ความรัก มิติที่: 1กามนิยม  2พันธุนิยม  3ญาตินิยม  4ชุมชนนิยม  5ชาตินิยม  6สากลนิยม  7เทวนิยม  8อเทวนิยม  9นิพพานนิยม  10พุทธภูมินิยม
   [เลือกหนังสือ]      ปก | คำนำ | สารบัญ | ภาคผนวก | คัชนี | ผู้เขียน
page: 6/16

สารบัญ
[1] รักมิติที่1
[2] รักมิติที่2
[3]
รักมิติที่3
[4]
รักมิติที่4
[5]
รักมิติที่5
[6] รักมิติที่6
[7]
รักมิติที่7
[8]
รักมิติที่8
[9]
รักมิติที่9
[10]
รักมิติที่10
[11]
ถาม-ตอบ
[12]
ถาม-ตอบ
[13]
ถาม-ตอบ
[14]
ถาม-ตอบ
[15]
ถาม-ตอบ
[16]
ถาม-ตอบ

ความรัก ๑๐ มิติ โดย พระโพธิรักษ์

มิติที่ ๖

เป็นความรักที่ลึกซึ้งขึ้นไปอีก กว้างไกลแผ่ขยายยิ่งขึ้น และมีค่ามหาศาล ทำได้ยาก เพราะเป็นความรักแบบ “สากลนิยม” คือรักมวลชนทุกชาติที่เป็นมนุษย์ด้วยกัน ไม่จำกัดเชื้อชาติ ไม่จำกัดผิวพรรณ ไม่ว่าผิวแดง ผิวขาว ผิวดำ ผิวเหลือง ไม่จำกัดทั้งนั้น ชาติไหนเราก็จะช่วยหมด ถ้าตกทุกข์ได้ยาก คนผู้ใดทุกข์เราก็จะช่วยให้ได้ รักให้หมด เกื้อกูลให้ได้

ถ้าผู้ใดมีความรักอย่างนี้จริงและสามารถที่จะทำมาหาเงิน เป็นเศรษฐีใหญ่ก็จะเผื่อแผ่ไปสู่ปวงชน ให้กว้างขวางไปเลย ทีเดียวเช่น “ร็อคกี้ เฟลเลอร์” อย่างนี้เป็นต้น มีความสามารถ สร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมาจนมั่งคั่งร่ำรวยด้วยวัตถุสมบัติมากมาย แกก็จัดตั้งมูลนิธิขึ้นช่วยเหลือคนในนานาประเทศ อย่างใน ประเทศไทยนี้ มีสถาบันทางการศึกษาหลายแห่งที่ได้รับการช่วยเหลือ จากมูลนิธินี้ เป็นต้นว่า มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งได้รับทุนในการ จัดตั้งขึ้นมาจากมูลนิธินี้ ฯลฯ

นี่ก็เป็นคุณงามความดีส่วนตัวของ ร็อคกี้ เฟลเลอร์ ซึ่งอาตมายกตัวอย่างขึ้น เพื่อชี้ให้เห็นการบำเพ็ญประโยชน์เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ทางด้านวัตถุทรัพย์สินให้แก่มวลมนุษยชาติ ไม่ได้ เกี่ยวกับบุคคล ไม่ได้เกี่ยวกับเชื้อชาติ และไม่ได้เกี่ยวกับลัทธิ ผู้ใดหลงลัทธิ ยึดลัทธิอยู่ พยายามหยั่งสัจจะที่อาตมาหมายเอาให้ดีๆ เพราะความรักมิติที่ ๖ นี้ ขยายแวดวงออกไปกว้างไกลสู่มวลชนอันไพศาล ไม่เกี่ยวกับบุคคลหรือเชื้อชาติแล้ว

แต่ถ้าหากว่าจุดมุ่งหมายของ ร็อคกี้ เฟลเลอร์ มีการ แอบแฝงอยู่ ด้วยความมุ่งหมายหวังผลประโยชน์ทางการเมืองแล้วละก็ คุณค่า ของการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ก็ลดลงอยู่แค่ในระดับมิติที่ ๔ หรือที่ ๕ เท่านั้น เพราะกลายเป็นความรักในระดับ สังคมนิยม หรือ ชาตินิยม ไปเสียแล้ว ไม่ใช่ สากลนิยม แต่ถ้าช่วยเหลือ โดยบริสุทธิ์ใจ โดยไม่ได้ต้องการผลตอบแทนอะไรเลย ก็เป็นตัวอย่างของคุณธรรมที่สูง ซึ่งน้อยคนนักที่จะทำกัน

