็มีความสุข
-บ.ก.-
จัดงานเพื่อให้
ได้อ่านสารอโศกฉบับ "ธารน้ำใจสู่....วัชราภรณ์
สุขสวัสดิ์" แล้ว ผมรู้สึกซาบซึ้งในการกระทำดังกล่าวมากๆ
โดยเฉพาะประโยคที่ว่า "งานนี้ไม่มีการขายบัตรเข้าชม"
ผมอยากจะขอเล่าเรื่องเกี่ยวกับการจัดงานคอนเสิร์ต
ของโรงเรียนคริสต์หญิงแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ เพื่อจัดหาเงินซื้ออุปกรณ์คอมฯ
และสวัสดิการครู โดยบังคับให้ทั้งนักเรียนกับครูต้องซื้อบัตรเข้าชมในราคาบัตรละ
๕๐๐ บาท พ่อเด็กได้ถามครูว่า จะเอาเงินไปทำอะไรก็ตอบไม่ชัด ทำไมต้องไปจ้างนักร้องจากกรุงเทพฯ
มาด้วย ทำไมไม่ให้เด็กๆ ช่วยกันร้อง เด็กจะได้ภูมิใจที่มีส่วนร่วม
ครูตอบว่า เห็นโรงเรียนคริสต์ชายแห่งหนึ่งทำแล้ว
ได้เงินก้อนโตอย่างรวดเร็ว เลยเลียนแบบ พ่อเด็กนักเรียนเห็นว่า
แพงเกินไป ถ้าสัก ๑๐๐-๒๐๐ บาทก็พอจะช่วยได้ จึงทำเฉย ต่อมาลูกมาบอกว่า
ครูได้เรียกไปหา แล้วบอกว่า ครูจะหักเงินในบัญชีเงินฝากที่ฝากกับครู
๕๐๐ บาทไปจ่ายค่าบัตร เด็กก็จำต้องให้หัก
สืบไปสืบมาปรากฏว่า แนวคิดนี้มาจากสมาคมศิษย์เก่า
และที่น่าอดสูก็ตรงที่ว่า เด็กๆ ยังไม่มีรายได้ โดนบังคับให้ซื้อบัตรละ
๕๐๐ บาท แต่ศิษย์เก่าที่มีการมีงานทำกันแล้ว ให้ซื้อบัตรละ ๓๐๐
บาท เมื่อผมได้มาอ่านวิธีจัดคอนเสิร์ตของชาวอโศกแล้ว จึงทึ่งจริงๆ
ครับ
- นายวีระ จ.เชียงใหม่ -
การจัดงาน"เพื่อให้"
ย่อมไม่ใช่จัดงาน"เพื่อเอา" และงานการกุศลนั้นต้องเป็นไปโดยสมัครใจด้วยศรัทธา
มิใช่ได้มาโดยการบังคับขืนใจ
-บ.ก.-
ตามจิตพิชิตอารมณ์
หนังสือสารอโศกเป็นหนังสือที่มีเนื้อหาสาระ
ให้กำลังใจในการต่อสู้ชีวิตเป็นอย่างดี โดยเฉพาะธรรมะที่พ่อท่าน-สมณะพาปฏิบัติ
ลดละกิเลส ท่านสอนให้ลดละ เสียสละจริงๆ ผมเห็นชัดอานิสงส์ที่ได้อ่าน
ได้ฟังจากม้วนเท็ปเป็นธรรมะของพระพุทธเจ้าที่ทางอโศกนำเอามาเผยแพร่นั้น
ได้ผลจริงๆ ทำให้ผมมีจิตเมตตา หันมากินมังสวิรัติ และจะกินไปตลอดชีวิต
จนกว่าจะตายจากชาตินี้ไป
พยายามลดละกิเลสตัวเองให้ได้มากๆ ปกติแล้วตัวเองเป็นคนโกรธเร็วมาก
แต่ก็หายไว ไม่ค่อยเก็บไว้นาน ทุกวันนี้ยิ่งได้อ่านหนังสือทำให้มีสติมากขึ้น
พยายามจับอารมณ์ตัวเองอยู่ตลอดเวลา ให้มีสติ ตาม อารมณ์ตัวเอง
เวลาเกิดขึ้นจะต้องตามมันให้ทัน เวลามีความโกรธจะต้องระงับมันให้ได้
ก็พยายาม ลดความโลภ ความเห็นแก่ตัว พยายามเสียสละให้มากๆ อย่างที่ว่า
ยิ่งให้ไปยิ่งได้มาจริงๆ
