ความรัก มิติที่: 1กามนิยม  2พันธุนิยม  3ญาตินิยม  4ชุมชนนิยม  5ชาตินิยม  6สากลนิยม  7เทวนิยม  8อเทวนิยม  9นิพพานนิยม  10พุทธภูมินิยม
   [เลือกหนังสือ]      ปก | คำนำ | สารบัญ | ภาคผนวก | คัชนี
page: 10/16
colse

สารบัญ
[1] รักมิติที่1
[2] รักมิติที่2
[3]
รักมิติที่3
[4]
รักมิติที่4
[5]
รักมิติที่5
[6]
รักมิติที่6
[7]
รักมิติที่7
[8]
รักมิติที่8
[9]
รักมิติที่9
[10] รักมิติที่10
[11]
ถาม-ตอบ
[12]
ถาม-ตอบ
[13]
ถาม-ตอบ
[14]
ถาม-ตอบ
[15]
ถาม-ตอบ
[16]
ถาม-ตอบ

ความรัก ๑๐ มิติ โดย พระโพธิรักษ์

มิติที่ ๑๐

เรียกว่า ความรักของพระโพธิสัตว์กับความรักของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ความรักของพระโพธิสัตว์กับความรัก ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น เราไม่เรียกว่าความรัก เราเรียกว่า “ความรู้” เรียกว่าโพธิญาณหรือสัพพัญญู พระโพธิสัตว์ จะมาเรียนรู้ให้หมดเลยว่า โลกนี้เขารักอะไรกัน มาเรียนรู้ว่าการ เสียสละยังไงถึงจะเสียสละได้ดีที่สุด แน่ะ ชอบกลแฮะ พระโพธิสัตว์นี้มาเรียนรู้ถึงสิ่งเหล่านี้ มาเรียนรู้ว่าเขาเสียสละกันยังไงมันถึงจะเป็นการเสียสละที่มีค่าที่สุด แสดงกายกรรมอย่างไร แสดงวจีกรรมอย่างไร และแสดงมโนกรรมอย่างไร พระโพธิสัตว์มาเรียนรู้เรียกว่า โพธิญาณ หรือสัพพัญญู

เรียนแล้วทำอย่างไร เรียนรู้แล้วก็พึงกระทำสิ่งนั้นให้แก่โลกโดยไม่ต้องมีความรักก็ได้ ไม่ต้องรักนี่ ! ไม่ต้องรักเลย แต่ว่าแสดงทั้งกายกรรม ทั้งวจีกรรม และทั้งมโนกรรมที่มีค่า มีประโยชน์ให้แก่มนุษย์โลก มนุษยชน จนกว่าเราจะสิ้นชีพดับขันธ์ จึงเหนือกว่าพระอรหันต์ คุณอย่าได้เข้าใจว่า พระโพธิสัตว์นั้นเป็นผู้ที่ต่ำ
กว่าพระอรหันต์นะ พระโพธิสัตว์นั้นคือ พระอรหันต์ที่เรียนโพธิญาณเพิ่มขึ้น เพื่อไปสู่ความเป็นพระพุทธเจ้า เป็น สัพพัญญู

ดังนั้น มิติที่ ๑๐ นี้ จึงเป็นมิติที่สูงยอด มีค่าแก่โลกมาก เรียกว่า “พุทธภูมินิยม” หรือจะเรียกว่า “ธรรมนิยม” ก็ได้ กล่าวคือ ตัวเองไม่มีความรักแล้ว แต่ก็ยังมีร่างกาย ยังมีจิตใจและปัญญาที่เข้าใจแจ้งในความจริงแห่งการมีชีวิตอยู่ จึงต้องเรียนรู้ว่า จะช่วยโลกได้อย่างไร อะไรจึงเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด จะทำอะไรให้แก่โลกได้ดีที่สุด ก็เรียนรู้แล้วทำโดยไม่ต้องมีความรัก

มันเกินกว่าที่คุณจะคิดเล่นเผินๆ หรือจะรู้ได้ถูกแท้ โดยง่าย เอ๊ะ... ไม่มีความรักแล้วมันจะทำอะไรได้อย่างไร มันจะ มาทำงานให้แก่โลกได้อย่างไร อย่าคิดนะ ประเดี๋ยวสมองแตก สำหรับคนที่เห็นว่ามันหนักเกินไป ไม่ต้องคิดหรอก แต่เป็นจริงเพราะผู้นี้ไม่เห็นแก่ตัวอย่างที่สุดแล้ว ก็ไม่เห็นมีอะไร ก็ทำให้แก่กันเข้าไปซี่ ยิ่งไม่เห็นแก่ตัวนั่นแหละยิ่งทำงานให้โดยไม่คิด เทียบเคียงใครเลย ไม่อิจฉาริษยาใครเลย ใครจะมีเกินหน้า เกินตา ใครจะทำน้อยกว่า แต่เราทำมากกว่า อย่างไรก็ไม่เดือดร้อนนี่ เพราะท่านไม่เห็นแก่ตัวจริงๆ ส่วนคนอื่นเห็นแก่ตัวอยู่ซี่ แหม...ฉันทำงานมาก เธอทำงานน้อย อะไรอยู่นั่นแหละ ฉันได้น้อย เธอได้มาก ! ฉันเสียเปรียบ เธอได้เปรียบ คนผู้ยังไม่หมด “ตัว” ไม่สิ้น “ตน” จริงๆ จะเดือดร้อนเพราะความเห็นนี้ตลอดกาล ส่วนพระโพธิสัตว์ท่านจะ “เสียเปรียบ” ได้ยันเต

