ความรัก ๑๐ มิติ
โดย พระโพธิรักษ์
มิติที่ ๖
เป็นความรักที่ลึกซึ้งขึ้นไปอีก กว้างไกลแผ่ขยายยิ่งขึ้น
และมีค่ามหาศาล ทำได้ยาก เพราะเป็นความรักแบบ สากลนิยม คือรักมวลชนทุกชาติที่เป็นมนุษย์ด้วยกัน
ไม่จำกัดเชื้อชาติ ไม่จำกัดผิวพรรณ ไม่ว่าผิวแดง ผิวขาว ผิวดำ
ผิวเหลือง ไม่จำกัดทั้งนั้น ชาติไหนเราก็จะช่วยหมด ถ้าตกทุกข์ได้ยาก
คนผู้ใดทุกข์เราก็จะช่วยให้ได้ รักให้หมด เกื้อกูลให้ได้
ถ้าผู้ใดมีความรักอย่างนี้จริงและสามารถที่จะทำมาหาเงิน
เป็นเศรษฐีใหญ่ก็จะเผื่อแผ่ไปสู่ปวงชน ให้กว้างขวางไปเลย ทีเดียวเช่น
ร็อคกี้ เฟลเลอร์ อย่างนี้เป็นต้น มีความสามารถ สร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมาจนมั่งคั่งร่ำรวยด้วยวัตถุสมบัติมากมาย
แกก็จัดตั้งมูลนิธิขึ้นช่วยเหลือคนในนานาประเทศ อย่างใน ประเทศไทยนี้
มีสถาบันทางการศึกษาหลายแห่งที่ได้รับการช่วยเหลือ จากมูลนิธินี้
เป็นต้นว่า มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งได้รับทุนในการ จัดตั้งขึ้นมาจากมูลนิธินี้
ฯลฯ
นี่ก็เป็นคุณงามความดีส่วนตัวของ ร็อคกี้ เฟลเลอร์
ซึ่งอาตมายกตัวอย่างขึ้น เพื่อชี้ให้เห็นการบำเพ็ญประโยชน์เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ทางด้านวัตถุทรัพย์สินให้แก่มวลมนุษยชาติ
ไม่ได้ เกี่ยวกับบุคคล ไม่ได้เกี่ยวกับเชื้อชาติ และไม่ได้เกี่ยวกับลัทธิ
ผู้ใดหลงลัทธิ ยึดลัทธิอยู่ พยายามหยั่งสัจจะที่อาตมาหมายเอาให้ดีๆ
เพราะความรักมิติที่ ๖ นี้ ขยายแวดวงออกไปกว้างไกลสู่มวลชนอันไพศาล
ไม่เกี่ยวกับบุคคลหรือเชื้อชาติแล้ว
แต่ถ้าหากว่าจุดมุ่งหมายของ ร็อคกี้ เฟลเลอร์
มีการ แอบแฝงอยู่ ด้วยความมุ่งหมายหวังผลประโยชน์ทางการเมืองแล้วละก็
คุณค่า ของการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ก็ลดลงอยู่แค่ในระดับมิติที่
๔ หรือที่ ๕ เท่านั้น เพราะกลายเป็นความรักในระดับ สังคมนิยม
หรือ ชาตินิยม ไปเสียแล้ว ไม่ใช่ สากลนิยม แต่ถ้าช่วยเหลือ
โดยบริสุทธิ์ใจ โดยไม่ได้ต้องการผลตอบแทนอะไรเลย ก็เป็นตัวอย่างของคุณธรรมที่สูง
ซึ่งน้อยคนนักที่จะทำกัน
อย่างในประเทศอินเดียก็มีเศรษฐีใหญ่ ก็ไม่ยอมทำ
ไม่ยอมเสียสละทั้งที่ประเทศของตนก็ขาดแคลน ที่รวยมากที่สุดก็คือ
มหารายา สร้างปราสาทอยู่บนยอดเขา เพราะเขามีเพชรนิลจินดามีค่ามหาศาลตกทอดมาตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษมากมายจริงๆ
แม้กระทั่งเดี๋ยวนี้ก็ยังมาก แต่ไม่มีใครสามารถไปแกะความขี้เหนียวของเขาได้
ทรัพย์สมบัติของเขาจึงไม่มีประโยชน์ใดๆ ต่อโลก บุญของเขาจึงไม่เป็นคุณต่อใครเลย
นอกจากจะช่วยเหลือเกื้อกูลกันด้วยวัตถุสมบัติแล้ว
กำลังกาย กำลังใจ กำลังสมอง ก็เป็นสิ่งที่สามารถเผื่อแผ่บำเพ็ญประโยชน์แก่มวลมนุษยชาติได้
เพราะฉะนั้นถ้าใครไม่มีกำลังทรัพย์หรือวัตถุ ช่วยด้วยกำลังกายก็ได้
ไม่ต้องเกี่ยงเชื้อชาติ หรือเผ่าพันธุ์ เสียสละเข้าไปอย่างเช่น
เช กูวารา อย่างนี้ ไปช่วยชาตินี้ ประเทศนั้นที่ด้อยพัฒนา
ช่วยเสร็จแล้วก็ผ่านไป และก็ไปช่วยประเทศอื่นอีก นี่ไม่ได้ช่วยด้วยทุนทรัพย์ทางวัตถุ
แต่ช่วยทางด้าน แรงกาย แรงใจ ตัวอย่างที่เป็นอยู่อย่างนี้แหละ
อย่างที่ เช กูวารา ทำ อย่างนี้ก็จัดอยู่ในความรักในระดับมิติที่
๖
หรือจะช่วยด้วย กำลังความคิด ช่วยด้วยแรงปัญญา
โดยการคิดค้นหาวิธีการที่จะสร้างสรรสันติภาพ ช่วยให้ประชาชนได้อยู่เย็นเป็นสุข
ไม่แย่งชิงกัน ไม่เอารัดเอาเปรียบกัน ลดความเห็นแก่ตัวลงมาหาทางกระจายทุน
กระจายงาน กระจายผล กระจายอำนาจ และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน
การช่วยอย่างนี้ก็เป็นความรักในมิติที่ ๖ เช่นเดียวกัน
เป็นประโยชน์ต่อโลก ต่อชุมชน ขอบเขตแวดวงของความรักในมิตินี้เติบโตกว้างใหญ่ไพศาลออกไปมาก
ซึ่งสัดส่วนของความทุกข๎ที่จะต้องแบกก็ย่อมเพิ่มมากขึ้นตามปริมาณของความรัก
แต่เอาเถอะถ้าคุณจะมีความรักอย่างนี้ ทุกข์อย่างนี้ ก็ไม่ว่าเพราะมันเป็น
ประโยชน์ ทำได้ก็จงทำเถิด ความรักแบบสากลนิยมนี้ทำได้ ยากขึ้น
จึงมีค่ามากขึ้น
ในมิติที่ ๖ นี้ มีปริวัฏฏ์สองรอบแล้ว ฟังดูให้ดีนะ
อาตมากำลังจำกัดลงไปว่า ปริวัฏฏ์ หมู่ที่ ๑ (มิติ ๑-๒-๓) ยังจำกัดขอบเขตอยู่แค่ตระกูลหรือวงศาคณาญาติ
ส่วนปริวัฏฏ์ หมู่ที่ ๒ คือ มิติที่ ๔-๕-๖ นี้เริ่มแผ่ขยายกว้างขวางขึ้น
จนถึงมวลชนอันไพศาล เสียสละมากแล้วแต่ยังไม่บริสุทธิ์หมดจดนัก
เพราะยังมีการ แบ่งแยกเป็น มิตรผู้ยากไร้ ก็เห็นแก่ ก็เอนเอียง
ก็เข้าข้างจนทำให้ดุลยภาคแห่งสัจจะเสีย แบ่งแยกเป็น ศัตรูผู้กดขี่
ก็โกรธก็แค้น ก็ชัง ด้วยปัญญาที่ยังไม่ถึงขั้นอภิปัญญา ซึ่งยังเป็นการจำกัด
แวดวงของความรัก ไม่ให้แผ่ขยายไปสู่สันติภาพอันบริบูรณ์ และจะไม่ถึง
ความสัมบูรณ์ อันคงทนหรือเที่ยงนานได้
|