อย่างในประเทศอินเดียก็มีเศรษฐีใหญ่ ก็ไม่ยอมทำ ไม่ยอมเสียสละทั้งที่ประเทศของตนก็ขาดแคลน ที่รวยมากที่สุดก็คือ “มหารายา” สร้างปราสาทอยู่บนยอดเขา เพราะเขามีเพชรนิลจินดามีค่ามหาศาลตกทอดมาตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษมากมายจริงๆ แม้กระทั่งเดี๋ยวนี้ก็ยังมาก แต่ไม่มีใครสามารถไปแกะความขี้เหนียวของเขาได้ ทรัพย์สมบัติของเขาจึงไม่มีประโยชน์ใดๆ ต่อโลก บุญของเขาจึงไม่เป็นคุณต่อใครเลย

นอกจากจะช่วยเหลือเกื้อกูลกันด้วยวัตถุสมบัติแล้ว กำลังกาย กำลังใจ กำลังสมอง ก็เป็นสิ่งที่สามารถเผื่อแผ่บำเพ็ญประโยชน์แก่มวลมนุษยชาติได้ เพราะฉะนั้นถ้าใครไม่มีกำลังทรัพย์หรือวัตถุ ช่วยด้วยกำลังกายก็ได้ ไม่ต้องเกี่ยงเชื้อชาติ หรือเผ่าพันธุ์ เสียสละเข้าไปอย่างเช่น “เช กูวารา” อย่างนี้ ไปช่วยชาตินี้ ประเทศนั้นที่ด้อยพัฒนา ช่วยเสร็จแล้วก็ผ่านไป และก็ไปช่วยประเทศอื่นอีก นี่ไม่ได้ช่วยด้วยทุนทรัพย์ทางวัตถุ แต่ช่วยทางด้าน แรงกาย แรงใจ ตัวอย่างที่เป็นอยู่อย่างนี้แหละ อย่างที่ เช กูวารา ทำ อย่างนี้ก็จัดอยู่ในความรักในระดับมิติที่ ๖

หรือจะช่วยด้วย กำลังความคิด ช่วยด้วยแรงปัญญา โดยการคิดค้นหาวิธีการที่จะสร้างสรรสันติภาพ ช่วยให้ประชาชนได้อยู่เย็นเป็นสุข ไม่แย่งชิงกัน ไม่เอารัดเอาเปรียบกัน ลดความเห็นแก่ตัวลงมาหาทางกระจายทุน กระจายงาน กระจายผล กระจายอำนาจ และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน

การช่วยอย่างนี้ก็เป็นความรักในมิติที่ ๖ เช่นเดียวกัน เป็นประโยชน์ต่อโลก ต่อชุมชน ขอบเขตแวดวงของความรักในมิตินี้เติบโตกว้างใหญ่ไพศาลออกไปมาก ซึ่งสัดส่วนของความทุกข๎ที่จะต้องแบกก็ย่อมเพิ่มมากขึ้นตามปริมาณของความรัก แต่เอาเถอะถ้าคุณจะมีความรักอย่างนี้ ทุกข์อย่างนี้ ก็ไม่ว่าเพราะมันเป็น ประโยชน์ ทำได้ก็จงทำเถิด ความรักแบบสากลนิยมนี้ทำได้ ยากขึ้น จึงมีค่ามากขึ้น

ในมิติที่ ๖ นี้ มีปริวัฏฏ์สองรอบแล้ว ฟังดูให้ดีนะ อาตมากำลังจำกัดลงไปว่า ปริวัฏฏ์ หมู่ที่ ๑ (มิติ ๑-๒-๓) ยังจำกัดขอบเขตอยู่แค่ตระกูลหรือวงศาคณาญาติ ส่วนปริวัฏฏ์ หมู่ที่ ๒ คือ มิติที่ ๔-๕-๖ นี้เริ่มแผ่ขยายกว้างขวางขึ้น จนถึงมวลชนอันไพศาล เสียสละมากแล้วแต่ยังไม่บริสุทธิ์หมดจดนัก เพราะยังมีการ แบ่งแยกเป็น “มิตรผู้ยากไร้” ก็เห็นแก่ ก็เอนเอียง ก็เข้าข้างจนทำให้ดุลยภาคแห่งสัจจะเสีย แบ่งแยกเป็น “ศัตรูผู้กดขี่” ก็โกรธก็แค้น ก็ชัง ด้วยปัญญาที่ยังไม่ถึงขั้นอภิปัญญา ซึ่งยังเป็นการจำกัด
แวดวงของความรัก ไม่ให้แผ่ขยายไปสู่สันติภาพอันบริบูรณ์ และจะไม่ถึง “ความสัมบูรณ์” อันคงทนหรือเที่ยงนานได้

.. ความรัก ๑๐ มิติ
   [เลือกหนังสือ]
page: 6/16
   Asoke Network Thailand