แม้แต่อบายมุขผมอ่านอารมณ์ได้เลย ว่าผมลดได้จริงทุกอย่าง
เหล้า บุหรี่ การพนัน เที่ยวกลางคืน ประตูอบายนี้ผมปิดได้เลย
ผมไม่ยุ่งเกี่ยว
ทุกวันนี้ผมมีความสุขมากครับกับการปฏิบัติฟื้นใจตัวเอง
ผมขายของอยู่ในร้าน บางวันก็ต่อสู้กับใจตัวเอง เวลากิเลสเกิดอยากจะกินนั่นกินนี่
แต่ก็เอาชนะได้ตลอด เพราะตั้งตบะ ไม่กินจุบจิบ
อีกอย่างหนึ่ง ตอนนี้ผมชวนคนในบ้านรวมกลุ่มได้แค่
๓ คน พวกผมทำปุ๋ยได้เกือบ ๗ ตัน แล้วผมก็พาเขาทำน้ำยาอเนกประสงค์
ตอนนี้ชาวบ้านเขาสนใจเรื่องน้ำยาอเนกประสงค์มากเลย
- สุเนตร ดัชฤยาวัตร
/ จ.ศรีสะเกษ -
การปฏิบัติธรรมจะต้องคอยตามดูจิตของตนให้ชัดเจน
หากเกิดอารมณ์อันเป็นอกุศล ขึ้นมา ต้องรีบระงับทันที จะโดยการใช้วิธีสมถะหรือวิปัสสนาก็ตาม
อย่าให้อารมณ์ชั่วนั้นเติบโต ต่อไปได้
-บ.ก.-
เที่ยงในความไม่เที่ยง
ดิฉันได้รับหนังสือทั้งสองเล่ม และเท็ปอีกจำนวน
๒ ม้วน รู้สึกตื่นเต้นดีใจมาก เพราะคิดว่า จะไม่มีโอกาสได้อ่านหนังสือดีๆ
มีคุณค่าอีกแล้ว เนื่องจากย้ายที่อยู่กะทันหัน เพราะต้องมาทำงานที่จ.เชียงใหม่
ตอนนี้มีเวลาว่างมากขึ้นเนื่องจากงานประจำน้อยลง
ก่อนหน้านี้รู้สึกท้อแท้ สิ้นหวังกับชีวิตตัวเองอย่างมาก
เพราะเหตุที่คาดหวังกับคนมากเกินไป เพียงเพราะ ตนเอง พยายามทำทุกอย่างที่คิดว่าดีแล้วให้เขา
ซึ่งเราผูกพันรักมากในฐานะเพื่อน+น้อง แต่เขาไม่เห็น ว่ามันดี
ดิฉันเสียใจ-เสียดาย ร้องไห้ฟูมฟาย ไม่มีจิตใจทำอะไรทั้งนั้น
มีชีวิตแบบ ทอดทิ้งสังขารร่างกาย พยายามหาหนังสือและเท็ปธรรมะมาอ่านมาฟัง
จนวันนี้รู้สึกดีขึ้นมาก เมื่อคิดได้ว่า การทำความดีนั้น "เขาทำเพื่อดี"
ไม่ได้ทำดี เพื่อเอาดี เพราะความดีจะไม่มีวันเปลี่ยนเป็นความเลวไปได้
ดิฉันบอก ตัวเองว่า ให้ทำความดีต่อไป อย่าท้อ อย่าถอย อย่าหยุด
อย่าเลิกทำ ใครเขาจะรู้ จะเห็นหรือไม่ก็ช่างเขา วันหนึ่ง ความดีที่ดิฉัน
พยายามทำ มันจะนำสิ่งดีๆ มาให้เอง
และดิฉันได้พบว่า คนมักหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองเสมอ
ในความถูกมันมีความผิด และในความผิดมันก็มีความถูก เหตุผลที่ตัวเองเห็นด้วยก็คือ
ความถูกต้อง วันนี้ดิฉันรู้แล้วว่า ธรรมะมันอยู่นอกเหตุ เหนือผล
ทุกอย่างล้วนไม่เที่ยงทั้งนั้น
- ชนมาน เทพสุด
/ จ.เชียงใหม่ -
ทุกสรรพสิ่งในโลกล้วนอนิจจัง
คือไม่เที่ยงทั้งสิ้น เป็นความจริงแท้ พระพุทธองค์จึงสอนว่า
ทำดีกับใครแล้วอย่าหวังผลตอบแทนเลย แม้นิดแม้น้อย เมื่อไม่หวังอะไร