ฉะนั้น คนจึงคิดไม่ค่อยถึง พระโพธิสัตว์นี้ท่านทำงานไม่ได้คิดถึงชีวิตตนเองนะ เพราะท่านไม่มีตัวตน ท่านไม่เห็นแก่ตัวแล้ว อันไหนดีท่านก็รู้ ศึกษาความดี ศึกษาสิ่งไหนดี สิ่งไหนถูก สิ่งไหนจะเป็นประโยชน์แก่โลก เหมาะแก่กาละ ท่านก็จะทำเหมาะสมตามหน้าที่ และสมควรที่สุดก็ทำ ทำจริงๆ เพียงเพื่อ “ประโยชน์ ของประโยชน์ ที่สำคัญและจำเป็นนั้นเอง ให้เกิดขึ้นในโลก” ด้วยความบริสุทธิ์ใจ เป็น “ธรรมาธิปไตย” แท้ๆ ไม่ได้ลำเอียงไปเข้าข้างฝ่ายใด ให้เป็นที่สุดเท่าที่สามารถจะทำได้ มี “ธรรม” เป็นใหญ่จริงๆ หรือจะพูดว่าลำเอียงก็ลำเอียงเข้าข้าง “ธรรม” ให้เป็นอยู่ ให้เจริญ ให้เหนือกว่าสิ่งใด

ความรักชนิดนี้จึงไม่ใช่ความรัก แต่เป็น “มหาความรัก” เพราะมันไม่มีความรักแล้ว มันไม่ได้เพื่อตัวเพื่อตนเพื่อบุคคล เพื่อเราเพื่อเขา ที่จำกัดจำเพาะลงไปตายตัว ณ ที่ไหน หรือแก่ใคร ที่เห็นแก่หน้า เห็นแก่คน เห็นว่าเป็น “ตัว” ของสิ่งที่เราหลงยึดว่าเราอยากให้จัดกว่าแรงกว่า จนเรียกได้ว่าลำเอียง ทว่ามันเพื่อ “ธรรม”
อันเป็นความสมควรตามธรรมจริงๆ ไม่ตายตัวอยู่ที่สังคมใดสังคมหนึ่ง ไม่ตายตัวอยู่ที่คนใดคนหนึ่ง แต่มันก็คนใดคนหนึ่งนั่นแหละ สังคมใดสังคมหนึ่งนั่นแหละ พูดไปแล้วก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร เพราะพระอรหันต์ซึ่งเป็นมิติที่ ๙ ก็หมดความรักแล้วตีกลับแล้ว ซึ่งก็ยากที่จะคิดให้เห็นหรือเชื่อได้ชั้นหนึ่งแล้ว ยิ่งมิติที่ ๑๐ อันยิ่งต้องตีกลับอีกหลายตลบ บอกว่า “ไม่มี” นั้น ก็ไม่มีแน่ๆ ไม่ได้โกหกเลย แต่ก็กลับ “มี” ในส่วนซึ่งเป็นสภาพที่คนธรรมดาๆ “ไม่เคยมี” มันจึงทำให้คนธรรมดาๆ รู้ในสภาพที่ “นอกโลกแห่งคนธรรมดาๆ” เขามีนี้ได้ยากจริงๆ เจ้าประคุณ !

มิติที่ ๑๐ จึงเป็นมิติที่ซับซ้อน หมุนรอบเชิงซ้อนที่น่าฉงน ที่ต้องคิดให้ดี มันยากขึ้นไปแล้ว แต่อาตมาเชื่อว่าพวกคุณนี่ ต้องเข้าใจพอได้ คงจะน้อยคนเหลือเกินหรืออาจจะไม่มีเลยที่ไม่เข้าใจ ที่อาตมาว่ามานี้เป็นอย่างนั้นจริงๆ

.. ความรัก ๑๐ มิติ
   [เลือกหนังสือ]
page: 10/16
   Asoke Network Thailand