ก็จะไม่มีอะไรมา
ทำให้ผิดหวังได้
แต่แม้ไม่หวังผลตอบแทนใดๆ เลยก็ตาม ก็มีความเที่ยงแท้อยู่อย่างหนึ่ง
นั่นคือกรรม
ที่จะตามสนองแก่ผู้กระทำนั้น
ใครทำดีก็จะได้ดี ใครทำชั่วก็จะได้ชั่ว ในความไม่เที่ยงทั้งปวงนั้น
จึงมีผลกรรมนั่นแหละ
เป็นความเที่ยงแท้อยู่
-บ.ก.-
ผลกรรมที่ได้ทำ
ช่วงนั้นดิฉันอยู่บ้านไม่ได้ไปไหน เนื่องจากดิฉันเพิ่งออกจากโรงพยาบาล
เพื่อมาพักฟื้นที่บ้าน คือดิฉันได้รับการผ่าตัดถุงน้ำดีและท่อน้ำดี
เพราะมีนิ่วอยู่ในนั้น มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง แถมมีไข้สูงร่วมด้วย
เป็นมาสองอาทิตย์ กินแต่ยาโรคกระเพาะ กว่าจะรู้สึกว่าเป็นอะไรก็เกือบตาย
มันเป็นวิบากกรรมซ้ำๆ ซาก ที่ชดใช้อยู่ตลอดเวลา
เมื่อต้นปี'๔๔ ก็ผ่าตัดเอามดลูกออก เพราะเป็นเนื้องอก
ครั้งนั้นดิฉันมีการเตรียมพร้อมหลายเดือนทั้งร่างกายและจิตใจ
พอผ่าเสร็จก็ฟื้นตัวเร็วมาก แต่ครั้งนี้ไม่ไหวจริงๆ ก่อนผ่าตัดร่างกายทรุดโทรม
ไม่มีแรงเลย เพราะดิฉันไม่ได้พักผ่อนเต็มที่ เนื่องจากปวดท้อง
ข้าวก็กินไม่ค่อยได้ กินแล้วอ๊วก หมอต้องโด๊บน้ำเกลือก่อนเข้าห้องผ่า
ทีเดียว ๔ ขวด แถมฉีดยาบำรุงหลายเข็ม ดิฉันไม่มีคิวผ่า หมอลัดคิวให้ด่วนมาก
เพราะอาการหนักมาก
พอผ่าตัดเสร็จ ดิฉันฟื้นขึ้นมา โอ้โฮ
! เจ็บที่สุดในโลกเลย เจ็บจนขยับตัวไม่ได้ แต่ดิฉันก็พยายามอดทน
ความรู้สึกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่หลายหน แถมหมอที่เป็นคนรักษาก็บอกว่า
โรคนี้ถึงจะหายแล้วก็มีสิทธิ์กลับมาเป็นอีก ตอนนั้นรู้สึกกลัวมาก
กลับมาอยู่บ้านก็ต้องระมัดระวังเรื่องอาหาร ทำงานไม่ได้ ต้องพึ่งคนอื่น
รู้สึกเครียดมาก ไม่อยากคุยกับใคร ส่องกระจกหน้าตาดูไม่ได้
แต่แล้วก็เหมือนพระมาโปรด เมื่ออ่านสารอโศกฉบับเข้าพรรษา
ที่ลงเรื่องของคุณหมอผู้พิชิตโรคมะเร็ง ดิฉันได้ข้อคิดที่ดีๆ
หลายๆ อย่าง อารมณ์เป็นสิ่งสำคัญ ท่านบอก ที่สำคัญจะต้องยิ้มไว้ก่อน
อยู่ว่างก็ร้องเพลงเบาๆ มองโลกในแง่ดี ดิฉันลองทำดูทุกวัน ตอนนี้ดิฉันไม่ทุกข์แล้ว
จำได้ว่า ตอนนั้น ไม่อยากอ่านหนังสือ แต่ตอนนี้อ่านทุกวันเลยทั้งเก่าทั้งใหม่
ขอขอบพระคุณ เป็นอย่างยิ่ง ที่เมตตา ส่งหนังสือมาให้สม่ำเสมอมิเคยขาด
ดิฉันสัญญาว่าจะประพฤติตัวเป็นคนดีของสังคม
และจะรักษาศีลห้าให้บริสุทธิ์สะอาด ถึงแม้บางข้อ จะทำได้ยาก
เช่น ข้อที่ ๑ สำหรับอาหาร ดิฉันจะรับประทานข้าวกล้องเป็นหลัก
ตอนนี้ก็เพิ่มถั่วเหลืองต้ม กับลูกเดือย ไม่อร่อย แต่กินง่ายไม่เรื่องมาก
สำหรับดิฉันวันนี้และวันต่อๆ ไป จะเป็นคนใหม่จะยิ้มสู้ไว้
แม้โรคภัยจะมาเยือน จะเตือนตน ให้เป็นคนเข้มแข็ง จะไม่ระแวงเรื่องร้ายในภายหน้า
จะไขว่คว้าทำแต่สิ่งดีๆ เพื่อเป็น การฝึกหัด ทำสิ่งที่ทำได้ยาก
ให้เป็นความเคยชิน และตอนนี้เริ่มเห็นผลหลายอย่าง ในทางที่ก้าวหน้าขึ้นเป็นลำดับ
นี่คงเป็นอานิสงส์ของการอ่านหนังสือธรรมะ ที่ทางสมาคมหยิบยื่นให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
เป็นบุญ ของดิฉันและเพื่อนสมาชิกทุกๆ ท่านยิ่งนัก ที่มาพบกับกลุ่มผู้ปฏิบัติธรรม
ที่เต็มเปี่ยมด้วย ความเสียสละ เพื่อมวลมนุษยชาติ ขอให้สมาคมได้ทำหน้าที่นี้ต่อไป
ดิฉันเชื่อว่าในอนาคต เมืองไทยจะมีแต่คนถือศีลห้า และกินผักมากขึ้นๆ
จนเป็นเรื่องธรรมดา
- นงนุช กันฮะ
จ.เชียงใหม่ -
ผลบุญแห่งการศึกษาธรรมะ
แล้วเอาไปทำจริง ย่อมก่อเกิดประโยชน์แก่ผู้กระทำนั้นจริง แม้เกิดเจ็บป่วยสาหัส
ก็ยังบรรเทาอาการได้ด้วยฤทธิ์แห่งธรรม เพราะถึงกายจะป่วย แต่ใจไม่ป่วย
-บ.ก.-
คนดีของสังคม
หนังสือสารอโศกมีสาระประโยชน์มาก พอๆ
กับดอกหญ้าที่ได้รับประจำอยู่ อ่านแล้วมีกำลังใจ อยากสานต่อเจตนารมณ์ของทางสมาคม
คือเป็นคนดีของสังคม คือศีล ๕ ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ ตอนนี้เริ่มลดทีละอย่างแล้วค่ะ
อันดับแรกก่อนเพื่อนคือ ไก่
เพราะเปิดดูรายการท่านจันทร์ทาง iTV
เมื่อประมาณต้นเดือนสิงหาคม เห็นการฆ่าเป็ด ฆ่าไก่ มันน่าสงสารมาก
กว่าจะตาย โดยเฉพาะเป็ดจะตายช้ากว่า มันคงทรมานมากๆ เลย ตอนนี้ข้างหลังบ้านของดิฉันมีตลาดเช้า
เขานำไก่มาเชือด มันร้องกันน่าสงสารมาก อยากจะลงไปขอซื้อเขา
แต่ถึงจะซื้อช่วยชีวิตได้ ๑-๒ ตัว ก็คงไม่มีที่เอามาเลี้ยง แล้วเขาก็คงฆ่าขายต่อไป
เพราะเป็นอาชีพของเขา อย่างนั้นเราควรมาเคร่งครัดที่ตัวเราก่อนดีกว่าค่ะ
ส่วนเนื้อสัตว์อย่างอื่นเช่น เนื้อวัว
เลิกกินมาเกือบ ๒๐ ปีแล้ว และเนื้อหมูเริ่มเขี่ยออกแล้วค่ะ เพราะสงสารคุณแม่ที่ทำกับข้าวรอ
ก็กินเอาใจบ้าง ต่อไปคุณแม่คงเข้าใจ เพราะตอนนี้เริ่มไม่โกรธแล้ว
เข้าใจว่า สัตว์พวกนี้น่าสงสาร แต่ต้องทำกับข้าวส่วนรวม เพราะพี่น้องยังทานเนื้อสัตว์อยู่
เมื่อปีที่แล้ว ดิฉันเคยเขียนถามปัญหาศีลข้อ
๓ มาทางสมาคม ได้รับคำตอบที่ดีมาก อ่านแล้วเหมือนมีใครมาเตือนเรา
ให้แสงสว่างแก่เรา ตอนนี้ศีลข้อ ๓ บริสุทธิ์แล้วค่ะ เพิ่งได้อ่านและฟังเท็ปของสม.รินฟ้า
ชื่อเท็ป "หยุดหัวใจไม่ให้รัก" ยิ่งตาสว่างมากขึ้น
อยากพบสม.รินฟ้ามากค่ะ อยากให้ท่านได้อ่านจดหมายนี้ค่ะ
ดิฉัน(หนู)กราบขอบพระคุณอย่างสูง และคิดว่าเร็วๆ
นี้จะไปที่สันติอโศกอีกค่ะ จะได้ฟังธรรมจากท่านอื่นๆ ด้วย
ปล. ความรู้จากการได้ปฏิบัติธรรม ความรู้จากทางสันติอโศก
ทำให้ทำอาหารมังสวิรัติอร่อย ปัจจุบันดิฉันจะมาเป็นแม่ครัวที่ตำหนักเจ้าแม่กวนอิม
ซอยโชคชัย ๔ ช่วงวันอาทิตย์ ทำให้
ผู้ปฏิบัติธรรมได้กินน้ำพริก+แกงอร่อยๆ
ผลบุญนี้ขอยกให้กับทางสันติอโศกและผู้ปฏิบัติธรรมทุกท่านค่ะ
- น.ส.สุมาลี
ธัมนิภา / กทม. -
คนดีของสังคมนั้นต้องมีศีล
๕ เป็นอย่างน้อย และมีจิตใจเมตตาต่อผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ก็ตาม
ดังนั้นผู้มีใจบุญจึงไม่เบียดเบียนชีวิตอื่น "หนึ่งชีวิตกินเจ
หมื่นชีวิตรอดตาย"
-บ.ก.-
แนวทางแนวธรรม
ชอบอ่านทุกอย่างของสารอโศกและดอกบัวน้อย
ทุกวันนี้ก็ใช้แนวทางจากการอ่านสารอโศกไปใช้กับการงาน ที่สำคัญคือเพื่อนร่วมงานค่ะ
การทำงานต้องว่ากันได้ ไม่โกรธกันค่ะ พอเช้าก็จะห่อข้าวกับข้าวไปเผื่อให้
ก็ดูจิตตัวเองว่า ไม่ได้แกล้งทำ แต่ทำด้วยความเต็มใจ
แม้แต่คำพูด ปีนี้คงจะพอมีบุญบ้าง ชวนคนกินเจได้
๓ คนค่ะ ตั้งแต่กินเจมา ๔ ปี มีปีนี้ค่ะที่ชวนคนกินแล้วเขาก็ตาม
(เขากินวันพระค่ะ) แรกๆก็ทำอาหารเจแจกให้เขากินก่อน พอเขาบอกอร่อย
ก็ชวนเขาว่าเอาไหมวันพระ ๑ วันก็ยังดี เขาก็เห็นดีด้วยทำตาม
ปีนี้เช่นกัน ช่วยคนที่ผิดพลาด ชีวิตหลงผิดเที่ยวกลางคืน
ดื่มสุราเป็นที่นินทาของชาวบ้าน พอได้ยินก็เกิดความสงสารผู้หญิงคนนี้มาก
พูดกับเพื่อนรุ่นน้องว่า อยากช่วยเธอ สงสารลูกเธอกลัวจะเป็นเด็กบ้านแตก
ถ้าพ่อเด็กกลับมารู้ว่า แม่ทำตัวไม่ดีก็ต้องมีปัญหา เพื่อนรุ่นน้องพูดว่า
พี่จะช่วยเธอได้หรือ เธอเป็นไปเช่นนี้แล้ว พี่จะลองดู
จากนั้นก็คอยดูว่า เธอจะผ่านบ้านเราหรือเปล่า
ประมาณครึ่งเดือนค่ะ ได้พบผู้หญิงคนนี้ ได้ผลค่ะเธอรับฟังคำพูดและทำตาม
สอนให้สวดมนต์และนั่งสมาธิ สอนให้หยุดความคิดในทางไม่ดี
เวลาจิตเธอคิดถึงสิ่งไม่ดี เธอบอกว่า
หนูจะคิดถึงพี่ให้ช่วยหนูด้วย
พอผู้หญิงคนนี้มาพูดให้ฟัง ก็จะสอนเธอว่า
ตอนนี้เธอเป็นคนใหม่แล้วไม่เที่ยวดื่มสุรา และอื่นๆ มาเป็นคนขยัน
รักลูก และกินเจวันพระค่ะ
ทุกอย่างที่เขียนมาเล่าให้ฟังนี้ ดิฉันมีพลัง
มีแนวทางได้มาจากสารอโศกและดอกบัวน้อยค่ะ เป็นคนชอบอ่านหนังสือธรรมะ
ฟังเท็ปของพ่อท่านและนักบวชทุกรูปของชาวอโศก
- ดวงรัตน์ บุญประกอบ
/ ๒๕๗๐๗๒ -
แนวทางธรรมะของชาวอโศกนั้น
หลักพื้นฐานเริ่มที่มีศีล ๕ ละเลิกอบายมุขทั้งปวง และมีจิตใจ
เมตตากินอาหารมังสวิรัติ โดยอาหารก็จะผลิตตามวิถีธรรมชาติไร้สารพิษอีกด้วย
-บ.ก.-
มื้อเดียวสบาย
ระยะเวลาการเข้าพรรษา เป็นช่วงที่ผมคิดว่า
จิตจะมีความเข้มแข็งเป็นพิเศษ เข้าพรรษาปี ๒๕๔๔ ผมรับประทานมื้อเดียว
ถือศีล ๕ ได้ดี แต่พอออกพรรษาผมก็กลับไปรับประทาน ๓ มื้อ แถมกินจุบจิบบ้างไม่มาก
เข้าพรรษาปี ๒๕๔๕ นี้ ก่อนวันเข้าพรรษา ๓ วัน ผมกินอาหารมื้อเดียว
ปรากฏว่า วันที่ ๒ ของการกินมื้อเดียว ล้ม ดังนั้นอีกวันเดียวก่อนวันเข้าพรรษา
ผมจึงงดรับประทานอาหารทั้งวัน(ลงโทษกิเลส)
จากวันเข้าพรรษาถึงวันที่เขียนจดหมายฉบับนี้
ผมก็รับประทานมื้อเดียวได้อย่างสบาย แต่เริ่มแรกผมจะกินอาหารช่วงเที่ยง
เพื่อให้เหมาะกับช่วงพักเที่ยง มาปัจจุบัน ผมเริ่มทานช่วงเช้า
ผมมีเวลาพักเที่ยงเพิ่มอีก ๑ ชั่วโมง ที่พอจะไปทำกิจธุระส่วนตัวได้มากขึ้น
อานิสงส์การกินมื้อเดียวคือ ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเวลาใกล้เที่ยง
มีความสบายตัว ร่างกายผอมลง น้ำหนักตัวผมเคยขึ้นสูงสุด ๗๒.๕
ก.ก. ส่วนสูงผมเพียง ๑๖๕ ซ.ม. ปัจจุบันน้ำหนักตัวอยู่ระหว่าง
๖๒-๖๒.๕ ก.ก. เมื่อเดือนที่แล้ว(สิงหาคม ผมได้บริจาคโลหิตที่โรงพยาบาลศิริราช
ทางโรงพยาบาลได้แจ้งผลการตรวจเลือดว่าปกติ ไม่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบ
แสดงถึงการกินอาหารมังสวิรัติและน้อยมื้อ มีประโยชน์ ไม่มีผลกระทบต่อร่างกายแต่อย่างไร
เข้าพรรษานี้ น้องสาวและน้องสะใภ้ ก็ตั้งตบะกินอาหารมังสวิรัติร่วมกับผมด้วย
ผมดีใจมากที่เริ่มมีคนในครัวเรือนปฏิบัติตาม ออกพรรษาผมก็ตั้งใจว่า
จะกินมื้อเดียวต่อไป เพื่อพัฒนาจิตใจให้ดียิ่งขึ้น เข้าใจธรรมมากขึ้น
รู้จักกิเลสดียิ่งขึ้น
ขอขอบพระคุณบ.ก. และผู้มีส่วนร่วมในการจัดทำหนังสือสารอโศกและดอกหญ้า
ที่ส่งหนังสือมาให้อ่านเป็นประจำ ทำให้มีกำลังใจในการปฏิบัติธรรมมากครับ
- สมชาย อนุรักษ์ฤานนท์
/ กทม. -
หากใครฝึกฝนกินมื้อเดียวได้
ก็จะเข้าถึงความสบายจริง ๕ ประการ ดังที่พระพุทธองค์ตรัสบอกไว้คือ
๑. เจ็บป่วยน้อย ๒. ลำบากน้อย ๓. เบากาย ๔. มีกำลัง ๕. อยู่ผาสุก
-บ.ก.-
|